
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดรายงานยอดผลิตรถยนต์เดือนมิถุนายน 2568 ที่เริ่มทยอยฟื้นตัว โดยมีรถ EV และรถกระบะเป็นพระเอกช่วยกู้วิกฤต แต่วิกฤตเศรษฐกิจโลกยังรออยู่ตรงหน้า ทำให้ต้องปรับลดเป้าหมายการผลิตรถทั้งปีลงทันที 50,000 คัน มิ.ย. 68 ผลิตรถทะลุ 1.3 แสนคัน ฟื้นเดือนที่ 2 ติด
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ ที่ปรึกษาประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ และโฆษกกลุ่มฯ เผยว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือนมิถุนายน 2568 อยู่ที่ 130,223 คัน แม้ลดลงจากเดือนพฤษภาคม 6.44% แต่กลับ เพิ่มขึ้นจากเดือนเดียวกันปีก่อนถึง 11.98% นับเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันที่ยอดผลิตกลับมาบวก แรงหนุนสำคัญมาจากการผลิต รถยนต์ไฟฟ้า (BEV) ที่เพิ่มขึ้นถึง 314.55% และ รถกระบะ ที่ผลิตเพิ่มขึ้น 8.39% ครึ่งปีแรกผลิตแล้ว 7.2 แสนคัน ขายเพิ่มขึ้น 3 เดือนติด ในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค. – มิ.ย. 68) ไทยผลิตรถไปแล้ว 724,715 คัน แม้ลดลง 4.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ยอดขายรถยนต์ในประเทศกลับฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในเดือนมิถุนายนที่ขายได้ 50,079 คัน แม้ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า แต่ก็ยัง เพิ่มขึ้น 5.07% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า และการเปิดตัวรถ PPV รุ่นใหม่ช่วยกระตุ้นยอดอย่างเห็นได้ชัด กระบะยังน่าห่วง! หนี้พุ่ง กู้ไม่ผ่าน ยอดขายวูบเกือบ 20% ถึงแม้รถกระบะจะช่วยฟื้นยอดผลิต แต่ยอดขายในประเทศยังดิ่งต่อเนื่อง ติดลบถึง 19.9% เพราะประชาชนยังเจอปัญหากู้ไม่ผ่าน จากหนี้ครัวเรือนสูง และสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ขณะที่ภาคเศรษฐกิจจริงยังอ่อนแรง การลงทุนเอกชนไตรมาส 1 ปี 68 ลดลง 0.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน ทำให้ภาคแรงงาน โดยเฉพาะกลุ่มก่อสร้างและภาคผลิตลดลงต่อเนื่อง กำลังซื้อจึงยังไม่กลับมา
รถ EV และรถกระบะยังช่วยประคองอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยไม่ให้ทรุดหนัก แต่ข่าวร้ายคือ โลกยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนทั้งสงคราม เศรษฐกิจ และภาษี ปีนี้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ ต้อง “ขับเคลื่อนแบบระวัง” เพราะเป้าผลิตหายไปถึง 50,000 คันแล้ว!