ทำเพราะหึงหวง! ตำรวจตามจนเจอ แก๊งแฟนเก่ารุมกระทืบแฟนใหม่

แฟนเก่ารับ ทำร้ายแฟนใหม่จริงเพราะหึงหวง ด้านฝ่ายหญิงไม่ขอกลับไป เพราะโดนทำร้ายร่างกายตลอดที่คบกัน

จากกรณีแก๊งแฟนเก่า ขับรถไล่ล่า ใช้เท้าถีบกระจกรถ รุมกระทืบแฟนใหม่กลางถนน ก่อนจิกหัวสาวแฟนเก่าขึ้นรถขับหลบหนี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (10 ม.ค. 65) บริเวณถนนรถรางสายเก่า ใกล้สี่แยก ถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

ล่าหนุ่มโหด รุมกระทืบแฟนใหม่ของแฟนเก่า ก่อนลากแฟนเก่าขึ้นรถหลบหนีไป

ล่าสุดวันนี้(11 ม.ค. 65) ทีมข่าวอีจันได้ลงพื้นที่ติดตามเรื่องนี้ที่ สภ.สำโรงเหนือ และได้พูดคุยกับนายสถาพร ผู้เสียหายที่ถูกรุมทำร้าย เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับฝ่ายหญิงผ่านแอปพลิเคชัน BIGO LIVE ได้ประมาณ 1 เดือน ด้านฝ่ายหญิงบอกกับตนว่าได้เลิกรากับแฟนเก่าแล้ว และได้ขนของกลับบ้านมาอยู่ที่จังหวัดนครปฐม โดยตนก็ได้ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าฝ่ายหญิงเลิกรากับแฟนเก่าจริงๆ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนเหตุการณ์ที่ตนถูกทำร้ายร่างกาย ตนไม่เห็นว่าใครเป็นคนถีบกระจก เพราะรู้สึกแค่ว่าโดนรุมอย่างเดียว และก็ไม่ได้มีใครทันพูดอะไรด้วย โดยที่ผ่านมายอมรับว่าเคยพูดคุยกับคู่กรณีทางโทรศัพท์ 2 ครั้ง และเคยทะเลาะกัน แต่ยังไม่เคยเจอฝ่ายชาย เพราะฝ่ายหญิงตามตนมาเอง และมารับตนไปกินข้าวเอง ซึ่งความรู้สึกตอนนี้ ก็รู้สึกโกรธที่ฝ่ายชายมาทำร้ายร่างกาย หลังจากนี้ต้องรอคุยแต่ไม่ยืนยันว่าจะเลิกคุยกับฝ่ายหญิง เพราะทราบมาว่าฝ่ายชายบังคับฝ่ายหญิงกลับบ้านไปเมื่อวานนี้ โดยฝ่ายหญิงพยายามแจ้งตำรวจให้ไปช่วย และส่งข้อความมาหาตนให้ไปช่วยด้วย

ด้านพี่ชายของผู้เสียหาย เล่าว่า ตนไม่โอเคกับฝ่ายหญิงมาก เพราะได้โทรคุยกับแฟนเก่าของเขาแล้ว ก็ยืนยันว่าไม่ได้เลิกกัน ฝ่ายหญิงโกหก และฝ่ายหญิงยังคบซ้อนอีกถึง 4 คน แต่ดันซวยที่มาเจอกับน้องชายตนพอดี เพราะฝ่ายชายติด GPS ไว้ที่รถ โดยตนยอมรับว่าติดใจเรื่องคนที่รุมกระทืบน้องชายมาก เพราะไม่เชื่อว่าแฟนเก่าจะทำเพียงคนเดียว อีกทั้งแฟนเก่ายังพูดขู่ทางโทรศัพท์ด้วยว่า “เอาปืนจะไปยิงอยู่แล้ว”

นอกจากนี้ นางสาวปาริชาติ อดีตแฟนสาวของผู้ก่อเหตุ ได้เผยถึงเรื่องดังกล่าวด้วยว่า เมื่อวานนี้ตนขับรถมาหานายสถาพร ผู้เสียหาย แต่ปรากฏว่าโดนดักทำร้ายบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งตนรู้อยู่แก่ใจว่ารถถูกติด GPS แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ พอเกิดเรื่องตนพยายามห้ามและกันแฟนเก่าไม่ให้ทำร้ายนายสถาพรแล้ว แต่ก็ถูกจิกหัวขึ้นรถ ก่อนถูกบังคับยึดทั้งรถและยึดโทรศัพท์ พร้อมย้ำถามว่า “จะเอายังไง?” ก่อนถูกตบหน้า 4-5 ครั้ง กระทั่งไปถึงที่บ้านฝ่ายชาย ก็ถูกเตะเข้าที่หน้าอีก 3-4 ครั้ง ซึ่งตนไม่สามารถที่จะโทรติดต่อขอความช่วยเหลือจากใครได้เลย แต่มีจังหวะที่ตำรวจโทรเข้ามา ทางฝ่ายชายได้บังคับให้ตนเปิดลำโพง และบังคับให้พูดตามที่เขาบอก

นางสาวปาริชาติ ยังยืนยันอีกว่า ได้เลิกรากับแฟนเก่ามา 3 วันแล้ว สาเหตุที่เลิกรา เพราะถูกทำร้ายร่างกายเวลาทะเลาะกัน ประกอบกับตนคบกับฝ่ายชายมาเกือบ 4 ปี ถูกทำร้ายมา 3 ครั้ง ครั้งล่าสุดก็ถูกตบเข้าที่หน้าแต่ไม่ได้แจ้งความ จนล่าสุดเมื่อวานนี้ฝ่ายชายส่งข้อความมาหาอีกว่า “ไม่ยอมเลิก” จนมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว

นอกจากนี้นางสาวปาริชาติ ยังบอกทิ้งท้ายว่า “จะไม่กลับไปหาแฟนเก่าแล้ว เพราะทำถึงขนาดนี้” ยืนยันไม่ได้คบซ้อนถึง 4 คนตามที่ถูกกล่าวหา

ด้าน นายศุภวิช ผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนอยู่กินกับฝ่ายหญิงมาประมาณ 5 ปีแล้ว ที่ผ่านมาต้องอดทน เพราะเคยจับได้ว่าผู้หญิงคบซ้อนถึง 5 คน และ 3 ใน 5 เป็นเสี่ยที่ฝ่ายหญิงมักจะขอเงินและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย โดยคนล่าสุดที่เป็นผู้เสียหาย ตนยอมรับว่าทำเกินกว่าเหตุ และเป็นความผิดจริง แต่ยืนยันว่าเคยพูดคุยกับฝ่ายชายแล้ว และมีหลักฐานแชทข้อความที่ส่งไปว่า “ขอไม่ให้ยุ่งกับคนของตน” ด้วย แต่ฝ่ายชายก็ยังคุยต่อและไม่ยอมเลิกยุ่ง

จนกระทั่งในวันเกิดเหตุเป็นช่วงที่ฝ่ายหญิงขอแยกตัวกลับบ้าน เพื่อทบทวนตัวเอง แต่ไม่ได้เลิกรากับตน และยังบอกรักกันอยู่ตลอด อีกทั้งฝ่ายหญิงยังส่งข้อความมาว่า “ถ้าจะกลับมายังรอเค้าอยู่ไหม?” โดยตนก็ไม่คิดว่าฝ่ายหญิงจะไปหาฝ่ายชายที่สมุทรปราการ จึงได้เช็ก GPS ที่ติดไว้ในรถ ปรากฏว่าไปขึ้นที่สมุทรปราการจริง จึงชักชวนเพื่อนที่ทำงานออกไปตามหาฝ่ายหญิง จนไปเจอยังจุดเกิดเหตุ

จากนั้นตนได้ใช้เท้าถีบกระจกรถ และเข้าไปทำร้ายฝ่ายชายจริง พร้อมกับเพื่อนอีก 1 คน พร้อมยอมรับว่าเป็นการบันดาลโทสะ และด้วยศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย แต่ยืนยันว่าไม่ได้จิกหัวผู้หญิงขึ้นรถตามที่เป็นข่าว ซึ่งช่วงที่อยู่ในรถกับฝ่ายหญิง ได้ตบหน้าฝ่ายหญิงจริง ด้วยอารมณ์โมโห ประกอบกับความรู้สึกที่ถูกสวมเขา ยอมรับว่าสาเหตุที่ทำลงไปเพราะตนรักฝ่ายหญิงมาก จนถึงวินาทีนี้ก็ยังรักมากอยู่ แต่ว่าคงไม่กลับไปแล้ว และยืนยันว่าไม่ให้อภัยหากฝ่ายหญิงหากจะกลับมาคบด้วย

ด้านความคืบหน้าทางคดี พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก. สภ.สำโรงเหนือ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตำรวจชุดสืบสวนสามารถติดตามตัวจนพบนางสาวปาริชาติ อดีตแฟนสาวของผู้ก่อเหตุ และนายศุภวิช ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นอดีตแฟนหนุ่มได้แล้ว โดยทราบว่าหลังก่อเหตุทั้งคู่ได้ขับรถกลับบ้านของนายศุภวิช ย่านสวนผัก ก่อนตำรวจจะไปพบ และพาทั้งคู่มาสอบปากคำที่โรงพัก เบื้องต้นจากการสอบปากคำ สาเหตุมาจากเรื่องหึงหวง ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวจนนำไปสู่ความเข้าใจผิด

เบื้องต้นทางตำรวจได้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องแล้วทั้งหมด 3 ราย ได้แก่ นายศุภวิช ผู้ก่อเหตุ , นายธันวา และนายอนุชา เพื่อนผู้ก่อเหตุ ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

คลิปอีจันแนะนำ
ลุงขากะเผลก ยังพุ่งมาเฉี่ยว!