ชายแดนไทย-กัมพูชา ปะทะเดือด 7 วันติด
หลังจากทหารกัมพูชา เปิดฉากยิงตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.68 กระทั่งวันที่ 28 ก.ค.68 มีการประชุมพิเศษ ที่ เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ซึ่งไทย-กัมพูชา ตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข มีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. วันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา แต่เมื่อถึงเวลาขีดเส้นตายที่ตกลงกันไว้ พบว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงก่อกวนและใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในหลายพื้นที่ของไทย จนฝ่ายไทยต้องตอบโต้กลับตามสถานการณ์
วันนี้ (30 ก.ค.68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ถึง สถานการณ์ไทย-กัมพูชา ระบุว่า ประชุมวันนี้เป็นการประชุมสภากลาโหมนัดแรก ที่ได้เน้นย้ำไปก็มีหลายเรื่อง เรื่องแรกคือการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง วันที่ 12 สิงหาคม 2568 เรื่องที่ 2 คือ การสดุดีวีรกรรมทหาร ซึ่งในที่ประชุมได้ขอบคุณกำลังพลจากทุกเหล่าทัพที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ เข้มแข็ง และได้อดทนในการปกป้องอธิปไตยของชาติในการป้องกันประเทศจากสถานการณ์การตึงเครียดบริเวณชายแดนในห้วงเวลาที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ได้แสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของวีรชนทุกนายและขอสดุดีไว้ซึ่งเกียรติคุณของท่านที่ได้อุทิศชีวิตเพื่อปกป้องเอกราช ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่พระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านได้ทรงห่วงใยทหารรวมทั้งตำรวจตระเวนชายแดนทุกนาย
ทั้งนี้ ผมได้แจ้งให้หน่วยต่างๆ ให้เร่งรัดในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ หรือพื้นที่ต่างๆ ที่เกิดขึ้น แม้ปัจจุบันกองทัพจะให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนเราก็ไม่ได้ละเลย หน่วยที่ไม่ได้ติดภารกิจนี้ก็ขอให้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถ
นอกนั้น ก็ได้ย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัยหน่วยงานและบุคคลต่างๆ รวมทั้ง รปภ.ไซเบอร์ เน้นย้ำให้ยกระดับในช่วงนี้ รวมทั้งได้ระงับความร่วมมือกับทหารกัมพูชาจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เพราะเรามีโครงการแลกเปลี่ยนการศึกษากันอยู่ช่วงนี้ และได้สั่งการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะนโยบายและแผนงานการส่งร่างกฎหมายให้กับกองทัพไทยในการปฏิบัติภารกิจนี้ นอกจากนั้นให้เหล่าทับเสนอความต้องการยุทโธปกรณ์ทดแทนหลังจากปฏิบัติการมาได้ห้วงเวลาหนึ่ง ทางรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนในการจัดหายุทโธปกรณ์ทดแทน ซึ่งผมได้บอกให้เพิ่มเรื่องการเสริมสร้างความพร้อมรบให้สูงขึ้นด้วย จากประสบการณ์ในช่วงเวลาที่ผ่านมารับทราบว่ายุทโธปกรณ์ที่เราจัดหาส่วนใหญ่เป็นยุทโธปกรณ์เชิงรับ ต่อไปควรมียุทโธปกรณ์เชิงรุกด้วย
พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ตัวผมเองติดตามสถานการณ์ตลอด ซึ่งจากการสรุปสถานการณ์วันนี้ก็เป็นตามที่ได้ติดตามมาแล้ว เมื่อคืนได้ปรึกษากับท่านผู้บัญชาการทหารบอกว่ามีการละเมิดการหยุดยิงของฝ่ายกัมพูชาเมื่อคืนนี้ ขอให้มีการแถลงข่าวทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อให้พี่น้องประชาชนและนานาชาติได้รับทราบ
นอกจากนั้น ให้ทางกองทัพบกเชิญทูตทหารไปเยี่ยมพื้นที่พลเรือนทั้ง 4 จังหวัด ที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติของทหารกัมพูชา เช่น โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมัน โรงเรียน หรือบ้านเรือนของประชาชน ก็เชิญทูตทหารไปดูและเอาคำชี้แจงเมื่อคืนให้ดูด้วย
พร้อมย้ำกับแม่ทัพภาคที่ 2 ไปว่า การตกลงครั้งต่อไป ให้มีทั้งการแถลงและบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร โดยกระทรวงกลาโหมพร้อมสนับสนุนทุกอย่างที่กองทัพปฏิบัติ