สหรัฐฯ อ่วมหนัก! ยอดผู้ป่วย “โรคหัด” พุ่งทะลุ 1,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ยืนยันว่า สหรัฐฯ เผชิญภาวะระบาด “โรคหัด” พบผู้ป่วยทะลุ 1,000 ราย จาก 30 รัฐ – หวั่นเชื้อระบาดลามนอกประเทศ

(9 พ.ค. 68) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ยืนยันว่า สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญภาวะผู้ป่วยโรคหัดกว่า 1,001 ราย จากพื้นที่ 30 รัฐทั่วประเทศ ได้แก่ อลาสกา อาร์คันซอ แคลิฟอร์เนีย โคโลราโด ฟลอริดา จอร์เจีย ฮาวาย อิลลินอยส์ อินเดียนา แคนซัส เคนตักกี้ หลุยเซียน่า แมริแลนด์ มิชิแกน มินนิโซตา มิสซูรี มอนทานา นิวเจอร์ซี นิวเม็กซิโก รัฐนิวยอร์ก นอร์ทดาโคตา โอไฮโอ โอคลาโฮมา เพนซิลเวเนีย โรดไอแลนด์ เทนเนสซี เท็กซัส เวอร์มอนต์ เวอร์จิเนีย และวอชิงตัน ซึ่งครั้งนี้มีจำนวนผู้ป่วยมากกว่าใน ปี 2024 ที่มีเพียง 285 ราย

จากรายงานสถิติผู้ป่วยในปี 2568 พบว่า จำนวน 675 รายอยู่ในกลุ่มผู้ใหญ่และเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ด้านเจ้าหน้าที่ CDC ระบุว่า 93% ของผู้ป่วยเกิดจากการระบาด 14 แห่งในสหรัฐอเมริกา จนถึงขณะนี้มีผู้ป่วยโรคหัด 126 ราย ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ขณะที่การประเมินจาก CDC แสดงให้เห็นว่า 96% ของผู้ป่วยทั้งหมด อยู่ในกลุ่มคนที่ไม่ได้รับวัคซีนหรือผู้ที่ไม่ทราบสถานะการฉีดวัคซีน

ทั้งนี้ เวสต์เท็กซัส ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคหัด มีรายงานผู้ป่วย 709 ราย ณ วันที่ 9 พฤษภาคม ตามด้วยอันดับสองอย่าง นิวเม็กซิโก มีจำนวนผู้ป่วยรวม 71ราย พร้อมมีรายงานถึงผู้เสียชีวิต 3 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นเด็กที่ไม่ได้รับวัคซีน อย่างไรก็ตาม ชาวอเมริกาต่างมีความกังวลมากขึ้น เกี่ยวกับการแพร่ระบาดนอกประเทศ

สำหรับ การวิเคราะห์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) และ UNICEF ระบุว่า ในปี 2024 ที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโรคหัดมากกว่า 127,000 รายในยุโรป ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของจำนวนผู้ป่วยที่บันทึกไว้ในปี 2023 และมีรายงานผู้เสียชีวิต 38 รายในภูมิภาคนี้ ซึ่งทำให้ CDC ต้องประกาศเน้นย้ำถึงความสำคัญและประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกัน โรคหัด คางทูม และหัดเยอรมัน (MMR) แก่ผู้ปกครองและผู้ใหญ่ที่ไม่ได้รับวัคซีน

ขอบคุณข้อมูล : NBC News