เห็นแล้วท้อ ได้แต่ส่งกำลังใจ
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความที่แสดงถึงอาการตกใจและตัดพ้อ เมื่อเธอได้รู้เงินต้นและดอกเบี้ยที่ธนาคารหักเป็นค่าบ้านไป
โดยข้อความที่โพสต์คือ
ว่าด้วยเรื่องซื้อ บ้านนนน !!!!!!
ผ่อนบ้านมาจะ 3 ปี ไม่เคยได้ใบเสร็จ เพราะหักเงินเดือนมาตลอด วันนี้ไปธนาคารเลยไปทำแอป
พอเปิดดูใบเสร็จจ่ายค่าบ้านเท่านั้นแหละ
คุณพระ !!! จ่ายค่าบ้าน 14,200 บาท
หักเงินต้น 580.34 บาท
ดอกเบี้ย 13,619.66 บาท
คำถามในใจคือ บ้านจะหมดเมื่อไหร่ ชาติไหน
อยากจะร้องไห้
ทั้งนี้ ในการยื่นกู้เพื่อซื้อบ้านกับธนาคาร ดอกเบี้ยของแต่ละธนาคารก็จะแตกต่างกัน รวมทั้งดอกเบี้ยคงที่ในช่วงปีแรก หรือ 3 ปีแรก ก่อนจะปล่อยดอกเบี้ยลอยตัว ดังนั้นเงินต้นและดอกเบี้ยที่หักไปจะแตกต่างกัน
อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ ( 7 ก.พ.67) คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้แถลงผลการประชุมว่า ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.50% ต่อปี หมายความว่า ดอกเบี้ยบ้าน ดอกเบี้ยเงินกู้ จะยังคงเดิม
สำหรับผู้ที่อยากผ่อนบ้านหมดได้ไว บางรายอาจเร็วขึ้นถึง 10 ปี มาดูวิธีกันค่ะ
1. เร่งโปะในช่วงอัตราดอกเบี้ยต่ำ : ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่เหมาะกับการผ่อนแต่ละงวดให้เยอะ หรือชำระค่าผ่อนสินเชื่อในแต่ละเดือนให้จำนวนมากกว่าอัตราเรียกเก็บ เพื่อให้เงินส่วนเกินถูกนำไปหักในส่วนของเงินต้นเยอะขึ้น
2. ผ่อนให้เยอะกว่าค่างวดทุกเดือน : จะทำให้เงินต้นลดลง ไม่ว่าจะจ่ายเกินกว่าที่ธนาคารกำหนดเพียงหลักร้อย หรือหลักพัน เงินที่จ่ายเกินมานั้น จะถูกนำไปตัดเงินต้นทันที
3.หางวดโปะเงินก้อนใหญ่ปีละครั้ง : เมื่อมีโอกาสมนุษย์เงินเดือน ในทุกกลางปีหรือสิ้นปี อาจได้รับโบนัสเป็นเงินก้อนมา ซึ่งเงินก้อนนี้อาจแบ่งมาจำนวนหนึ่ง เพื่อโปะเข้าไปในงวดผ่อนชำระ จะช่วยให้เงินต้นลดลงได้เร็วขึ้นอีก
4.เลือกรีไฟแนนซ์ หรือรีเทนชั่น ทุก 3 ปี : เมื่อผ่อนสินเชื่อไปจนสิ้นสุดช่วงปีที่ 3 แล้ว อัตราดอกเบี้ยส่วนใหญ่จะสูงขึ้น ทำให้ยอดผ่อนชำระในแต่ละเดือน ถูกหักออกไปกับดอกเบี้ยเยอะขึ้น และส่วนของเงินต้นก็ถูกหักไปน้อยลง หากต้องการให้อัตราดอกเบี้ยกลับมาลดลงอีกครั้ง
5.ผ่อนชำระให้ตรงเวลา : การผิดนัดผ่อนชำระค่าบ้าน หรือผ่อนชำระไม่ตรงเวลา หากเกิดขึ้นบ่อยๆ นอกจากจะทำให้ต้องชำระค่าผ่อนบ้านสูงขึ้นแล้ว ดังนั้นจึงควรผ่อนชำระตรงเวลาทุกงวดจะดีที่สุด
ใครที่ผ่อนบ้านอยู่แล้วใกล้ครบกำหนดสัญญาดอกเบี้ยงคงที่ ตรวจสอบให้ดีนะคะ จะได้รีบติดต่อธนาคารก่อนที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยลอยตัว