ทรัมป์ เล็ง ลดภาษีนำเข้า อะไหล่รถยนต์ หลังโดน ภาคอุตสาหกรรม กดดันหนัก

ทรัมป์เริ่มอ่อน หลัง #ภาษีตอบโต้ กระแสติดลบ ล่าสุด เล็งลดภาษีนำเข้าอะไหล่รถยนต์ เพราะโดนภาคอุตสาหกรรม กดดันหนัก

สื่อต่างประเทศรายงานข่าว ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เตรียมผ่อนปรน ภาษีนำเข้ายานยนต์ และอะไหล่ ในเร็วๆนี้ หลังจากผู้ผลิตรถยนต์กดดันหนัก

โดยสื่อใหญ่อย่าง รอยเตอร์ รายงานว่า การเปลี่ยนแปลงภาษีนำเข้ายานยนต์ 25% ของทรัมป์ จะทำให้บริษัทผลิตรถยนต์ได้รับเครดิตสูงถึง 15% ของมูลค่ารถยนต์ที่ประกอบในประเทศ เครดิตดังกล่าวอาจนำไปใช้กับมูลค่าชิ้นส่วนนำเข้า ทำให้มีเวลาพอที่จะนำห่วงโซ่อุปทานกลับประเทศได้ การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถนำเข้าชิ้นส่วนปลอดภาษีได้ โดยมีมูลค่าประมาณ 3.75% ของราคาสติ๊กเกอร์ของรถยนต์ที่ผลิตในประเทศที่ขายในปีแรก และ 2.5% ในปีที่สอง สิทธิประโยชน์ดังกล่าวซึ่งมีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 3 เมษายน จะหมดลงในปีที่สาม เพื่อผลักดันให้บริษัทต่างๆ ย้ายการผลิตชิ้นส่วนมายังสหรัฐฯ

ยิ่งไปกว่านั้น รถยนต์และชิ้นส่วนที่อยู่ภายใต้ภาษีศุลกากรดังกล่าว จะไม่ถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรอื่นๆ ของทรัมป์อีกต่อไป รวมถึงภาษี 25% ของสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ภาษี 25% ของเหล็กและอลูมิเนียม รวมถึงภาษี 10% ที่ใช้ในประเทศส่วนใหญ่

การเปลี่ยนแปลงนี้ยังขยายการยกเว้นภาษีศุลกากรสำหรับชิ้นส่วนของอเมริกาเหนือ ที่เป็นไปตามกฎแหล่งกำเนิดสินค้า ของข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) อีกด้วย

รอยเตอร์อ้างการให้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐคนหนึ่งว่า หากคุณสร้างรถยนต์ที่อื่นและนำเข้ามาทางเรือ คุณจะเสียเปรียบอย่างมาก ในกรณีของภาษีโลหะ ผู้ผลิตรถยนต์จะต้องจ่ายภาษีสำหรับยานยนต์หรือภาษีสำหรับเหล็กและอลูมิเนียม ขึ้นอยู่กับว่าอันไหนจะสูงกว่ากัน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวกล่าวว่า การผ่อนปรนมาตรการภาษีจะไม่ใช้กับชิ้นส่วนของจีน ซึ่งจะยังคงอยู่ภายใต้มาตรการภาษีล่าสุดของทรัมป์อย่างน้อย 145% นอกเหนือจากมาตรการภาษีก่อนหน้านี้

การลดผลกระทบของการเก็บภาษีรถยนต์ถือเป็นการเคลื่อนไหวล่าสุดของฝ่ายบริหารเพื่อแสดงความยืดหยุ่นในเรื่องภาษี ซึ่งก่อให้เกิดความวุ่นวายในตลาดการเงิน สร้างความไม่แน่นอนให้กับธุรกิจ และจุดชนวนให้เกิดความกลัวว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอย่างรุนแรง