เชียงใหม่ ดีเดย์! เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเชียงใหม่ วันแรก (1 ต.ค. 64)

เชียงใหม่เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว เริ่มวันนี้วันแรก (1 ต.ค. 64) พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทย-ชาวต่างชาติในประเทศไทย

วิกฤต โควิด ส่งผลกระทบอย่างหนักไปทั่วโลกประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน มองไปทางไหนมีแต่คนป่วย คนกักตัว ซ้ำร้ายกว่านั้นเศรษฐกิจชะงัก คนตกงาน กิจการปิดไปหลายกิจการ ความเดือดร้อนนี้แผ่ไปทั่วทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว

เชียงใหม่ คือหนึ่งในจังหวัดท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ ร้านค้าหลายแห่ง ต่างก็ทยอยปิดตัว สาเหตุสำคัญมาจากภาคการท่องเที่ยวที่หยุดชะงัก หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงต้องหาแนวทางเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยเร็วที่สุด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ (1 ต.ค. 2564) นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ได้แถลงข่าวเปิด ฤดูกาลท่องเที่ยวเชียงใหม่ “Open Chiang Mai to The Next Pages” พร้อมด้วย

นายธเนศวร์ เพชรสุรรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงศ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่นายสุนทร ยามศิริ

รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ และ นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมแถลงข่าว เพื่อประกาศถึงความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทย และกลุ่มชาวต่างชาติในประเทศไทย โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ (1 ต.ค. 2564)

ทำไมถึงต้องเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเชียงใหม่?

ก็เพื่อฟื้นฟูบรรยากาศการท่องเที่ยวไทย และกระตุ้นระบบเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศให้สอดรับกับฤดูการท่องเที่ยวของจังหวัดในช่วงปลายปีนั่นเอง

นายรัฐพล นราดิศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมรับนักท่องเที่ยวอย่างมาก โดยมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ทั้งที่พัก แหล่งท่องเที่ยว อากาศที่เย็นสบาย รวมถึงยังคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศ (ฉบับที่ 31) เรื่องแนวทางปฏิบัติตามคำสั่งและประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเพิ่มเติม ลงวันที่ 1 ก.ย. 2564

กำหนดให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด และเข้มงวด สามารถผ่อนผันไม่ต้องตรวจหาเชื้อ โควิด ได้ ในกรณีเป็นผู้ที่เคยป่วยด้วยโควิดไม่เกิน 3 เดือน นับจากการรักษาสิ้นสุด โดยแสดงหลักฐานใบรับรองแพทย์ หรือ ผู้ที่มีผลตรวจแบบ Antigen Test Kit (ATK) จากสถานพยาบาลไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่

หรือเป็นผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ที่กำหนด และสามารถขอผ่อนผันยกเว้นไม่กักตัว 14 วัน ได้

สำหรับผู้เดินทางมาจากพื้นที่จังหวัดอื่นๆ

จะต้องลงทะเบียนแจ้งข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน M-CHANA ก่อนเดินทางเข้าจังหวัดเชียงใหม่

รายงานตัวต่อเจ้าหน้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ สังเกตอาการตนเองอย่างใกล้ชิด (Self-monitoring) และปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคตามที่สาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ในปัจจุบันการบริหารการฉีดวัคซีนจังหวัดเชียงใหม่ มีผู้ที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้วอยู่ที่ 650,646 คน คิดเป็นร้อยละ 51.59 จากจำนวนประชากรกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น 1,261,223 คน ( ข้อมูลจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ณ

วันที่ 30 กันยายน 2564 ) นักท่องเที่ยวสามารถตรวจสอบและศึกษามาตรการเดินทางเข้า – ออกจังหวัดเชียงใหม่

ได้ทางเว็บไซต์ ww.chiangmai.go.th/covid19/procedure.html หรือ https://www.facebook.com/chiangmaihealth

ขณะที่ นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชีย และเปซิฟิกใต้ ททท. ได้เปิดเผยถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ และทิศทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นจังหวัดที่มี การพัฒนาและเติบโตของเมืองเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ มีศักยภาพภาพด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันก็เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ของวัฒนธรรม ภูมิปัญญาและแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่น

จากสถิติปี 2562 จังหวัดเชียงใหม่มีรายได้จากท่องเที่ยว 109,057 ล้านบาท ถือเป็นอันดับ 5 ของประเทศ

จากจำนวนนักท่องเที่ยวรวม 10.82 ล้านคน ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวชาวไทย 7.44 ล้านคน

และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 3.37 ล้านคน

ด้วยความพร้อมของพื้นที่ในการกำหนดมาตรการควบคุมโรคที่เข้มแข็ง การกระจายวัคซีนภายในพื้นที่

และฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงปลายปี ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางท่องเที่ยว

ชมธรรมชาติที่สวยงาม และสัมผัสบรรยากาศภูมิอากาศที่เย็นสบาย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

โดย ทพท. จึงได้ร่วมกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ และชาวเชียงใหม่

กำหนดเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป เพื่อเร่งพื้นฟูรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศให้ยืนหยัดได้ย่างเข้มแข็ง และนำไปสู่การเป็น High-Value and

Sustainable Tourism ตามแผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายรัฐและยุทธศาสตร์ชาติ

และในระหว่างนี้ทาง ททท. ได้ดำเนินกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ

2 โครงการสำคัญ ได้แก่ โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” โดยเริ่มเปีดลงทะเบียนขอใช้สิทธิ์ตั้งแต่วันที่

24 ก.น. 2564 ผ่านเว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน และสามารถเริ่มจองที่พักผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตังค์”

ได้ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 2564 จำนวน 2,000,000 สิทธิ์ จำกัดคนละ 15 สิทธิ์

สามารถเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 2564 – 31 ม.ค. 2565 เพื่อกระตุ้นการเดินทางข้ามจังหวัด สร้างบรรยากากาศการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีโครงการทัวร์เที่ยวไทย ช่วยเสริมสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการนำเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจากการนำเสนอขายแพ็กเกจท่องเที่ยวผ่านเว็บไซต์ ทัวร์เที่ยวไทย ซึ่งกำหนดให้ผู้ใช้สิทธิ์ต้องมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ จำกัด 1 คน 1 สิทธิ์ รวมทั้งสิ้น 1,000,000 สิทธิ์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค. 2564 – 31 ม.ค. 2565 โดยประชาชนต้องติดต่อผู้ประกอบการนำเที่ยวโดยตรงเพื่อจองแพ็กเกจทัวร์ ซึ่งรัฐบาลจะสนับสนุนค่าใช้จ่าย 40% ไม่เกิน 5,000 บาท

และผู้ที่เข้าร่วมโครงการฯ สามารถสมัครร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 พร้อมกันได้

ทั้งนี้ ในปี 2564 ททท. คาดการณ์แนวโน้มว่า ประเทศไทยจะมีรายได้รวมจากการท่องเที่ยว

ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ อยู่ที่ 625,700 ล้านบาท แบ่งเป็นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 1.2 ล้านคน ก่อให้เกิดรายได้ 85,000 ล้านบาท

ขณะที่นักท่องเที่ยวไทยอยู่ที่ 100 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 540,700 ล้านบาท

ด้าน นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงศ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เผยว่า องค์กรบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ได้หยิบยกอัตลักษณ์ของการสืบทอดและอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี ศิลปะท้องถิ่น เข้ามาเป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับชุมชน

โดยส่งเสริมความร่วมมือกันของชุมชนเพื่อสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนผ่านกิจกรรมและโครงการด้านการท่องเที่ยว ผ่านการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ โครงการป๋าเวณีปี๋ใหม่เมืองเจียงใหม่ ประจำปี 2564 ณ ช่วงประตูท่าแพ

โครงการนครเชียงใหม่เมืองสร้างสรรค์ด้านหัตถกรรมและศิลปะพื้นบ้านขององค์การยูเนสโก โครงการเมืองใหม่สู่เมืองมรดกโลก เป็นต้น

สำหรับการเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่นั้น

องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ขับเคลื่อนแผนการดำเนินงานในหลายภาคส่วน ได้แก่

1.การจัดซื้อวัคซีนโมเดอร์น่า (Moderna) จำนวน 100,000 โดส สำหรับประชาชนชาวเชียงใหม่ 5 กลุ่มเปราะบาง งบประมาณ 110 ล้านบาท

2.มอบชุดตรวจเชื้อโควิด-19 (Antigen Test Kit :

ATK ) จำนวน 10,000 ชุด ให้กับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสนับสนุนการตรวจคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงสูง และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบคัดกรองอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น

3.โครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลรายงานสถานการณ์ฝุ่นควัน PM 2.5

4.ดำเนินโครงการประชาสัมพันธ์แนวทางการเปิด

เมืองเพื่อการท่องเที่ยวผ่านช่องทางออนไลน์ของหน่วยงาน รวมถึงลงพื้นที่พบปะประชาชนเพื่อสร้างความเข้าใจอันดีต่อมาตรการจังหวัด

5.ดำเนินโครงการพัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวตามมาตรฐาน Amazing Thailand Safety and Health Administration : SHA เพื่อให้บริการหรืออำนวย

ความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่

ขณะเดียวกัน นายสุนทร ยามศิริ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ เผยว่า เทศบาลจังหวัดเชียงใหม่เล็งเห็นความสำคัญของการสะท้อนคุณค่าวัฒนธรรมและประเพณีอันงดงามของเชียงใหม่

มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีความสุข ประทับใจและปลอดภัย ผ่านการจัดกิจกรรมท่องเที่ยววิถีใหม่ (New Normal) สอดคล้องกับมาตรการด้านสาธารณสุข พร้อมรณรงค์ให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค เพื่อเป็นการตอกย้ำความปลอดภัยและสร้างความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือน โดยกิจกรรมประเพณีที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่ เดือนพฤศจิกายนนี้ ได้แก่ ประเพณียี่เป็ง ซึ่ง

เป็นประเพณีลอยกระทงแบบล้านนาในช่วงวันขึ้นสิบสามถึงสิบห้าค่ำ งดงามด้วยสีสันของผางประทีป

และเที่ยวชมไม้ดอกที่บานสะพรั่ง ในช่วงสัปดาห์งานเทศกาลไม้ดอกไม้ประดับ และอีกหนึ่งประเพณีที่สำคัญและสวยงามมากของจังหวัดเชียงใหม่ คือ ประเพณีปีใหม่เมืองเชียงใหม่ ซึ่งจะจัดขึ้นอย่างสวยงามและคงคุณค่าทางวัฒนธรรมของประเพณีล้านนาและสะท้อนอัตลักษณ์ของเชียงใหม่ได้อย่าง

ดียิ่ง

ทั้งนี้ นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวด้วยว่า จังหวัดเชียงใหม่

มีความพร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวในฤดูกาลท่องเที่ยวนี้ ทั้งด้านของผู้ประกอบการ ภาพรวมของการกระจายวัคซีน มาตรการควบคุมดูแลพื้นที่ด้านปลอดภัยและสุขอนามัย รวมไปถึงพื้นที่เศรษฐกิจของเชียงใหม่

ไม่ว่าจะเป็นถนนคนเดินต่างๆ ทั้งถนนราชดำเนิน ถนนวัวลาย ย่านไนท์ บาซาร์ ถนนนิมมานเหมินทร์

และพื้นที่ใกล้เคียง โดยใช้ Model Blue Zone เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว ให้ตัดสินใจเดินทางเข้ามาสัมผัสกับเสน่ห์บรรยากาศของความเป็นเชียงใหม่ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามยิ่งกว่าเดิม

ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งยังสะท้อนมิติใหม่ๆ ของเมืองเชียงใหม่ที่เป็นจุดหมายปลายทางสำหรับนักท่องเที่ยวอย่างครอบคลุม เช่น ผู้รักหลงรักกาแฟ Cafe Hopping กลุ่ม Workation กลุ่ม Digital Nomad ผู้ที่ต้องการมาสัมผัสวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย ชุมชน ศิลปะ ดนตรี หรือสถานที่ทำกิจกรรมทางกีฬา

ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ยืนยันความพร้อมในการเปิดบ้านเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวพี่น้องชาวไทย และกลุ่มชาวต่างชาติในประเทศไทย ในการกลับมาเป็นเจ้าบ้านที่ดีและน่ารักด้วยเสน่ห์ของเมืองเชียงใหม่และชาวเชียงใหม่ ภายใต้ Open Chiang Mai to The Next Pages ตั้งแต่ 1 ต.ค. 2564 นี้

สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานเชียงใหม่ เปิดให้บริการวันจันทร์ – ศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ระหว่างเวลา 08.30-16.30 น. โทร. 053-248604 ถึง 5

และสามารถติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวด้านการท่องเที่ยวของ ททท.

คลิปอีจันแนะนำ
ตกหลุมรัก บางเสร่ ประทับใจไม่รู้ลื้มมม