ทำเอาแฟนคลับใจหายหนักมาก
เมื่อ “โมจิโกะ” ออกมาประกาศเลิกเป็นยูทูบเบอร์แล้ว
เมื่อวานนี้ ( 5 มี.ค.67) น.ส.ธันยา เลิศสินธวานนท์ หรือ โมจิโกะ ยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง เจ้าของยูทูบ MOJIKO ที่มีผู้ติดตามมากถึง 3.41 ล้านซับ ได้โพสต์คลิปวิดิโอประกาศเลิกทำคลิปช่อง MOJIKO
โดยระบุข้อความต้นคลิปว่า
“โมคิดนานมากกับเรื่องนี้ สิ่งที่ติดอยู่ในหัวมาเป็นปี แต่ไม่กล้าตัดสินใจสักที เพราะว่าเราคิดหลายมุมมากๆ ทั้งคิดแทนคนดู คิดแทนทีมงาน คิดแทนพ่อแม่ คิดแทนลูกค้า จนทำให้เราติดอยู่กับจุดเดิมๆและไม่กล้าเปลี่ยนแปลงสักที”
โมจิโกะ เล่าว่า “โมเริ่มทำช่องยูทูบมาตั้งแต่อายุ 18 ปี จนตอนนี้กำลังอายุ 29 ปี รวมระยะเวลา 10 ปี เริ่มจากการเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ ก่อนจะมาลงตัวการเป็น Food lover ตะลุยกินตามล่าหาความอร่อย 200 – 300 ร้าน
เธอบอกว่ามันเป็นการทิ้งคนดูหรือเปล่า แค่เราเจอคนที่ติดตามเรา 1 คน แล้วบอกว่ารอดูคลิปเราอยู่นะ ซึ่งในใจเราคิดตั้งนานแล้วว่าเราจะเลิกทำ มันทำให้เรารู้สึกกดดัน ว่าเราทำถูกไหม สิ่งที่เราเลือกถูกต้องหรือเปล่า หลังจากที่คลิปนี้มันออนแอร์ไปแล้ว มันจะส่งผลต่อความรู้สึกโมให้โมลังเล
10 ปีที่แล้ว ที่เธอเป็นบิวตี้บล็อกเกอร์ เพราะที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับสกินแคร์ เป็นผู้จัดจำหน่ายนำเข้าสกินแคร์จากต่างประเทศ ตอนนั้นเธออายุ 18 ปี เธอดูรายการพี่โมเมพาเพลิน ติดตามทุกอาทิตย์ และคิดในใจว่า เห็นเขาใช้สินค้าอะไร เราก็อยากใช้บ้าง ถ้าฉันเป็นคนคนนั้นได้บ้าง เราจะทำให้ธุรกิจครอบครัว ขายของได้ง่ายขึ้นไหม
กระทั่งปีที่ผ่านมา คุณพ่อกับคุณแม่เกษียณแล้ว เขาไม่ได้บอกเราเลยว่าต้องไปทำแทนเขานะ แต่สิ่งที่เธอเห็นคือโอกาส และเหตุผลที่ทำให้เธอเริ่มทำยูทูบ เธอบอกว่า เราแค่รู้สึกลึกๆ เฉยๆไปคนเดียว ว่าถ้าเราทำสกินแคร์ที่มันเป็นราคาที่เข้าถึงง่ายสำหรับโลกออนไลน์ ไม่เหมือนเมื่อก่อนที่บ้านเธอขายราคา 5,000 – 7,000 บาทต่อขวด เธอนำสมบัติความรู้มาสานต่อ มันน่าจะดีมากเลย ซึ่งคิดอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องทำ และมีเวลาด้วย
โมจิโกะ ยังปฏิเสธว่า ความรักไม่ได้ทำให้เธอเปลี่ยนไป แต่เขากลับเป็นกำลังใจให้ เหมือนเป็นคนที่เข้าใจ ซึ่งตอนนี้เธออยู่ในสภาวะความเครียด เครียดกับการหาทางออก ในการพาตนเอง พาเพื่อนร่วมงาน พาความฝัน และครอบครัว รวมถึงสร้างประโยชน์ให้ทุกคนมากกว่านี้ ซึ่งเธอเชื่อว่าเป็นได้มากกว่า Food lover และมีความฝันอีกหลายอย่างที่อยากจะทำ
ที่ผ่านมา 2 ปี เธอได้พยายามทำธุรกิจคู่กับยูทูบเบอร์แล้ว จนมันเริ่มถึงจุดที่แอบกลัวตัวเอง ซึ่งเวลาเครียด มีกล้องมาก็ต้องยิ้ม ทำเหมือนว่าไม่เคยผ่านมรสุมความเครียดมาก่อน ซึ่งเป็นแบบนี้หลายครั้ง จนตอนนี้รู้ว่ากลัวตัวเอง เราอยากมีพื้นที่ที่ไม่ต้องสวิตซ์อารมณ์ตัวเองขนาดนั้น
ในฐานะที่เธอเป็นหัวหน้าบริษัท อยากให้ทีมงานได้พัฒนาศักยภาพ และรายได้ของตัวเองทุกปี แต่เมื่อรายได้การเป็นอินฟูเอนเซอร์มันเท่าเดิมและลดลง ถ้าเรายังฝืนทำตรงนี้ต่อ เราจะหาเงินที่ไหนมาให้พนักงาน แต่ถ้าเขาจะไปทำที่ไหนต่อเรายินดี แต่อย่าให้ทุกคนมาเสี่ยงเพราะการตัดสินใจของเรา
ถ้าถามถึงว่าจะได้เจอกันอีกไหมกับคนดู เธอเผยว่า การที่ทำคลิปนี้ เป็นการบอกว่า เราไม่ต้องแบกเยอะขนาดนั้น เพื่อไปโฟกัสกับอีกเรื่องมากขึ้น ส่วนเรื่องจะเจอกันไหมในยูทูบ เธออยากให้เป็นไปตามธรรมชาติ และเธอยังให้คำตอบไม่ได้ว่าจะกลับมาทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องอะไร และบอกอีกว่าอย่าโกรธเธอเลย