ที่ดิน 2 ไร่ เกือบกลายเป็น มรดกเลือด !

ที่ดิน 2 ไร่ เกือบกลายเป็น มรดกเลือด หลังหลานเขย คว้าจอบสับหัวน้าเขยเจ็บหนัก อ้างน้าแย่งที่ดิน!

ที่ดินเพียง 2 ไร่ เกือบกลายเป็น มรดกเลือด!

วันนี้ (04 พ.ค. 65) ศูนย์วิทยุสื่อสาร สภ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้รับแจ้งจาก ผู้ใหญ่บ้านตูม ว่าที่บริเวณป่าทาม ทางด้านทิศเหนือของบ้านตูม มีเหตุคนใช้จอบทำร้ายร่างกายกัน เป็นเหตุให้มีคนได้รับบาดเจ็บสาหัส

ร.ต.อ.ธัชพล งามนิธิธนสุนทร ร้อยเวร สภ.ท่าตูม พร้อมหน่วยกู้ชีพ อบต.หนองเมธี หน่วยกู้ภัยปทุมทอง จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บชื่อ นายสมพร อายุ 67 ปี นอนหายใจรวยรินอยู่กลางทุ่งนา โดยมีแผลฉกรรจ์ที่บริเวณขมับขวา เจ้าหน้าที่จึงรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำตัวส่งรักษาต่อที่ โรงพยาบาลท่าตูม จ.สุรินทร์

จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นหลานเขยของนาย สมพร ทราบชื่อนายวัชรินทร์ อายุ 48 ปี แต่ผู้ก่อเหตุนั้นไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุขณะที่ตำรวจไปถึง

อดีตผู้ใหญ่บ้าน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังเดินทางจะไปทุ่งนานั้น ตนเหลือบไปเห็นนายสมพร (ผู้บาดเจ็บ) ยืนเถียงอยู่กับ นายวัชรินทร์ (ผู้ก่อเหตุ) สักพักหนึ่งก็มีเสียงคล้ายของแข็งกระทบกัน ตนจึงหันไปมอง ก็เห็นว่านายวัชรินทร์ ใช้จอบสับตรงขมับขวาของนายสมพรล้มทั้งยืน

ตนจึงรีบวิ่งเข้ามาห้ามปราม และแจ้งให้เพื่อนบ้านไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้มาที่เกิดเหตุ และแจ้งเหตุไปยัง สภ.ท่าตูม โดยที่นายวัชรินทร์ (ผู้ก่อเหตุ) ก็ไม่ได้หนีไปไหน

ชาวบ้านเล่าว่า นายวัชรินทร์ หรือผู้ก่อเหตุ หลังทำร้ายน้าเขยแล้วเห็นว่ามีชาวบ้านมามุงดูเยอะ จึงบอกว่าเดี๋ยวตนจะไปมอบตัวเอง จากนั้นผู้ก่อเหตุจึงได้ขี่รถจักยานยนต์ พร้อมถืออาวุธที่ใช้ก่อเหตุเดินทางไปยัง สภ.ท่าตูม เพื่อทำการมอบตัว

หลังผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัว พ.ต.อ.สราวุฒิ ศรีวิฑูรย์ศักดิ์ ผกก.สภ.ท่าตูม จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน นำตัวผู้ก่อเหตุพร้อมอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุ เดินทางไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุทันที

โดยที่ทุ่งนาดังกล่าวเป็น ที่ดิน “มือเปล่า” พื้นที่ 2 ไร่ ไม่มีหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน เจ้าของที่ดินดังกล่าวมีเพียงสิทธิในการครอบครอง ห้ามซื้อขาย

ด้านนายวัชรินทร์ หรือผู้ก่อเหตุ อ้างว่า เหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้ นายสมพรจะมาแย่งที่ดินของตนเองไป ซึ่งมีเนื้อที่ 2 ไร่ ที่ตนได้ใช้ทำมาหากินมาตั้งแต่พ่อยังมีชีวิตอยู่

แต่ต่อมาน้องชายของตนได้แอบขโมยที่นาไปขายให้กับนายสมพร โดยที่ตนไม่ทราบมาก่อน และเมื่อใดที่ตนจะเข้าไปทำนาก็มักจะถูกนายสมพรพูดจาดูถูกเหยียดหยามบ่อยครั้ง จนครั้งนี้ตนเองทนไม่ไหว จึงได้ก่อเหตุขึ้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวนายสมพรไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว ส่วนเรื่องความผิดของนายวัชรินทร์นั้น ต้องให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป