มิติใหม่! เรือนจำบราซิล ใช้ ‘ห่าน’ แทน ‘สุนัข’ จับตานักโทษแหกคุก

เรือนจำบราซิล ปิ๊งไอเดีย ใช้ ‘ห่าน’ แทน ‘สุนัข’ จับตานักโทษแหกคุก เพราะราคาถูกกว่า และสามารถทำงานได้ดี ในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมเงียบสงบ

เรือนจำบราซิล ใช้ห่านแทนสุนัข เพื่อเฝ้ายาม ส่งเสียงเตือนเมื่อพบนักโทษหนี

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.66 สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เรือนจำที่รัฐซานตาคารินาของบราซิล ได้ทำการเปลี่ยนแปลงวิธีการเฝ้าตรวจตราคุก โดยใช้ห่านแทนที่สุนัข เพื่อทำภารกิจดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ของเรือนจำระบุว่า ห่านเป็นสัตว์ที่มีความสามารถในการเฝ้าระวังที่ดี และยังเหนือกว่าสุนัขอีกด้วย โดยห่านเหล่านี้ทำหน้าที่ลาดตะเวนบริเวณรั้วภายในและกำแพงภายนอกของเรือนจำ พร้อมทั้งส่งเสียงเตือนเมื่อพบกับการเคลื่อนไหวผิดปกติ หรือเมื่อนักโทษพยายามหลบหนี

ผู้กำกับเรือนจำได้กล่าวในสัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า นอกจากระบบรักษาความปลอดภัยแบบอิเล็กทรอนิกส์และเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังแล้ว การใช้ห่านเป็นหนึ่งในวิธีการที่เป็นทางเลือกใหม่ โดยห่านมีราคาถูกกว่าสุนัข และสามารถทำงานได้ดีในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมเงียบสงบ เรือนจำนี้ได้นำห่านมาใช้ในการทำงานมานานกว่า 12 ปี และนอกจากในบราซิลแล้ว ประเทศจีนยังได้ใช้ห่านในการเฝ้าระวังชายแดนจีน-เวียดนาม เพื่อป้องกันการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งประเทศจีนได้ใช้วิธีการนี้มานานกว่าสองปีแล้ว

ขอบคุณภาพจาก สำนักข่าวรอยเตอร์

การใช้ห่านในฐานะผู้เฝ้ายามในเรือนจำและพื้นที่สำคัญอื่นๆ เป็นหนึ่งในแนวทางที่แปลกใหม่และน่าสนใจ แสดงเป็นว่ามีการปรับใช้สัตว์ในฐานะผู้ช่วยรักษาความปลอดภัยได้ในหลากหลายรูปแบบ ไม่จำเป็นต้องอาศัยเพียงแค่สุนัขเท่านั้น ในบทบาทนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสร้างสรรค์และการประยุกต์ใช้ทรัพยากรท้องถิ่นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของแต่ละพื้นที่ นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนในการดูแลและฝึกฝนสัตว์ เมื่อเปรียบเทียบกับสุนัขที่มักต้องการการฝึกฝนอย่างต่อเนื่องและมีค่าใช้จ่ายสูง

สิ่งนี้ยังเป็นตัวอย่างของการนำวิถีชีวิต และธรรมชาติมาผสานกับเทคโนโลยีและงานด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้เกิดการนำไปใช้ในบริบทอื่นๆ อีกมากมายในอนาคต และในบทบาทเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจและแปลกใหม่เท่านั้น แต่ยังเป็นตัวอย่างของการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ในวิธีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและยั่งยืน และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับวิธีการอื่นๆ ในการจัดการกับปัญหาที่เผชิญอยู่ในปัจจุบัน

ขอบคุณภาพจาก สำนักข่าวรอยเตอร์