จากกรณีข่าวที่มีกลุ่มบุคคลได้เข้าไปพักอาศัยในบ้านหลังหนึ่ง ก่อนที่จะอ้างสิทธิ์การครอบครอง จนทำให้เจ้าของบ้านตัวจริงต้องแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายนั้น
ล่าสุด ในต่างประเทศก็มีเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันนี้เกิดขึ้น เมื่อชายชาวอเมริกัน วัย 48 ปี ได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองนิวยอร์ก ก่อนอาศัยช่องโหว่ทางกฎหมายเรื่องที่อยู่อาศัย อ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของโรงแรม พร้อมเก็บค่าเช่าจากผู้ใช้บริการห้องอื่นๆ อีกด้วย โดยเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 67 สื่อต่างประเทศรายงานข่าว ชายชาวอเมริกัน วัย 48 ปี มิกกี้ บาร์เรโต ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองนิวยอร์กเข้าจับกุมในข้อหายื่นบัญชีทรัพย์สินอันเป็นเท็จ โดยอัปโหลดข้อมูลโฉนดที่ดินของโรงแรมดังกล่าว ซึ่งเขาได้ดัดแปลงใส่ชื่อตัวเองว่าเป็นเจ้าของ
สำหรับจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการเนียนฮุบโรงแรมนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ นายบาร์เรโต ย้ายจากเมืองลอสแอนเจลิส มา อาศัยอยู่ที่ นิวยอร์ก เมื่อปี 2018 ก่อนที่ในเวลาต่อมาตัวเขาได้ทราบเรื่องของกฎหมายที่อยู่อาศัย ซึ่งระบุไว้ว่า อนุญาตให้ผู้ที่พักอาศัยในห้องเดี่ยวของอาคารที่สร้างก่อนปี 1969 สามารถเรียกร้องสัญญาเช่านาน 6 เดือนจากเจ้าของสถานที่ได้ ตรงจุดนี้เองทำให้ บาร์เรโต เกิดความคิดหัวหมอ หาห้องพักที่อยู่ในตึกหรืออาคารที่ก่อสร้างในช่วงเวลาดังกล่าว ก่อนจะเลือกเข้าพักที่โรงแรมนิวยอร์กเกอร์ (New Yorker) ที่ตัวอาคารสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1930 โดยเขาเข้าพักพร้อมกับแฟนหนุ่มเป็นเวลา 1 คืน พร้อมจ่ายค่าเช่า 200 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยราว 7 พันบาท
ขอบคุณภาพจาก : apnews
และในวันต่อมาเมื่อถึงกำหนดการเช็กเอาต์ ทั้ง 2 ได้ปฏิเสธการออกจากโรงแรมแม้จะถูกไล่ โดยอ้างว่าได้จ่ายค่าเช่าจำนวน 1 คืนนั้นไปแล้ว “แน่นอนว่า ผมได้เดินทางไปฟ้องศาลในทันที แต่ตอนแรกก้ถูกผู้พิพากษาปฎิเสธมา ผมจึงยื่นอุทธรณ์ใหม่ต่อศาลฎีกาของรัฐ และผลก็คือ ผมชนะ” บาร์เรโต กล่าว
เหตุที่ บาร์เรโต ชนะคดีนี้เนื่องจาก ทนายความฝั่งเจ้าของอาคารโรงแรมดังกล่าวไม่ได้เดินทางมาในการพิจารณาคดี ต่อมาทางผู้พิพากษาได้สั่งให้ทางโรงแรมมอบกุญแจให้กับ บาร์เรโต ทำให้เขาอาศัยอยู่ที่นั่นยาวจนถึงเดือนกรกฎาคม 2023 โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่าแม้แต่บาทเดียว และทางเจ้าของอาคารก็ไม่ได้เจรจาเรื่องสัญญาเช่าระยะยาวแต่อย่างใด รวมถึงก็ไม่ไล่เขาออกไปด้วยเช่นกัน
แต่แล้วการเนียนพักอาศัยฟรีก็ถูกเปิดเผยขึ้น โดยย้อนไปเมื่อปี 2019 มีการตรวจพบว่า บาร์เรโต อัปโหลดโฉนดที่ดินปลอมลงบนเว็บไซต์ พร้อมกับมีการระบุว่าตัวเขานั้นเป็นเจ้าของอาคารดังกล่าว ที่ได้มีการโอนกรรมสิทธิ์มาจาก Holy Spirit Association for the Unification of World Christianity บริษัทที่ซื้ออสังหาริมทรัพย์นี้มาในปี 1976
ขอบคุณภาพจาก : themirror
นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบจนพบว่าตัวของ บาร์เรโต นั้นมีการเรียกเก็บเงินจากหน่วยงานต่างๆ และเก็บค่าเช่าจากคนที่พักอาศัยอยู่ในโรงแรม ยิ่งไปกว่านั้น เขาได้จดทะเบียนโรงแรมภายใต้ชื่อของเขากับกรมคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เมืองนิวยอร์กเพื่อชำระค่าน้ำและค่าบำบัดน้ำเสีย พร้อมกับเรียกร้องให้ธนาคารของโรงแรมโอนย้ายบัญชีมาเป็นชื่อเขา ด้วยเหตุนี้ทาง อัลวิน แบรกก์ อัยการเขตแมนฮัตตัน ได้แจ้งความดำเนินคดีกับเขาในฐานความผิด อ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของโรงแรมนิวยอร์กเกอร์ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญที่สุดและเก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองหลายครั้ง เช่นเดียวกับทางเจ้าของกรรมสิทธิ์ตัวจริงก็ได้ยื่นฟ้อง บาร์เรโต ไปตั้งแต่ปี ค.ศ. 2019 จากเรื่องที่เขาอ้างสิทธิ์อย่างไม่ถูกต้องในโฉนดที่ดิน รวมถึงแอบอ้างว่าเป็นเจ้าของโรงแรมบนเว็บไซต์ LinkedIn
ทั้งนี้ บาร์เรโต ยังคงให้การปฏิเสธข้อกล่าวหาของทางอัยการ พร้อมยืนยันว่าเขาไม่ได้คดโกงใคร และไม่ได้เงินจากการกระทำตามที่กล่าวอ้าง แต่เขาก็ถูกตั้งข้อหาในคดีอาญา และได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวโดยไม่ต้องวางหลักประกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : themirror, apnews