ยังไม่ปล่อยตัวชายสงสัย ชิงทองเซ็นทรัลขอนแก่น!

ความคืบหน้าคดีคนร้ายชิงทองรูปพรรณน้ำหนัก 3 บาท จำนวน 11 เส้น ภายในห้างเซ็นทรัลขอนแก่น เมื่อเวลา 19.19 น. เมื่อวานนี้(20 พ.ย. 64) โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านทองและตามจุดต่างๆของห้างสรรพสินค้าจับภาพเอาไว้ได้ คนร้ายคลุมหมวกไอ้โม่งสีดำ สวมเสื้อยืดสีขาวลายข้อความ WHY SO SERIOUS FUNNY สวมกางเกงขายาวสีดำ ปลอกแขนสีดำ ถือถุงพลาสติกสีขาวมาที่หน้าร้านทองแล้วหยิบเอาปืนที่อยู่ภายในถุงขึ้นมาชูเล็งขึ้นบนฟ้า ก่อนเข้าไปก่อเหตุดังกล่าวแล้วหลบหนีไป

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้(21 พ.ย. 64) ที่ห้อง ศปก.สภ.เมืองขอนแก่น พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.นพเก้า โสมนัส ผบก.ภ.จ.ขอนแก่น พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 4 สืบสวน ภ.จ.ขอนแก่นและสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทองในร้านทองกีรติ ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่าขอนแก่น

พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 ได้เข้าตรวจสอบในร้านทอง พบว่าคนร้ายทำถุงหิ้วพลาสติกลักษณะสี่เหลี่ยม ข้างนอกขาว ด้านในเป็นลาย ตกอยู่ที่พื้นในร้านทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและนำไปตรวจหาดีเอ็นเอของคนร้าย ในขณะที่การตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด ภายในห้างและระบบรักษาความปลอดภัยของห้างฯนั้น ในเบื้องต้นทราบว่ามี รปภ.รักษาความปลอดภัยในชั้นที่มีร้านทองและธนาคารรวม 4 คน ส่วนคนร้ายนั้นใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว มีลายเป็นตัวหนังสือ ซึ่งเดินมาจากริมถนนรถไฟทางด้านถนนศรีจันทร์ เดินผ่านลานข้าวเหนียว เข้ามายังภายในห้างฯ และเดินขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ร้านทองบริเวณชั้น 2 ก่อนที่จะเข้าในร้านทองคนร้ายได้เอาผ้าปิดหน้าลงและเป็นจังหวะที่ รปภ.ที่เดินอยู่บริเวณดังกล่าวเห็น จึงตะโกนให้เอาผ้าสีดำที่ปิดหน้าออก แต่คนร้ายไม่ฟังได้วิ่งเข้าไปก่อเหตุ โดยเชื่อว่าคนร้ายใช้ปืนขนาด 9 มม. แต่ใช้กระสุนลูกแบลงก์ เพราะปลอกกระสุนที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 หัวเป็นกระสุนลูกแบลงก์ ซึ่งกระสุนชนิดนี้มีเสียงดังมาก และมีขายในร้านบีบีกัน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน 4 ได้เก็บไปตรวจพิสูจน์แล้ว

ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวอีกว่า ในส่วนของผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 1 รายที่ตำรวจควบคุมตัวได้หลังเกิดเหตุนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน เพราะต้องรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ได้มากที่สุดจึงจะจับกุมได้ โดยจะทำการสืบสวนสอบสวนหาตัวคนร้ายจากกลุ่มคนที่เป็นพนักงานในห้างฯ ที่ลาออกไป และกลุ่มคนที่เข้ามาทำการก่อสร้างภายในห้างฯ