จุดกำเนิดสัปเหร่อศพเด็ก “ลุงสนม” ตำนานสัปเหร่อผ่าศพตายทั้งกลมคนสุดท้ายในไทย

เปิดตำนานหลอน การกำเนิดสัปเหร่อศพเด็ก ลุงสนม สัปเหร่อผ่าศพตายทั้งกลมคนสุดท้าย ในประเทศไทย กับอาชีพต้องคำสาป? ไม่ใช่ใครก็ทำได้

ความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน จากความเดิมตอนที่แล้ว อีจันพิศวงเดินทางไปบ้านลุงสนม หรือ นายสนม ผิวบาง สัปเหร่อผ่าศพตายทั้งกลม คนสุดท้ายของไทย ที่ตั้งอยู่ในศูนย์กู้ภัยวิเศษวิชัยชาญ จ.อ่างทอง เมื่ออีจันได้ตัดสินใจ เข้าพิธีอาบน้ำมนต์ล้างอาถรรพ์ โดยลุงสนมใช้ตะปูเจ็ดป่าช้า ที่ใช้ผ่าศพตายทั้งกลมมาแล้วนับไม่ถ้วน เข้ามาขูดตามร่างกาย และอาบน้ำมนต์เพื่อล้างของสกปรก ข้างในร่างกายออกให้หมด ซึ่งเรื่องราวของลุงสนม ยังไม่จบเพียงเท่านี้ค่ะ

เรื่องราวนี้ พาทำความรู้จัก จุดกำเนิดสัปเหร่อศพเด็ก…
เริ่มจาก ลุงสนมเริ่มเรียนตำราเขมร ที่วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี และเรียนได้อยู่ปีกว่า ก็เดินทางไป จ.สุรินทร์ เพื่อไปเรียนตำราเขมรกับอาจารย์เกษม ซึ่งอาจารย์เกษมได้บอกกับลุงสนม ว่า “ไม่มีอะไรให้นะ” แต่สิ่งเดียวที่จะให้ คือลูกการ้องมา 1 ลูก เพื่อเอาไว้ติดตัว และช่วยเหลือคน อีกทั้งยังกำชับอีกว่า “ห้ามไปเรียกเงิน เรียกทองกับใคร” คำนี้ของอาจารย์เกษม ทำให้ลุงสนมจำขึ้นใจ

อีจันพิศวงสงสัย เลยถามว่า “ลุงสนมเรียนผ่าศพ ตายทั้งกลมมาจากไหน”

ลุงสนมตอบว่า “อาจารย์ชวน แก้วมีศรี ซึ่งเป็นญาติของตน เป็นคนสอนวิชาสัปเหร่อ ให้กับตัวของเขา”
โดยลุงสนมยังบอกอีกว่า วิชาสัปเหร่อ จะไม่มีตำราเรียน เพราะ ต่างคนต่างวิชา วิชาใครจะเก่งไม่เก่ง นั่นก็คือ ปากต่อปาก และต้องถ่ายทอดรุ่นสู่รุ่นเท่านั้น

ในขณะนั้น ลุงสนมก็ร่ำเรียน และรับจ้างเกี่ยวข้าวไปด้วย เมื่อเรียนจบ ระยะเวลาไม่ถึงเดือน อาจารย์ก็เสียชีวิตลง หลังจากอาจารย์เสียชีวิต ลูกชายก็นำมีดไปเก็บในตู้กระจกไว้อย่างดี เกิดเรื่องหลอนทำให้คืนนั้น นอนไม่ได้ เพราะ เสียงดังทั้งคืน จากนั้น เมียจึงบอกลูกชายของอาจารย์เกษม ให้นำมีดเล่มนี้ไปให้ลุงสนมทันที

ซึ่งมีดเล่มนี้ มีความเชื่อว่า ยังคงต้องให้ลุงสนมนำมาใช้ประโยชน์ เพื่อช่วยเหลือคน

ลุงสนม บอกอีกว่า อาจารย์ชวน ท่านบอก “การเป็นสัปเหร่อ เงินในปาก ในมือ ห้ามแตะต้องเด็ดขาด
ลุงสนมบอกต่อ ใครจะหยิบก็หยิบ แต่ลุงสนมจะเผาทิ้ง และชีวิตนี้จะใช้ชีวิตแบบสมถะเท่านั้น“

ในสมัยนั้น ลุงสนมจะใช้รถ เป็นที่ทำงานในการผ่าศพตายทั้งกลมเป็นประจำ จนกระทั้งโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ ก็จะเรียกให้ลุงสนมเข้าไปช่วยผ่าศพ แต่งศพ ทุกครั้ง จนตอนหลัง ลุงสนมจึงได้สร้างห้องดอกแก้ว ซึ่งเป็นเวลากว่า 43 ปีแล้วจุดประสงค์ในการสร้างห้องนี้ เพื่อใช้ในการผ่าศพตายทั้งกลม ห้องดอกแก้วเป็นที่เดียว และที่แรกในประเทศไทย

ลุงสนมยังบอกว่า “การที่สร้างห้องดอกแก้วมาได้ เป็นเพราะความดี และเขาเป็นกู้ภัยอันดับหนึ่งใน จ. อ่างทอง ที่ช่วยเหลือประชาชน”

ถึงแม้อาชีพสัปเหร่อ จะมีคนมองข้ามไป แต่เมื่อพอถึงวาระสุดท้าย ทุกคนต้องพึ่งสัปเหร่อ เพราะสัปเหร่อเป็นคนเดียว ที่จะพาดวงวิญญาณทุกคนไปสู่สุขติ

เรื่องมีดในตำนาน!
สำหรับมีดของลุงสนม ได้ครอบครองมาเป็นเวลา 40 – 50 ปี และได้ใช้ในการผ่าศพตายทั้งกลมนั้น ได้รับมาจากอาจารย์คนที่ 3 ซึ่งทำมาจากตะปู 7 ป่าช้า และทุกครั้งในการผ่าศพตายทั้งกลม ลุงสนมจะไม่มีการสะกดดวงวิญญาณ เพราะสิ่งที่เขาทำทุกวันนี้ คือ การช่วยเหลือวิญญาณทุกดวง และเขาไม่ต้องการเรียกร้องเงินจากใคร

อีจันถามต่อ “ถ้าโรงพยาบาลเขาไม่ผ่า แต่เขาไม่รู้จักลุง ขั้นตอนในการฌาปณกิจศพ ต้องทำอย่างไร”
ลุงสนมบอกว่า “เดี๋ยวเขาก็ติดต่อทางกู้ภัย กู้ภัยทุกจังหวัดเขาจะรู้จักลุงสนม เพราะห้องดอกแก้ว มีที่เดียวในประเทศไทย” และลุงสนมยืนยันอีกว่า เขาคือสัปเหร่อคนเดียวในประเทศไทย ซึ่งการเป็นสัปเหร่อนั้น รูป รส กลิ่น เสียง ต้องละเว้นทั้งหมด

สุดท้ายแล้ว ลุงสนมคือสัปเหร่อ คนเดียวในประเทศไทย ที่ทำถูกต้องตามหลักกฎหมาย และศาสตร์พิธีกรรมความเชื่อ โดยลุงสนมยังเป็นที่ยอมรับของหน่วยกู้ภัย ที่เขามักจะนำร่างของผู้เสียชีวิตตายทั้งกลม มาผ่าเอาเด็กออก ก่อนที่จะนำร่างผู้เป็นแม่ ไปทำฌาปณกิจตามหลักศาสนา ซึ่งในปัจจุบันนี้ ก็ยังไม่มีคนมาสืบทอดวิชาสัปเหร่อ ต่อจากลุงสนมได้ เพราะการเป็นสัปเหร่อ จะต้องมีความกล้าเป็นที่ตั้ง และต้องรักษาศีลอีกด้วย

เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ


คลิปอีจันแนะนำ

จุดกำเนิดสัปเหร่อศพเด็ก “ลุงสนม” สัปเหร่อผ่าศพตายทั้งกลม คนสุดท้อยของไทย EP.3 | อีจันพิศวง