โควิดซา ได้เวลาออกจากรูซักที อีจันพักร้อนทริปนี้ ก็เกาะทะลุไปเลยสิคะ

กรี๊ดดดดด!!!!!! คุณลูกเพจขา ในที่สุดก็ถึงเวลาเที่ยวววววว

โควิดซา เราก็ออกจากรูได้สักทีเนาะ อีจันพักร้อนทริปนี้ เราพาบุกไปเที่ยวกันที่ เกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ หนึ่งใน 4 จังหวัดเปิดท่องเที่ยวนำร่อง ก่อนเปิดประเทศค่ะ

ภาพรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ วิวชายหาดสวยๆ กิจกรรมท้าแดดทะเล ลอยมาเต็มหัวไปหมด

เช็กเรียบร้อย ปลายทาง “เกาะทะลุ ISLAND รีสอร์ท” ได้รับมาตรฐาน SHA เรียบร้อย (SAFETY AND HEALTH ADMINISTRATION) เที่ยวได้ สบายใจ แพ็คกระเป๋าแล้วก็ออกเดินทางไปเลยสิคะ หนีความวุ่นวายไปพักผ่อนหย่อนใจกับธรรมชาติสักหน่อย 2 วัน 1 คืน พร้อมเที่ยวแบบวิถีใหม่ แมสก์ แอลกอฮอล์สเปรย์ ขาดไม่ได้ (พกไปตรึมเลยค่ะ ><)

เดินทาง 5 ชั่วโมงจากเมืองกรุง ถึงท่าเรือ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมมากกกกก

ก่อนนั่งเรือข้ามไปเกาะ ที่นี่เขาก็จะให้เราปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคทุกอย่างเลยนะคะ ทั้งลงทะเบียน วัดไข้ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล

ที่สำคัญอีจันปลื้มแนวคิดนี้มากค่ะ คือ เขาจะให้ “ริสแบนด์คิวอาร์โค้ด” กับนักท่องเที่ยวคนละเส้นค่ะ ในนั้นจะมีเงินอยู่ 1,000 บาท เพื่อความสะดวกสบายในการเล่นกิจกรรมที่เกาะ ไม่ต้องพกกระเป๋าตังค์ อยากซื้ออะไรบนเกาะก็สแกนจ่าย จบเลยค่ะ ขากลับค่อยมาสรุปยอดใช้จ่ายที่ Reception ทีเดียว ไม่ต้องพะวงพกเงินสด ลดการสัมผัสได้ดีเยี่ยม เริ่ดนะ

พร้อมแล้วก็ลงเรือข้ามเกาะกันค่ะ 15 นาทีต่อจากนี้ ใครขี้แพ้ “ยาแก้เมา” ต้องมานะคะ นั่งเรือสปีดโบ้ทสู้คลื่นไปเลยสิคะ

งานนี้อีจันชนะค่ะ ไม่ต้องพึ่งยาแก้เมา เพราะอ่านผลข้างเคียงแล้วนั้น “อาจทำให้ง่วงซึม” ก็เลยเชิ่ดใส่ยาไปเลยค่ะ ตัวใครตัวมัน กลัวเล่นน้ำ ทำกิจกรรมไม่เต็มที่ ><

สรุป…ถึงเกาะทะลุด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะค่ะ ไม่มีใครอ้วกกลางทาง 5555 จากนั้นก็ตรงดิ่งไปเก็บของ และสัมภาระที่ห้องพักกัน

โอ้ อยากจะบอกสะดุดตาห้องพักอ่ะ มันกว้างมาก คือถ้ามันจะประทับใจ ก็ประทับใจตั้งแต่เปิดประตูเข้าห้องแล้ว บอกเลยกลิ่นดีนะ ที่นี่คือตอบโจทย์ ไม่หอมจนฉุน แต่มันละมุนๆ ชื่นใจดีค่ะ สบายใจที่จะนอน

เดินไปเปิดประตูท้ายห้อง โอ้ววว เป็นโซนอาบน้ำ OUT DOOR ฟีลลิ่งโรแมนติกมากกก อาบๆ น้ำไป แหงนมองท้องฟ้า วิวต้นมะพร้าวเก๋ๆ (ลูกมะพร้าวตกใส่หัวไปเลยสิคะ 5555)

เก็บของเปลี่ยนชุดเสร็จก็ปรี่หาชายหาดเลยค่ะ ซับบอร์ดเอย พายเรือคายัคเอย รอเราอยู่

ก็โดดน้ำทะเลไปเลยสิคะ ^^

ที่นี่หาดทรายขาวละเอียดนุ่มมากกกก พี่เจ้าหน้าที่ที่เกาะบอก ที่เม็ดทรายละเอียดขนาดนี้ เพราะน้องปลาตัวน้อยเขากินเศษปะการัง แล้วอึ๊ออกมาค่ะ

โอ้โห!!! มองออกไปทั้งหาด ในใจก็แอบตั้งคำถาม “นี่ต้องอึ๊กี่ปีมาแล้วเนี่ย ถึงได้ขนาดนี้ 55555”

ส่วนน้ำทะเลนั้นนนเค็มปี๋ สมกับที่เพิ่นว่า “น้ำทะเล” แท้ๆ เพราะที่นี่ไม่มีการปล่อยน้ำเสียลงมาค่ะ น้ำทะเลจึงบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ เค็มมมสะใจ ได้ลิ้มสักอึกเชื่อเถอะ ทั้งชีวิตก็ไม่ลืม ><

เล่นซับบอร์ด พายเรือคายัค เสร็จแรงยังเหลือๆ ค่ะ กิจกรรมต่อไป ตกหมึกจ้า วู๊ว กัปตันขับเรือแพมาเทียบท่ารอแล้ว มาชาเล้นท์กัน 4 คน (ตาต้า ตู๋ เต้ยและ สมยศ) ใครตกหมึกไม่ได้ โดนผลักตกน้ำทะเลลึกค่ะ 5555 (อันนี้แซวนะ ><)

เรือแพลอยลำออกกลางทะเลเกาะทะลุ ก็จัดการเลยค่ะ พี่กัปตันเรือนำเบ็ดตกหมึกมาให้ครอบครองคนละอัน

ต่างคนก็เพ่งไปที่สายเอ็นของตัวเอง หากมีแรงดึ้งๆ เมื่อไหร่ละก็…นั่นหมายถึง น้องหมึกติดเบ็ดเราแล้ว!!!

แต่ก็นะ ครึ่งชั่วโมงก็แล้ว…

1 ชั่วโมงก็แล้ว…

2 ชั่วโมงก็แล้ว… เงิบแล้วเงิบอีก

กัปตันบอก วันนี้สภาพอากาศไม่ค่อยเอื้อเท่าไหร่ เพราะฝนตก เลยทำน้ำขุ่น น้องหมึกตัวน้อยไม่ว่ายมาติดเบ็ดเลยยย มาแค่ให้อยากแล้วจากไปพร้อมเหยื่อของเรา

ตกหมึกจนท้อใจ พี่กัปตันบอก “อีก 5 นาที ขออนุญาตพาลูกทัวร์กลับเข้าฝั่งนะครับ” เราก็ทำใจแล้วแหละ วันนี้คงหมดหวัง

แต่ใครจะไปคิดว่าจู่ๆ น้องสมยศ ก็ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้น “หึ้ยๆๆ พี่”

เท่านั้นแหละ สาวใหญ่เลยค่ะ ประเด็นคือ ปล่อยสายเบ็ดไปยาวด้วยสิ 55555

สาวจนปวดแขน ในที่สุด 5 นาทีสุดท้ายก่อนกลับเข้าฝั่ง เราก็ทำได้ ตกหมึกได้ 1 ตัวถ้วน!!!

ก็ซาซิมิหมึกเคล้าบรรยากาศตะวันตกดินกลางเกาะทะลุไปเลยสิคะ ฟินมากกก และอร่อยมากด้วย หมึกสดๆ จิ้มวาซาบิ ซีอิ๊ว คือดีย์

เป็น 1 วันที่ทั้งสนุก และสูบพลังมากกก มีความสุขสุดๆ

มื้อค่ำเติมแรงกันหน่อย จัดมาเลยซิสสส ซีฟู๊ดจุกๆ ปูนึ่ง ปลาเผา ต้มยำทะเล ฉู่ฉี่ และเมนูอีกมากมายเต็มโต๊ะไปหม๊ดดดด

คิดภาพตามนะ มื้อนี้นั่งกินข้าวกันแบบเคล้าเสียงคลื่นทะเลซัดฝั่งอ่ะ ลมโชยมาปะทะหน้า ฟินขั้นสุด!

อ้อ ไม่ต้องห่วงเรื่องมาตรการป้องกันโรคนะคะ ที่นี่เขาจัดโต๊ะให้แต่ละกรุ๊ปทัวร์แบบเว้นระยะห่าง กรุ๊ปใครกรุ๊ปมัน ไม่ใกล้และไม่สุงสิงกันค่ะ สบายใจได้ ^^

อิ่มแล้วก็อาบน้ำนอนค่ะ พรุ่งนี้มีโปรแกรมดำน้ำดูปะการังหน้าเกาะทะลุต่อ ตื่นเต้นๆ

เมื่อเช้าวันใหม่มาถึง เราตื่นลืมตามาพร้อมความตื่นเต้น ^^ ล้างหน้าแปรงฟัน รีบไปกินมื้อเช้า โปรแกรมดำน้ำดูปะการังรออยู่

พร้อมแล้วก็ลุย เรือออกจากฝั่งอีกครั้ง พาเราไปจุดดำน้ำ ถึงปุ๊บก็ใส่ตีนเป็ด หน้ากาก พร้อมโดด!!!

กระซิบบอกก่อน นี่ครั้งแรกนะ ท่ากระโดดน้ำก็คือ โป๊ะนัมเบอร์วันค่ะ ดื่มน้ำทะเลไปแล้วอึกนึงใหญ่ๆ หน้าเหยเกไม่ไหวววว ก็ว่าทำท่าตามพี่เขาแล้วนะ ไหงเป็นแบบนี้ได้ 55555

พอดำน้ำลงไปปุ๊บ เห็นปะการัง และเหล่าปลาน้อยๆ ก็สวมบทเจ้าหญิงเลยสิคะ ทักทายปลาไม่ไหวว เสียงเล็กเสียงใหญ่ ภายใต้หน้ากากดำน้ำ และชูชีพคู่ใจ มาเต็ม

พอโผล่หน้าพ้นน้ำขึ้นมาเท่านั้นแหละ เสียงตะโกนของเพื่อนร่วมทริปก็ลอยมา บอกว่า “เมื่อกี้พึมพำอะไรใต้น้ำอ่ะ ได้ยินนะ” ความเขินก็เลยบังเกิด 5555 นึกว่าคุยกับน้องปลาคนเดียวซะอีก ข้างบนได้ยินกันหมดเลยหรือนี่???

แต่ๆๆๆ หาได้แคร์ไม่ ดำน้ำคุยกับปลาต่อ แต่รอบนี้ ภาพใต้น้ำคือ…หอยเม่นตัวใหญ่ค่า อยู่ช่วงน้ำตื้นซะด้วย ว่ายหนีแทบไม่ทัน ไม่งั้นนะ ไม่อยากคิดภาพ ><

รอบนี้โผล่ขึ้นมา อ๊าวว เพื่อนๆ ขึ้นเรือแพพร้อมกลับเข้าฝั่งกันหมดแล้ว อะไรกัน กำลังคุยกับปลาน้อยเพลินๆ

โอเคๆ กลับก็ได้ สาแก่ใจอยู่นะดำน้ำรอบนี้ อิอิ

ดำน้ำเสร็จก็ปิดท้ายทริปด้วยการไปชมชีวิตแห่งท้องทะเลอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญมากค่ะ

“ศูนย์อนุบาลเต่าทะเล” เพราะทุกปีเว้นปี จะมีแม่เต่าทะเลวนเวียนกันขึ้นมาวางไข่ที่หน้าชายหาดเกาะทะลุ แต่ที่มาประจำก็เห็นจะเป็นแม่เต่ากระจะขึ้นมาวางไข่ที่นี่ เพราะฉะนั้นจึงต้องมีการตั้งศูนย์อนุบาลเต่าทะเลขึ้น เพื่อให้เจ้าเต่าตัวน้อยเหล่านี้แข็งแรงต่อบ้านหลังใหญ่อย่างท้องทะเลก่อน จึงจะปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้ ถ้าปล่อยไปเลยหลังฟัก มีหวังไปเป็นอาหารสัตว์ใหญ่แหงแก๋ โอกาสรอดน้อยมากๆ ค่ะ (ข้อมูลนี้พี่ชาติที่ดูแลก็เป็นคนบอกเรานะ เที่ยวด้วย ได้ความรู้ด้วย อนุรักษ์ไปพร้อมๆกัน)

ถือว่าที่นี่ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่อยากชวนมาเที่ยวมากๆ โควิดซาอย่าลืมมาเที่ยว (แบบวิถีใหม่) กันนะ ใครอ่านมาถึงตรงนี้ จะรู้ว่าเกาะทะลุ ต๊าชมาก!!!

จะรออ่านรีวิว “เกาะทะลุ” จากลูกเพจบ้างนะ