พ่อแม่ใจสลาย! แมสก์เปียกน้ำตา ทำลูกน้อย 1 ขวบ ขาดอากาศหายใจดับ

อุทาหรณ์เตือนใจ! หนูน้อยวัย 1 ขวบ ร้องไห้หนักไม่ยอมใส่แมสก์ สุดท้ายขาดอากาศหายใจเสียชีวิต เพราะแมสก์เปียกน้ำตา

เรื่องราวสลดใจจาก ‘ศูนย์ดูแลเด็กในไต้หวัน’ กำลังเป็นที่ถกเถียงกัน อีกหนึ่งเรื่องราวที่ทำให้สังคมต้องหยุดคิดถึงการดูแลเด็กในยุคที่หน้ากากอนามัยเป็นสิ่งจำเป็น

หลังจาก เมื่อวันที่ 23 ม.ค.67 ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์น่าเศร้าเกิดขึ้นที่ศูนย์ดูแลเด็กแห่งหนึ่งในไต้หวัน เด็กน้อยวัยเพียง 1 ขวบ ร้องไห้จนหน้ากากอนามัยเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา น่าสลดใจที่เด็กน้อยผู้นี้ขาดอากาศหายใจจนเสียชีวิต สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความตื่นตระหนก และเป็นที่สนใจในสังคมอย่างมาก

“林彦汝” ผู้ประกาศข่าวชื่อดังของสถานีโทรทัศน์ในจีน เปิดเผยว่า ครอบครัวของเด็กน้อยนี้ใช้เวลานานถึง 8-9 ปี กว่าจะได้ลูกชายมาครอง แต่เพียงแค่ 1 ปีหลังจากเกิด ก็ต้องสูญเสียลูกไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยเหตุการณ์นี้เกิดจากความประมาทของทางศูนย์ดูแลเด็ก

ตามคำบอกเล่าของเธอ สาเหตุหลักมาจากการบังคับใช้คำสั่งสวมหน้ากากอนามัย ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจ ทว่าเด็กน้อยไม่ยอมสวมหน้ากากและเริ่มร้องไห้ หน้ากากเปียกชุ่มจนหายใจไม่ออก น่าเศร้าที่ครูในศูนย์คิดว่า เด็กเพียงแค่เหนื่อยจากการร้องไห้ แต่เมื่อรู้ตัวอีกทีก็สายเกินไป แพทย์วินิจฉัยว่าเสียชีวิตด้วย “อาการสมองตาย”

ครอบครัวของเด็กได้ยินยอมให้เผยแพร่เรื่องราวนี้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ในการดูแลเด็ก พวกเขายังได้บริจาคหัวใจของลูกชายให้กับผู้ป่วยอายุน้อยในไต้หวันที่ต้องการหัวใจ ด้วยความหวังว่า การสูญเสียครั้งนี้จะไม่เป็นเพียงแค่ความเศร้า แต่จะเป็นบทเรียนและการช่วยเหลือผู้อื่นได้

“林彦汝” ยังหวังว่า เรื่องราวนี้จะเป็นการเตือนใจสาธารณชนเกี่ยวกับความเสี่ยงเมื่อเด็กๆ ร้องไห้ขณะสวมหน้ากากอนามัย และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการตื่นตัวและระมัดระวังในการดูแลเด็ก

ทั้งนี้ ในส่วนของการตอบสนองจากหน่วยงานราชการ สำนักงานกิจการสังคมเมืองนิวไทเป ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างลึกซึ้งต่อเหตุการณ์นี้ พร้อมระบุว่า กำลังให้ความช่วยเหลือแก่ครอบครัวของเด็กน้อยอย่างเต็มที่ พวกเขายังรอผลการสอบสวนจากโรงพยาบาล และหน่วยตุลาการเพื่อชี้แจงสาเหตุของเหตุการณ์อย่างละเอียด

ตำรวจได้ดำเนินการตรวจสอบและคัดลอกภาพจากกล้องวงจรปิดของวันเกิดเหตุ และสำนักกิจการสังคมได้กำหนดให้ศูนย์ดูแลเด็กเก็บรักษาไฟล์ภาพไว้เป็นเวลา 30 วัน ตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เพื่อให้การสอบสวนและการชี้แจงเป็นไปอย่างครบถ้วน และหากพบการฝ่าฝืนจะมีการลงโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงแต่สะเทือนใจผู้ที่ได้ยินเท่านั้น แต่ยังเป็นการเตือนใจให้กับสังคมถึงความสำคัญของการดูแลเด็กอย่างรอบคอบ และมีความรับผิดชอบ ทุกคนต้องมีความตื่นตัวและรับรู้ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับเด็กๆ ในทุกสถานการณ์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้อีกครั้งในอนาคต

ขอบคุณข้อมูลจาก orientaldaily


ข่าวน่าสนใจอื่น: