ประชาชนต้องมาก่อน ! จีนทุ่มงบไม่อั้น เร่งเยียวยาวิกฤติน้ำท่วม

โควิด-19 ไม่ทันซา น้ำก็มาซ้ำเติมความเดือดร้อนให้กับพี่น้องชาวจีนอีก
วันนี้ (12 ก.ค.63) สำนักข่าวซินหัวรายงาน เหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากกว่า 5 ล้านคน และสร้างความเสียหายต่อพืชผลทางการเกษตรมากกว่า 2.7 ล้านไร่ โดยมณฑลเจียงซีได้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย 405,000 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน 154,000 คน หลังจากวานนี้ (11 ก.ค.63) มณฑลเจียงซีทางตะวันออกของจีนตัดสินใจยกระดับการรับมือ เพื่อควบคุมอุทกภัยจากระดับ 2 ขึ้นสู่ระดับ 1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของการรับมือภาวะฉุกเฉินจากเหตุอุทกภัย 4 ระดับของจีน
ในขณะที่ กระทรวงทรัพยากรน้ำของจีน (MWR) ประกาศยกระดับภาวะฉุกเฉินขึ้นสู่ระดับ 2 พร้อมระบุว่านับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา ระบบแจ้งเตือนเหตุอุทกภัยได้ส่งสัญญาณเตือนในแม่น้ำ 212 สายทั่วประเทศ โดยในจำนวนนี้ 19 สาย มีระดับน้ำสูงเกินจากสถิติสูงสุดที่บันทึกไว้ก่อนหน้านี้

อ่านข่าวเก่า
สุดระทม! จีนเร่งอพยพชาวบ้าน หนีน้ำท่วมหนัก มีผู้เสียชีวิตแล้ว เกือบ 20 ราย

ขณะเดียวกันประชาชนท้องถิ่นอีกมากกว่า 41,700 คน กำลังเผชิญหน้ากับเหตุอุทกภัย โดยได้รับความช่วยเหลืออุปกรณ์เครื่องกล จำนวน 537 ชุด ปัจจุบันเจียงซีได้เพิ่มกองกำลังลาดตระเวนเพื่อเฝ้าระวังความเสี่ยงตามแนวเขื่อนกั้นน้ำตลอด 24 ชั่วโมง

ด้านอวี๋เจี้ยนกั๋ว รอง ผอ.สำนักการจัดการภาวะฉุกเฉิน อ.ตงจื้อของมณฑลอันฮุย เผยว่าเหตุอุทกภัยส่งผลกระทบต่อประชาชนใน อ.ตงจื้อ ซึ่งอยู่ใกล้กับเจียงซี มากกว่า 260,000 คน หรือคิดเป็นราวครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมดในอำเภอ เมื่อนับถึงวันที่ 10 ก.ค.63 ขณะพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายมากกว่า 41,000 ไร

ด้านคณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยว่า จีนได้จัดสรรงบประมาณรวม 309 ล้านหยวน (ราว 1.3 พันล้านบาท) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากน้ำท่วมทั่วประเทศ เริ่มจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างรุนแรง ซึ่งรวมถึงมณฑลอันฮุย เจียงซี หูเป่ย และเทศบาลนครฉงชิ่ง เพื่อก่อสร้างและซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะในท้องถิ่น ส่วนหลายพื้นที่ทางตอนใต้ของจีนก็ประสบกับพายุฝนมาตั้งแต่เดือนมิถุนายน และมีระดับน้ำสูงขึ้นจนเกินเกณฑ์เตือนภัย

ด้านสำนักทรัพยากรน้ำมณฑลเจียงซีทางตะวันออกของจีน รายงานว่า ระดับน้ำในทะเลสาบโผหยาง ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่สุดของประเทศ ได้เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ สถานีอุทกวิทยาซิงจื่อ บันทึกระดับความสูงของน้ำได้ที่ 22.53 เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับที่เคยบันทึกไว้ในปี 1998 ราว 0.01 เมตร ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา และยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพื้นที่ทะเลสาบโผหยางได้รับการพัฒนาเขื่อนกั้นน้ำและอุปกรณ์ป้องกันอุทกภัยเพิ่มขึ้น ขณะที่ระดับน้ำในทะเลสาบไท่หู (Taihu Lake) ซึ่งเป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่อันดับสองของประเทศ ปรับตัวสูงขึ้นจนเกินเกณฑ์เตือนภัยติดต่อกัน 15 วันแล้ว

สวีเหว่ยหมิง เลขาธิการสำนักงานใหญ่ด้านการควบคุมอุทกภัยและบรรเทาภัยแล้งมณฑลเจียงซี กล่าวว่า “เราจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของประชาชนเป็นลำดับแรก และจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อต่อสู้กับเหตุอุทกภัยครั้งประวัติศาสตร์นี้” ขณะที่พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายมากกว่า 2.7 ล้านไร่ และสร้างความสูญเสียทางเศรษฐกิจโดยตรงสูงถึง 6.49 พันล้านหยวน (ราว 2.9 หมื่นล้านบาท) และประชาชนท้องถิ่นอีกมากกว่า 53,300 คน กำลังเผชิญหน้ากับเหตุอุทกภัย โดยได้รับความช่วยเหลือเป็นอุปกรณ์เครื่องกล จำนวน 1,545 ชุด ทั้งนี้ กระทรวงการจัดการเหตุฉุกเฉินของจีน (MEM) ได้จัดสรรอุปกรณ์และเครื่องไม้เครื่องมือไปยังทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงเรือ 190 ลำ เต็นท์ 3,000 หลัง เตียงพับ 10,000 เตียง ผ้าห่ม 10,000 ผืน และผ้าห่ม 20,000 ผืน เพื่อช่วยควบคุมอุทกภัยและบรรเทาภัยพิบัติในระดับท้องถิ่น ขอบคุณข้อมูล : ซินหัว