ตื่นเช้ามากับความสดใสในยามเช้า แอดสดชื่นมาก เพราะบรรยากาศของโรงแรม พุทธรักษา สวยมาก ๆ มองออกไปคือ
มีต้นไม้สีเขียว สระว่ายน้ำสีฟ้า ดูเย็นตา อาบน้ำ เตรียมตัวออกเดินทางไป ปากน้ำปราณ เพื่อปฏิบัติภารกิจ ปล่อยน้องปูกัน เมื่อแอดมาถึงจุดหมาย ก็คือที่ “ปลาหมึกแดดเดียว ปากน้ำปราณ” โดยกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนประมงพื้นบ้าน ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี เรียบร้อย พี่ๆ ที่เป็นคนในพื้นที่ ก็มาต้อนรับอย่างอบอุ่น นอกจากนี้ยังได้เล่าถึงที่มาที่ไป สำหรับการทำโครงการ ธนาคารปู ของ ชาวประมง ที่นี่ พี่เขาบอกว่า ชาวประมง ที่จับปูที่มีไข่มาได้ เขาก็จะมาขายให้ที่นี่ เพื่อนำไปปล่อยต่อไป และชาวประมง ก็ได้รายได้อีกทาง แถมยังเป็นการอนุรักษ์น้องปู ด้วยไปในตัว ไม่ใช่จับเขาเพียงอย่างเดียว
แล้วที่แอดรู้สึก อิ่มใจมาก ๆ คือ ทุกครั้งที่มีนักท่องเที่ยวมา ปล่อยปู จะมีการจดเอาไว้ว่า ปล่อยไปแล้วกี่ตัว ซึ่งโครงการนี้เพิ่งก่อตั้งเพียงไม่นาน แต่นักท่องเที่ยวปล่อยไปแล้วมากกว่า 1000 ตัว เลยทีเดียว โห….เยอะมาก ๆ เลยนะเนี่ย แล้วแม่ปูที่เราปล่อยไป ในท้องของเขามีไข่ปูหลายร้อยฟอง และถ้าเขาสลัดไข่หมด ก็ยังมีอีกไข่ปูอีก 1 ชุดอยู่ในตัวเขาด้วย โอ้โห…นี่ถ้า ออกมาแล้วเขาฟักเป็นลูกปู เราจะได้ปูมากมายไปหมดเลย นอกจากนี้ยังได้ดูวิธีการทำปลาหมึกแดดเดียวด้วย
อ่ะถึงเวลาที่แอดจะได้ปล่อยปูแล้วนะคะ ก่อนปล่อยก็ต้องเขียนเลขที่กระดองแม่ปูด้วย เพราะเมื่อพี่ๆ ชาวประมง จับมาได้อีกครั้ง ก็จะทำการปล่อยลงทะเลไป ไม่นำขึ้นมา แม่ปูของแอด เขียนเลข 1088 เลขที่เขียนนี้ คือ เลขจำนวนตัวที่เราปล่อยน้องเขานั่นเองค่ะ
พอได้แม่ปูแล้ว เราก็นั่งรถซาเล้ง ที่พี่ๆ ชาวประมง ขออาสาเป็นสารถีให้เรา ไปยังจุดปล่อยปูกัน พอเราปล่อยแม่ปูลงน้ำ แม่ปูก็จะอยู่นิ่งๆ เพื่อปรับตัวสักพัก และก็จะค่อยๆขยับตัว หรือขุดทรายฝังตัว
เสร็จจากกิจกรรม ปล่อยปู แล้ว เราก็นั่งรถ ซาเล้งไปแวะชิมกาแฟโบราณที่ร้าน “กาแฟกิมฮง” แอดสั่งยกล้อ ไม่ใช่นั่งซาเล้งยกล้อนะ เมนูนี้ คือ โอเลี้ยงโรยนมสด หอม หวาน มัน เข้มข้น อร่อย
พักจนหายเหนื่อยจิบกาแฟชิล ๆ สไตล์โบราณย้อนยุคกันไปแล้ว เดินทางไปต่อกันที่ ร้านขายของฝาก “ร้านแม่จำปี” ที่นี่มีของฝากให้เลือกมากมาย โดยเฉพาะอาหารทะเลแปรรูปต่าง ๆ แอดนี่ซื้อมาเพียบ
เที่ยงแล้วท้องเริ่มร้อง หาข้าวกลางวันกินกัน เราแวะกินอาหารกันที่ร้านอาหาร “ครัวเจ๊แมว” ปากน้ำปราณ บอกเลยว่าที่นี่อร่อยทุกเมนู เพราะเขาคัดสรรวัตถุดิบจากทะเลสด ๆ มาปรุงให้เรากินกัน อร่อยมากเวอร์ แอดนี่ฟินทุกคำบอกเลย
อิ่มแล้วก็ไปเก็บภาพบรรยากาศชายหาดริมทะเล ปากน้ำปราณ ไฮไลท์ของปากน้ำอยู่ที่ “ต้นตาล 3 ต้น” ตั้งสง่าอยู่ริมทะเล เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตของที่นี่เลยล่ะจ้า มีเหรอแอดจะพลาด จัดสิคะรออะไร
หลังจากที่ถ่ายรูปที่จุดเช็คอินยอดฮิตอย่าง ต้นตาล 3 ต้นแล้ว ก็ไปต่อกันที่ “จุดชมวิวเขานาห้วย” เดินขึ้นไปด้านบนถึงจุดชมวิวแล้ว แอดมองลงมา บอกเลยว่าสวยมากเห็นบรรยากาศของต้นไม้ ภูเขาต่าง ๆ สูดหายใจลึกๆ รับบรรยากาศธรรมชาติชื่นใจสุดๆไปเลย
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เดินเที่ยวกันต่อจาก “จุดชมวิวเขานาห้วย” ไม่ถึง 10 นาที ก็จะเจอ “แกรนด์แคนยอนปราณบุรี” น้ำสีเขียวสวยมาก นั่งถ่ายรูปเก๋ๆ กันอีกสักนิด ก็ไปกันต่อเลยจ้า
ได้รูปสวยๆ แล้ว ไปออกกำลังกายกันต่อเถอะ เดินทางด้วยรถตู้กันต่อประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ ก็ถึง อ่าวประจวบฯ
ทะเลสวย น้ำใสขนาดนี้ อดใจไม่ไหวแล้ว ไปเล่น Sub board กัน ก่อนเล่น ก็ต้องฟังคุณครูที่จะมาสอนวิธีเล่นก่อนนะ
ฟังจบก็ไปเริ่มเล่นกันเล๊ย…. กว่าแอดจะยื่นได้ ก็ตกน้ำไปหลายรอบ กินน้ำทะเลไปหลายอึกเลยจ้า
พาย Sub board เหนื่อยแล้ว หิวแล้วล่ะ ไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกัน เราไปแวะทานกันที่ร้าน “ครัวอินทาวน์ ซีฟู้ด” ร้านอาหารรสเลิศ บรรยากาศริมชายทะเล กุ้งตัวโตๆ ปูเนื้อแน่นๆ กินไปฟังเสียงทะเลไป โอ้ย….แฮปปี้สุดๆ
หลังจากทานอาหารอิ่ม หนังท้องตึงแล้ว หนังตาก็เริ่มหย่อน ง่วงแล้วล่ะคะ วันนี้แอดเข้าเช็คอินพักกันที่
โรงแรม T Boutique Hotel ที่พักสวยๆ บรรยากาศดีเหมาะแก่การพักผ่อนมาๆ วันนี้แอดขอตัวไปพักผ่อนก่อนนะคะ
ไว้มีกิจกรรมอะไรสนุกๆจะมาเล่าไปฟังอีกนะ