
“กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงอีกแล้ว สรุปหยุดยิงกี่โมง?
หลังจากไทย-กัมพูชา ปะทะเดือด 5 วันติด ตั้งแต่ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงเมื่อวันที่ 24 ก.ค.68 กระทั่งวันที่ 28 ก.ค.68 มีการประชุมพิเศษ ที่ เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ซึ่งไทย-กัมพูชา ตกลงหยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไข มีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. วันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา
แต่พบว่าเมื่อถึงเวลาขีดเส้นตายที่ตกลงกันไว้ ฝ่ายกัมพูชายังคงก่อกวนและใช้อาวุธโจมตีเข้ามาในหลายพื้นที่ของไทย จนฝ่ายไทยต้องตอบโต้กลับตามสถานการณ์ ก่อนจะมีรายงานว่ามีการหยุดยิงแล้ว ช่วงบ่ายวันที่ 29 ก.ค.68 และเกิดการปะทะขึ้นอีกในคืนวันเดียวกัน (29 ก.ค.68)
โดยเช้าวันนี้ (30 ก.ค.68) พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงว่า กองทัพบกขอยืนยันว่า ฝ่ายไทยปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างเคร่งครัด โดยได้ระงับการใช้กำลังทุกรูปแบบและลดกิจกรรมทางทหารในพื้นที่ เพื่อเปิดโอกาสให้บรรยากาศแห่งสันติภาพและความไว้เนื้อเชื่อใจและความร่วมมือที่สร้างสรรค์ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม กองทัพบก ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ว่าในวันที่ 29-30 ก.ค.68หรือตลอดทั้งคืนจนถึงเช้ามืด กองทัพกัมพูชาได้กระทำการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้ง ดังนี้
1. ในพื้นที่ช่องคานม้า จ.ศรีสะเกษ
เวลา 21.30 น. วันที่ 29 ก.ค.68 กัมพูชาใช้ปืนเล็กยิงเขาใส่กองกำลังฝ่ายไทยเป็นเหตุให้มีการปะทะกันจนถึงเวลา 22.00 น. รวมเวลา 30 นาทีจึงยุติ
2. พื้นที่เขาพระวิหาร บริเวณห้วยตามาเรีย และภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ
ตั้งแต่เวลา 22.00 น. วันที่ 29 ก.ค.68 กองทัพกัมพูชาได้ใช้อาวุธปืนเล็กยิงอย่างต่อเนื่อง พร้อมใช้อาวุธยิงสนับสนุนประเทศเครื่องยิงลูกระเบิด ฝ่ายไทยจึงจำเป็นต้องใช้สิทธิตามหลักสากลในการตอบโต้เพื่อป้องกันตัวเองจากการยิงจากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งยังคงเกิดขึ้นเป็นระยะจนถึงช่วงเช้าของวันที่ 30 ก.ค.68
3. พื้นที่ผามออีแดง จ.ศรีสะเกษ
เวลาประมาณ 05.17 น. วันที่ 30 ก.ค.68 ตรวจพบการยิงเครื่องยิงลูกระเบิด จากฝั่งกัมพูชาเข้ามาในเขตแดนประเทศไทยอย่างชัดเจน

พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำของกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างร้ายแรงนับเป็นครั้งที่ 2 ภายหลังที่ข้อตกลงมีผลบังคับใช้และสะท้อนถึงพฤติกรรมที่ไม่เคารพต่อพันธกรณีรบระหว่างประเทศ ตลอดจนเป็นการบ่อนทำลาย ความพยายามในการคลี่คลายสถานการณ์โดยสันติวิธี อีกทั้ง ยังส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความไว้วางใจที่ควรมีระหว่าง 2 ประเทศ
กองทัพบก ขอประนามการกระทำอันไม่รับผิดชอบของกองทัพกัมพูชาอย่างถึงที่สุด และขอแจ้งให้ทราบว่า ฝ่ายไทยจะยังคงดำรงตนอยู่บนหลักของความอดทน อดกลั้น หลักแห่งสันติภาพและมนุษยธรรมอย่างสูงสุด
อย่างไรก็ดี หากมีการละเมิดอย่างต่อเนื่อง กองทัพบกจะดำเนินการตามขั้นตอนที่เหมาะสมและจำเป็นอย่างเด็ดขาด เพื่อป้องกันเพื่อปกป้องอธิปไตย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนไทยโดยไม่ละเว้น