ลูกค้าเล่า ไปเที่ยวแต่เกิดอุบัติเหตุในที่พัก แต่ที่พักขอจ่ายแค่ 3,000

อุทาหรณ์สำหรับสายเที่ยว ลูกค้าเล่าประสบการณ์ไปเที่ยวภูทับเบิก เกิดอุบัติเหตุในที่พัก แต่โฮมสเตย์ขอเยียวยา 3,000 บาท

อุทาหรณ์สายเที่ยว ไปเที่ยวก็อยากพักผ่อน แต่กลับเกิดอุบัติเหตุที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น

ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์บนกลุ่ม “ชมรมคนรักเขาค้อ – ภูทับเบิก” เล่าประสบการณ์ไปเที่ยวที่ภูทับเบิก ว่า

“ผมคนนึงที่ชอบและหลงรักภูทับเบิก วันนี้จะขอมาแชร์ประสบการณ์อุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้นหน้าห้องพัก ที่ภูทับเบิก

เราจองกันมาทั้ง 3 ห้อง รวม 5,200 บาท

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. 65 มัดจำไปแล้วครึ่งหนึ่ง ทางผมเป็นผู้ชำระโอน

เช้าวันที่ 14 ต.ค. 65 ปกติผมชอบเอากาแฟมาดริปหน้าห้อง พอเดินที่พื้นเพียงก้าวเดียว พื้นแตกทำให้ขาหลุดลงไป หนีบและขูด ทำให้เกิดแผลที่ขา 2 บริเวณ ใต้หัวเข่า และ หน้าแข้ง ผิวหนังชั้นนอกถลอก เปิด หลุด ขาด เนื้อปูดเท่าลูกเทนนิสทั้ง 2 ที่ กระดูกไม่หัก ไม่ทะลุ พอขยับได้

ตอนเกิดเหตุทางที่พักได้ให้อาสามาทำบาดแผลให้เบื้องต้น เพื่อให้ลงไปด้านล่างได้ (ที่พักแจ้งว่ารถรพ./มูลนิธิ ไม่สามารถขึ้นมาได้)

หลังเกิดเหตุทางที่พักได้เรียกเก็บค่าที่พักส่วนที่เหลือ กับค่าบริการเพิ่ม (ค่าน้ำแข็ง ค่าถ่าน ค่าข้าว ประมาณ 300 บาท) กับเพื่อนอีกห้องหนึ่ง ไม่มาเรียกเก็บกับทางผม

ทางที่พักได้แจ้งว่าค่ารักษาเท่าไรให้ส่งมาได้เลย จะช่วยเหลือเต็มที่

จึงรอให้แผลที่ปูดขึ้นค่อยๆ ยุบลง และฝืนขับลงมา (แผลมีเลือดซึมแต่ไม่มาก) ผมยังมึนๆ เบลอๆ เลยให้แฟนขับกลับกทม. ถึงค่ำ เลยล้างแผลกันเองก่อน

เช้ารุ่งขึ้น 15 ต.ค. 65 ได้ไปรพ. คุณหมอ ทำการล้างบาดแผล ขูดผิวหนังที่ตายออก และเย็บเนื้อที่หลุดห้อย (ประมาณ 3 ตร.ซม.) 6 เข็ม , ฉีดยาบาดทะยัก 1 เข็ม , คุณหมอให้หยุดพัก 5 วัน , ค่ารักษาหมดไป 8,727 บาท

ต้องล้างแผลทุกวันวันละ 400 บาท เป็นเวลา 7 วัน ถึงจะตัดไหม ตัดไหมอีกประมาณ 3,000 – 4,000 บาท

ประเด็นคือ

วันที่ 14 – 15 ต.ค. 65 ที่พักก็มีถามถึงอาการว่าเป็นยังไงบ้าง

วันที่ 15 ต.ค. 65 ได้ส่งใบเสร็จไปให้ที่พักช่วงเที่ยง แต่ที่พักแจ้งว่าจะโทรกลับมาช่วงเย็น แต่ก็ไม่ได้โทรกลับ โดยให้เหตุว่าลูกค้าเยอะ

วันที่ 16 ต.ค. 65 จึงได้เรียกร้องค่าเสียหายไป 10,000 บาท จากทั้งสิ้นประมาณ 15,000 บาท

ที่พักแจ้งว่ารอลูกค้าเช็กเอาต์ให้หมดเสียก่อน หลังจากนั้นทางที่พักขอชดใช้ที่ 3,000 บาท โดยให้เหตุว่าทางที่พักเป็นเพียงโฮมสเตย์เล็กๆ ดังนั้นทางผมเลยไม่ขอรับไว้ ซึ่งค่าเสียหายทั้งหมด รวมถึงค่าชดเชยทางผมจะให้ทางทนายส่วนตัวดำเนินการ ที่ให้ทางทนายดำเนินการ ผมเห็นว่าทางที่พักบ่ายเบี่ยงประวิงเวลาตั้งแต่วันที่ 15 ที่อ้างว่าลูกค้าเยอะต้องรอเช็กอินเช็กเอาต์ให้หมดเสียก่อนถึงจะว่าง (ที่พักมี 5-6 ห้อง) พอแจ้งค่าเสียหายไปย้อนแย้งว่าเป็นโฮมสเตย์เล็ก (ประมาณว่าลูกค้าน้อย)

ทางผมสามารถส่งเรื่องให้ตรวจสอบวัสดุในการสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานของที่พักที่ไหนได้บ้าง เพราะอันตรายต่อผู้เข้าพักต่อไปแน่นอน

เนื่องจากที่พักได้นำแผ่นสมาร์ทบอร์ดขนาด 10 มม. ที่ใช้สำหรับปูฝ้า ผนัง มาปูที่พื้น และไม่มีเหล็กดามทุกจุด ซึ่งแผ่นแบบนี้จะเกิดอาการกรอบ แตกหักง่าย เมื่อเจอความชื้นและแห้งซ้ำไปมา

ถามว่าอุบัติเหตุมีใครอยากให้เกิดไหม ก็คงไม่ โดยเฉพาะกับหน้าห้องที่พักเอง ซึ่งอยู่บนเนินสูง หากคิดว่าถ้าเกิดล่วงหล่นไปทั้งตัว และเป็นบริเวณหน้าผา จะเกิดอะไรขึ้น เพียงเพราะการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน และการขาดความรับผิดชอบ

ถ้าเกิดเหตุถ้าผมลื่นล้มเองที่เนินบันได หรือกลางทางเดินว่าไปอย่าง แต่นี้พื้นคือเขตหน้าห้อง ซึ่งควรเป็นพื้นที่ที่เราไว้ใจและต้องปลอดภัย

หากเกิดกับลูกหลาน หรือคนเฒ่าคนแก่ หรือเกิดเหตุที่ร้ายแรงมากกว่านี้ ใครจะรับผิดชอบ หรือทางที่พักจะรับผิดชอบไหวไหม”

อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกทีจริงๆ ค่ะ ต้องระวังกันให้มากนะคะ

คลิปแนะนำอีจัน
คนเป็นทำเพื่อคนตายครั้งสุดท้ายรับส่งให้ถึงบ้าน