หลังจากที่วานนี้ (13 ก.ย.66) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงมติที่ประชุม คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้เปลี่ยนวิธีการจ่ายเงินเดือนข้าราชการ จากเดิมจ่ายเดือนละ 1 รอบ เป็นเดือนละ 2 รอบ โดยจะเริ่ม 1 ม.ค.67 เป็นต้นไป เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ก็ทำให้โซเชียลมีเดียเดือดปุดๆ จนแฮชแท็ก #เงินเดือนข้าราชการ ขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 มาแรงในไทย
ข้าราชการ แฮปปี้ ‘ครม.’ ไฟเขียว แบ่งจ่ายเงินเดือน 2 รอบ เริ่ม ม.ค.67โดยเสียงส่วนมาก ไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนวิธีการจ่ายเงินเดือนข้าราชการเป็นเดือนละ 2 รอบ เช่น งวดรถ งวดบ้าน เขาไม่รับแบ่งนะครับ ใช้งวดแรกหมด งวด 2 นี่เหงื่อแตกแน่ๆ, ข้อดี คือ ได้เงินไว ข้อเสีย คือเงินไม่พอใช้, เสียเยอะกว่าแน่นอน
ชาวเน็ตเสียงแตก! หลัง ครม. ไฟเขียว แบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 รอบขณะที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ได้ออกมาโพสต์รัวๆ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว สมชัย ศรีสุทธิยากร เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวโดยระบุว่า
คิดใหม่ ทำเร็ว สร้างสรรค์ หรือ สร้างปัญหา
1. เป็นการคิดแบบเร็วๆ หรือมีการศึกษาวิจัยอยู่เบื้องหลัง และสอบถามความเห็นจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องหรือยัง
2. ระบบการเบิกจ่ายเงินเดือนของกรมบัญชีกลาง ต้องมีการปรับใหม่และทำเพิ่มเป็น 2 รอบต่อเดือน เป็นภาระทางธุรการแก่ข้าราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น คลังจังหวัด กองคลังของทุกหน่วยงานหรือไม่
3. ระบบเงินเดือนข้าราชการยังผูกกับเงินหักหนี้สินต่างๆ เช่น เงินกู้สหกรณ์ เงินหักส่งสวัสดิการต่างๆ ซึ่งหักเป็นรายเดือน ระบบดังกล่าวต้องแบ่งเป็น 2 งวดตามด้วย หากแบ่งไม่ได้ จะเป็นการสร้างภาระแก่ข้าราชการในครึ่งเดือนแรก
4. ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ เงินกู้ธนาคาร หนี้บัตรเครดิต ทั้งหมดชำระเป็นรายเดือนและเป็นของเอกชน ที่อาจไม่สามารถขอผ่อนผันจ่ายเป็น 2 งวดต่อเดือนได้
5. คิดใหม่ ทำเร็ว ควรมีการศึกษาวิจัย และถามความเห็นจากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องก่อน เพราะที่นี่ไม่ใช่แสนสิริ และใครผ่อนคอนโดแสนสิริ อย่าลืมขอใช้สิทธิผ่อนเป็น 2 งวดต่อเดือนด้วย
ทั้งนี้ นายสมชัย ยังได้โพสต์ต่ออีกว่า บทเรียนที่ 1 สำหรับรัฐบาลเพื่อไทย คือ
1. มติ ครม. ที่ควรจะเป็นข่าวดีให้ประชาชนชื่นชม มีตั้ง 7-8 เรื่อง ไปๆ มาๆ โดนกลบด้วยเรื่อง แบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 งวด ให้ข้าราชการด่าทั้งประเทศ ขึ้นทวิตเตอร์อันดับหนึ่งเรื่องเดียว เรื่องดีๆ อื่นๆ คนแทบไม่พูดถึง
2. การทำงานของไทยรักไทยในอดีต ใช้วิธีการสำรวจ วิจัย ก่อนออกเป็นนโยบาย ทำให้นโยบายตรงใจประชาชน แต่เรื่องนี้กลับตรงข้าม ไม่ทันถามข้าราชการก็ฟันเปรี้ยงว่าจะเริ่ม 1 ม.ค.67 สรุป อื้ออึงไปด้วยเสียงคัดค้าน
3. สมัยคุณทักษิณ การเปลี่ยนแปลงยังรู้จักทดลองใช้ในบางที่ก่อน แบบ sand box เช่น อาจสามารถโมเดล สมัยนี้ คุณเศรษฐา อาจชอบทุบโต๊ะเอา โดยตัวเองก็ไม่รู้เรื่องราชการเสนอว่า ทดลองใช้ กับข้าราชการในสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีก่อน 3 เดือนดีไหม
4. ถ้า feedback ดีก็เดินหน้า แต่ถ้าแย่ก็ควรถอยทั้งหมดจะเข้าท่ากว่ารักษาหน้า โดยทำเป็นทางเลือก หนึ่งประเทศสองระบบ ใครอยากได้แบบไหนก็จะจัดระบบให้มันเหนื่อยคนทำ กรมบัญชีกลางก็กล้าๆ พูดหน่อย ไม่ใช่ได้ครับผมเหมาะสมครับท่าน
ทั้งนี้ ก็ต้องรอดูว่านายเศรษฐา และคณะรัฐมนตรี จะมีความเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไปเกี่ยวกับประเด็นนี้