
หลังเกิดเหตุชายแดนไทย-กัมพูชาปะทะเดือด! ทหารกัมพูชา เปิดฉากยิงไทย บริเวณพื้นที่ ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันที่ 24 ก.ค.68 ที่ผ่านมา จนนำมาสู่สงครามวันที่ 6 (29 ก.ค.68)
ล่าสุด สำนักข่าวขแมร์ ไทม์ รายงานว่า กระทรวงแรงงานเรียกร้องให้ทั่วโลกคว่ำบาตรสินค้าจากไทย เหตุละเมิดสิทธิแรงงาน โดยในจดหมายระบุว่า กระทรวงแรงงานกัมพูชาได้ออกจดหมายผ่านเว็บไซต์ เปิดผนึกถึงความรุนแรงที่เพิ่มมากขึ้นต่อแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย ระบุว่า กระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา มีความประสงค์จะแจ้งเตือนถึงสถานการณ์ความรุนแรงและการคุกคามที่เพิ่มมากขึ้นต่อแรงงานข้ามชาติในประเทศไทย ซึ่งในระยะหลังมีการกระทำโดยกลุ่มหัวรุนแรงชาวไทย มีการเผยแพร่วิดีโอเหตุการณ์หลายกรณีบนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งรวมถึงการทำร้ายร่างกาย โดยผู้กระทำที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงกลุ่มหัวรุนแรง ซึ่งเหยื่อในเหตุการณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวกัมพูชา เหตุการณ์เหล่านี้ก่อให้เกิดความกังวลอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของแรงงานข้ามชาติและพลเมืองกัมพูชาในประเทศไทย และสะท้อนถึงความเสี่ยงจากความเกลียดชังที่มีสาเหตุจากเชื้อชาติ

เนื่องจากประเทศไทยเป็นสมาชิกขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) กระทรวงแรงงานและการฝึกอาชีพของกัมพูชา จึงขอเรียกร้องให้แบรนด์และผู้จัดซื้อที่จัดหาสินค้าจากประเทศไทย รวมถึงผู้บริโภคสินค้าหรือบริการจากประเทศไทย มีบทบาทอย่างแข็งขันในการปกป้องสิทธิและสวัสดิภาพของแรงงานข้ามชาติ เราขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการโดยทันที เพื่อส่งเสริมสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและเป็นธรรมสำหรับแรงงานข้ามชาติทุกคนในประเทศไทย และขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของราชอาณาจักรไทยดำเนินการตามพันธกรณีภายใต้ข้อตกลงทวิภาคีกับกัมพูชา และตามกฎหมายระหว่างประเทศและระดับภูมิภาค เพื่อให้มั่นใจว่าแรงงานข้ามชาติและครอบครัวของพวกเขาจะได้รับความปลอดภัย ศักดิ์ศรี และการปฏิบัติที่เป็นธรรม โดยไม่เลือกปฏิบัติไม่ว่าจะในด้านเชื้อชาติหรือสถานะ
ในฐานะที่ประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในฐานะประเทศผู้ส่งออกหลักในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก และเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับนานาชาติ เราขอเรียกร้องให้แบรนด์ระหว่างประเทศ ผู้จัดซื้อ และผู้บริโภค เฝ้าติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันกับซัพพลายเออร์และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของท่าน เพื่อให้มั่นใจว่า หลักการว่าด้วยการทำงานที่มีคุณค่า การไม่เลือกปฏิบัติ และความรับผิดชอบของธุรกิจ จะได้รับการเคารพและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดตลอดห่วงโซ่อุปทานของท่าน
