หนีไม่รอด! หนุ่มโฉดฆ่าข่มขืนสาวพม่า โดนรวบคาที่กบดาน

ตำรวจรวบ! หนุ่มก่อเหตุฆ่าข่มขืนสาวพม่า เผาอำพรางอย่างโหดเหี้ยม

จากกรณี นางสาวข่าย สาวชาวเมียนมา วัย 21 ปี ถูกคนร้ายข่มขืนแล้วฆ่าทิ้งอำพรางศพ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พ.ย.64 นางสาวข่ายได้หายตัวไปจากห้องพัก ตำรวจได้เข้าตรวจสอบ พบว่าภายในห้องของนางสาวข่ายนั้นมีสภาพข้าวของถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย มีสก๊อตเทปสีเหลืองที่มีเส้นผมติดอยู่เป็นจำนวนมาก วางตกอยู่บริเวณปลายเตียง และมีรอยเลือดหยดอยู่ใกล้ๆ

สอบถามคนข้างห้อง เล่าว่า ได้ยินเสียงคนร้องกรี๊ดแต่ก็ไม่กล้าออกมาดู และชาวบ้านใกล้เคียงเห็นว่ามีผู้ชายฉุดกระชากลากดึงผู้หญิงอยู่ในสวนปาล์มใกล้เคียงกับห้องเช่าที่นางสาวข่ายเช่าอยู่ แต่คิดว่าเป็นสามีภรรยาทะเลาะกันจึงไม่ได้สนใจ และหลังจากนั้นก็ไม่เห็นนางสาวข่ายอีกเลย เพื่อนๆชาวเมียนมาได้พากันออกตามหาภายในป่า และพื้นที่ใกล้เคียงแต่ไม่พบตัว ทำให้ทางญาติและเพื่อนร่วมงานกังวัลใจ จนไม่เป็นอันทำงาน

หัวหน้างานจึงได้พา นางสาวเนียว อายุ 24 ปี พี่สาว เดินทางมาแจ้งความที่ สภ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งความ ก็ได้ลงตรวจสอบในที่เกิดเหตุ และได้เรียกพยานบุคคลเข้ามาสอบปากคำ จนวันที่ 16 พ.ย. 64 เวลา 11.39 น. นางสาวสมหมาย ได้ติดต่อมาที่บริษัทเอเจนซี่จัดหางานให้กับแรงงานต่างชาติ เพื่อพูดคุยเรื่องคดีของนางสาวข่าย

เนื่องจากนายบุญหลาย น้องชายของเธอ ได้บอกกับเธอว่าได้ข่มขืนแล้วพลั้งมือฆ่านางสาวข่ายตาย โดยสถานที่ทิ้งศพอยู่ในสวนปาล์มและบ่อน้ำ โดยเธอยอมจ่ายเงินชดใช้ค่าทำศพให้ และยืนยันว่าน้องชาย เป็นผู้ก่อเหตุฆ่าข่มขืนแล้วทิ้งอำพรางศพจริง ส่วนนายบุญหลาย ทราบว่าทางตำรวจพบหลักฐาน และมีพยานแวดล้อมจึงได้หลบหนีไป

ต่อมา วันที่ 18 พ.ย. ตำรวจได้แกะรอยตามจนทราบที่อยู่ ของนายบุญหลาย จึงได้นำกำลังเข้าจับตัวถึง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว ขณะที่กำลังนอนพักผ่อนเตรียมตัวเพื่อเดินทางต่อในตอนรุ่งเช้า

ล่าสุดวันนี้ 19 พ.ย. 64 พ.ต.อ.วัลลภ กังธาราทิพย์ รักษาการแทน ผกก.สภ.กบินทร์บุรี พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.ปราจีนบุรี และอาสาเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยสัจจะฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณป่ายูคาพื้นที่บ้านวังมะกรูด ม.4 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุห่างจากถนนทางลูกรังเข้าไปประมาณ 100 เมตร พบโครงกระดูกมนุษย์ถูกเผาเป็นตอตะโก โดยใช้ยางรถยนต์จำนวน 2 เส้นเป็นเชื้อเพลิงในการเผา คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3-4 วัน เพราะส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณโดยรอบ และบริเวณข้างๆโครงกระดูกยังพบชิ้นส่วนของมนุษย์ เป็นขาขวาอยู่ในป่ายูคาอีกชิ้น และขาซ้ายห่างจากศพเล็กน้อยคาดว่าน่าจะถูกสัตว์มากัดกินและลากเข้าไป คนร้ายได้นำศพมาเผาห่างจากจุดที่เกิดเหตุเป็นระยะทาง 36 กิโลเมตร

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายบุญหลาย ฆาตกรโหดมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรก เป็นบริเวณป่าสวนปาล์มจุดที่คนร้ายลากตัวสาวพม่ามาจากห้อง และทำการข่มขื่น ก่อนที่จะทำร้ายร่างกายจนสลบไป และนำร่างของนางสาวข่ายที่นอนสลบลงสระน้ำ จนทำให้เสียชีวิต และทิ้งศพไว้ในน้ำ เพื่อออกไปทำธุรกับครอบครัว และกลับมานำศพขึ้นจากน้ำ ใส่ท้ายกระบะไปที่บ้านของตนเองที่อยู่หมู่บ้านหนองตะแบก ต.เขาไม้แก้ว และได้แวะที่บ้าน เป็นจุดที่ 2 เพื่อจะขนยางรถยนต์ จำนวน 2 เส้น ไว้ใช้ในการเผาร่างนางสาวข่าย พร้อมกับนำสายยางไปเพื่อดูดน้ำมันจากรถของตัวเอง ไว้ใช้เป็นเชื้อเพลงติดไปด้วย และจุดที่ 3 คือบริเวณป่าสวนยูคา ซึ่งคนร้ายได้นำร่างของนางสาวข่าย วางบนยางรถยนต์ที่เตรียมไว้ ก่อนใช้น้ำมันราดและจุดไฟเผาอย่างเหี้ยมโหด จากนั้นคนร้ายได้ขับรถออกมาจากสวนยูคา กลับไปที่บ้านอีกครั้ง และได้นำแกลลอนน้ำมันทิ้งข้างทาง หลังจากนั้นได้ขับรถยนต์ไปซ่อนตัวอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว จนมาถูกตามจับได้ในที่สุด

เบื้องต้นนายบุญหลาย อ้างว่าทำไปเพราะเห็นสาวพม่า นอนใส่ชุดนอนเปลือยท่อนล่างอยู่ในห้องแล้วเกิดอารมณ์ แต่กลัวนางสาวข่ายจะส่งเสียงจึงกลับไปเตรียมเชือกเทปกาว เพื่อจะมาปิดปาก แต่เธอเกิดสู้จึงเตะเข้าที่กรามจนพูดไม่ได้แล้วลากเข้าป่าปาล์มข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ ซึ่งตอนนั้นมีสุนัขเห่า กลัวคนมาเห็นจึงคว้าตัวสาวที่นอนสลบอยู่ทิ้งลงน้ำในสระ ที่อยู่ในสวนปาล์ม จนเธอจมน้ำตาย จึงกลับไปที่ห้องและอาบน้ำไปทำงานตามปกติ ตกเย็นไปรับเมียกับพี่สาวไปกินหมูกระทะ หลังจากนั้นจึงขอตัวไปทำธุระ ก่อนที่จะไปงมศพที่อยู่ในสระน้ำ และได้ใส่ท้ายรถกะบะคู่ใจไปเผานั่งยางในป่ากลางสวนยูคา แล้วกลับมาอยู่บ้านตามปกติก จนมีตำรวจเข้าไปขอตรวจสอบร่างกายพร้อมกับนำตัวมาสอบปากคำ ก่อนที่จะปล่อยตัวกลับไปเนื่องจากหลักฐานไม่พอ หลังกลับไปบ้านตนกลัวถูกจับจึงหนีไปกลบดานที่บ้านลุงที่สระแก้ว เพื่อจะหนีต่อ จนมาเมื่อคืนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กบินทร์บุรี บุกเข้าตามรวบตัวได้ในที่สุด

ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา หญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาตน, ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ปิดบังซ่อนเร้นทำลายศพ และส่งศพผู้เสียชีวิตไปพิสูจน์ต่อที่ รพ.ตำรวจ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในสำนวนคดี และจะมอบศพผู้เสียชีวิตให้ญาตินำกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี

คลิปอีจันแนะนำ
“เงินกองทุนน้ำมัน หลายแสนล้าน…หายไปไหน” #สิบล้อขอน้ำมัน 25 บาท