เพื่อไทยงานงอก! ‘สว.สมชาย’ แทงกั๊ก โหวต ‘เศรษฐา’ นั่งนายกฯ ยัง 50/50

ระทึกได้อีก! ‘สว.สมชาย’ แทงกั๊ก โหวตนายกรัฐมนตรี รอบ 3 เพื่อไทยชง ‘เศรษฐา’ ฉลุยหรือไม่ ยัง 50/50

กระแสการเมืองช่วง 1-2 วันนี้ยังร้อนแรง และเป็นที่จับตาของคนทั่วประเทศและทั่วโลก ขณะที่วานนี้ (20 ส.ค.66) นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก สมชาย แสวงการ โดยอ้างถึง “ดีลลับสิงคโปร์” ความว่า #เลือกตัดสินใจกันให้ดี

21 ส.ค.รอดูแถลง

22 ส.ค.รอโหวตผ่านหรือไม่

#ดีลลับสิงคโปร์

นอกจากนี้ ยังระบุว่า #เงื่อนไขสุดท้าย #ดีลลับสิงคโปร์ #ม้วนเดียวจบหรือม้วนเดียวจอด

1) เปลี่ยนตัวแคนดิเดตนายกฯ

2) กลับไทยเข้ากระบวนการรับโทษ

3) เลิกคิดล้มรัฐธรรมนูญปราบโกง

4) รัฐบาลสลายขั้วปกป้องสถาบัน

วันนี้ (21 ส.ค.66) นายสมชาย ได้ให้สัมภาษณ์ ในรายการเจาะลึกทั่วไทย ว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับ สว. เป็นเรื่องที่เขาตกลงกันเอง เพราะกำลังมีการดีลที่สิงคโปร์ และเรื่องการเปลี่ยน หรือไม่เปลี่ยนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทยที่ต้องยอมรับก่อนนะว่า ไม่ได้ติดใจพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เพราะเป็นไปโดยชอบอยู่แล้ว

เพราะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรคเพื่อไทยมี นายเศรษฐา ทวีสิน, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และนายชัยเกษม นิติสิริ อยู่แล้ว แต่ตอนนี้เรายังไม่ทราบเลยว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอชื่อใคร และได้ถามในห้องประชุมวิป 3 ฝ่ายแล้ว ยืนยันว่าเป็นนายเศรษฐา แต่ส่วนตัวได้ข่าวมาว่า อาจจะมีการเสนอให้ทราบในวันนี้ หรือพรุ่งนี้ ซึ่งกระทันหันที่จะตรวจสอบคุณสมบัติ ความประพฤติ พฤติกรรมทางจริยธรรม

“ผมเองเป็นห่วงเพราะนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดังออกมาถล่มเยอะ และข้อมูลที่นายเศรษฐาชี้แจง ก็ยังมีประเด็นที่น่าเป็นห่วง ส่วนตัวอยากเห็นการจัดตั้งรัฐบาลผ่าน แต่ยังมีเสียงกังวลเรื่องนี้จากทั้งตลาดหลักทรัพย์ หุ้น นอมินีต่างๆ ซึ่งเป็นปกติของ สว. ที่ต้องมีการตรวจสอบเรื่องความซื่อสัตย์ และพฤติกรรมจริยธรรม ซึ่งถ้าเป็นส่วนนี้อาจทำให้เสียงก้ำกึ่ง ที่จะผ่านหรือไม่ แต่หากเป็นคนอื่น อาจปัญหานี้น้อย” นายสมชาย กล่าว และว่า

“เรื่องดังกล่าวไม่ได้เป็นข้อต่อรองจากเรา แต่เท่าที่ทราบกำลังมีการพูดคุยกันในฝ่ายที่จะมีการจัดตั้งรัฐบาล โดยสว.ทราบว่า กำลังมีการพิจารณาทบทวนนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นเงื่อนไขในการเสนอชื่อโหวตนายกรัฐมนตรี ส่วนโพสต์ดังกล่าวจะทำให้หลายคนเข้าใจว่า นี่คือเงื่อนไขที่จะโหวตให้ หรือไม่โหวตให้ ก็ตีความได้ วันนี้รอดูดีกว่าว่า ตกลงเป็น นายเศรษฐา หรือเปลี่ยนตัวหรือไม่ ถ้าไม่เปลี่ยนก็จะเป็นเงื่อนไขที่ค่อนข้างไปได้ แต่อาจจะ 50/50 แต่ถ้าเปลี่ยน ผมก็คิดว่าน่าจะผ่าน”

นอกจากนี้ นายสมชาย ยังกล่าวว่า ตัวคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรีนั้น ตามมาตรา 160 (4) คือ ซื่อสัตย์สุจริต และไม่ผิดจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งฟังจากคลิปและเอกสารที่แถลงแล้ว ส่วนตัวมองว่ายังไม่เคลียร์เรื่องบริษัทแสนสิริ ทั้งนอมินี ต่างๆ

ซึ่งไม่ว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนใดก็ต้องตรวจสอบคุณสมบัติเหมือนกัน ซึ่งสำหรับพรรคเพื่อไทย หากนายเศรษฐาโหวตไม่ผ่าน เสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร อาจจะผ่านก็ได้ ไม่ต้องถึงพรรคภูมิใจไทย ที่จะเสนอชื่อ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยหรือพรรคพลังประชารัฐที่จะเสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคหรือไม่ วาทกรรมแบบนี้กล่าวหากันไปเรื่อย

ส่วนประเด็นของ นายเศรษฐา นั้น เป็นภาพของความซื่อสัตย์สุจริต จริยธรรม ซึ่งอาจจะหลายข้อมากกว่านั้นก็ได้ ไม่ได้หมายความว่าเราฟังข้อมูลจาก นายชูวิทย์ แล้วเชื่อ แต่มีเอกสารซึ่งเป็นเอกสารราชการที่เราตรวจสอบได้ ซึ่งถ้านายเศรษฐา เคลียร์และตอบได้ อธิบายในรัฐสภาได้ยิ่งดี

ทั้งนี้ ความจริงพรรคเพื่อไทยควรที่จะแถลงให้สาธารณชนได้รับทราบถึงแนวนโยบายด้วย เพราะที่ผ่านมา ตอนจับมือ 8 พรรคเอ็มโอยูนั้น เป็นของแกนนำพรรคก้าวไกล แต่ยังไม่เห็นในส่วนของแกนนำรัฐบาลเพื่อไทย ซึ่งก็รอฟังอยู่

“ส่วนตัวยังติดใจ เรี่องตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ขึ้นมาเพื่อทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ส่วนตัวไม่ได้ปกป้องว่าแก้ไขไม่ได้ แต่การศึกษารายงานมีกรรมการหลายชุดแล้ว พบว่า ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินมากถึง 15,000 ล้านบาท เราสามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญร่วมกันได้ เพราะไม่มีหลักประกันว่า ออกมาแล้วจะดีกว่าเดิมหรือเข้าไปแก้ไขปัญหาเดิม” นายสมชาย กล่าว

คลิปอีจันแนะนำ
สว.วันชัย มั่นใจ สว.พร้อม! ทุ่มโหวตเศรษฐาเป็นนายก