
ใครจะยอมโดนโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว ล่าสุด “อิหร่าน” ส่งโดรนโจมตี 100 ลำ เอาคืนอิสราเอลแล้ว ทำสงครามเดือดระอุ

(13 มิ.ย. 68) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า หลังจาก “อิสราเอล” ได้เปิดฉากโจมตีฐานนิวเคลียร์และฐานทัพทหาร โดยส่งเครื่องบินรบกว่า 10 ลำ โจมตีในพื้นที่เตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน ท่ามกลางความตึงเครียดเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของเตหะราน ซึ่ง เบนจามิน เนทันยาฮู นายกฯ อิสราเอล ได้ยืนยันการกระทำครั้งนี้ด้วยตัวเอง พร้อมให้เหตุผลว่าเป็นการต่อต้านภัยคุกคามทำลายล้างจากอิหร่าน
ล่าสุด พลจัตวาเอฟฟี่ เดฟริน โฆษกกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล กล่าวว่า “อิหร่านได้ยิงโดรนประมาณ 100 ลำมุ่งหน้าสู่ดินแดนของอิสราเอล ซึ่งอิสราเอลกำลังดำเนินการสกัดกั้นอยู่”
อิสราเอล กล่าวว่า ขณะนี้กำลังวางแผนที่จะใช้ระบบป้องกันภัยทางอากาศ เพื่อสกัดกั้นโดรนดังกล่าว ขณะที่เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นทั่วทั้งประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้ภาวะฉุกเฉินที่อิสราเอลประกาศใช้

ขณะเดียวกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ “อิหร่าน” บรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ โดยระบุว่าการเจรจาที่ยาวนานระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย เป็นสาเหตุที่ทำให้อิสราเอลเปิดฉากโจมตีก่อน
“ผมให้โอกาสอิหร่านครั้งแล้วครั้งเล่าในการทำข้อตกลง ผมบอกเขาด้วยคำพูดที่แข็งกร้าวที่สุดว่า “แค่ทำมัน” แต่ไม่ว่าจะพยายามมากเพียงใด ไม่ว่าจะเข้าใกล้แค่ไหน อิหร่านก็ไม่ยอมทำ” ทรัมป์โพสต์โซเชียลมีเดีย

จากนั้น ทรัมป์ ได้เตือนอิหร่านว่าจะเกิดการทำลายล้างมากกว่านี้ หากไม่มีการลงนามข้อตกลงในเร็ววัน
“มีการเสียชีวิตและการทำลายล้างครั้งใหญ่เกิดขึ้นแล้ว แต่ยังมีเวลาที่จะยุติการสังหารหมู่ครั้งนี้ ซึ่งการวางแผนโจมตีครั้งต่อไปจะยิ่งโหดร้ายกว่านั้น ฉะนั้น อิหร่านต้องทำข้อตกลงก่อนที่จะไม่เหลืออะไร” ทรัมป์กล่าวเสริม
ขอบคุณข้อมูล : CBS News