เรื่องจบแล้ว! แม่กราบป้าย สภ.ชนบท แจ้งความลูกสาวถูก ข่มขืน

ผกก.สภ.ชนบท ยืนยันให้ความเป็นธรรม แม่กราบป้าย สภ. แจ้งความลูกถูก ข่มขืน จับ ไอ้ปิ๊ก ผู้ต้องหาส่งฝากขังแล้ว

จับ ไอ้ปิ๊ก ลวงสาว 27 ไปค้างคืนด้วยกัน ด้านแม่แจ้งความลูกสาวถูก ข่มขืน กว่าตำรวจจะรับแจ้งความ แม่ต้องนอนกราบป้ายโรงพัก?

จากกรณี นางยุวะรีย์ (สงวนนามสกุล) ชาว อ.พล จ.ขอนแก่น นอนกราบป้ายสถานีตำรวจภูธรชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เมื่อเย็นวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกสาววัย 27 ปี ถูก ไอ้ปิ๊ก หรือ นายอเนก (สงวนนามสกลุ) อายุ 38 ปี ชาวบ้านหนองสะแบง ต.ห้วยแก อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ลวงออกจากบ้าน และ ไอ้ปิ๊ก พาลูกสาวไปที่บ้านพักของตัวเองแล้วอยู่ด้วยกันทั้งคืน จนเช้าวันที่ 13 มี.ค. 64 แม่และญาติพี่น้องตามไปพบที่บ้าน ไอ้ปิ๊ก สอบถามจนได้ทราบความจริงว่าทั้งคู่มีสัมพันธ์กัน แม่และญาติพี่น้องจึงรับตัวลูกสาวกลับบ้านและพาเข้าแจ้งความที่ สภ.แวงใหญ่ และตำรวจส่งตัวไปตรวจร่างกายที่ รพ.แวงใหญ่

ขณะเข้าไปในโรงพยาบาลมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลแนะนำว่า หากถูก ข่มขืน ในพื้นที่ อ.ชนบท ก็ต้องแจ้งความที่ สภ.ชนบท ตรวจร่างกายที่ รพ.ชนบท แม่และญาติจึงพาลูกสาวเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชนบท เพื่อแจ้งความและขอให้ส่งลูกสาวไปตรวจร่างกายที่ รพ.ชนบท เมื่อตรวจร่างกายเรียบร้อย จึงพากันมาพบพนักงานสอบสวน สภ.ชนบท มีการพูดคุยกัน ซึ่งสุดท้ายฝ่ายแม่และญาติเข้าใจว่าตำรวจไม่รับแจ้งความ แม่จึงไปนอนกราบป้ายหน้า สภ.ชนบท เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม

ซึ่งเมื่อวานนี้( 14 มี.ค. 64) พ.ต.อ.ชาญศิลป์ นาสูงชน ผกก.สภ.ชนบท ยืนยันว่า ตำรวจไม่ได้ปฏิเสธการรับแจ้งความ เพราะมีการรับแจ้งไว้เรียบร้อยแล้ว แต่การสอบสวนดำเนินคดีต้องเป็น สภ.แวงใหญ่ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้มีการรับแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว แต่ในการสืบสวนจับกุมคนทำผิดนั้นก็ประสานงานกันได้ ต่อมาเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.ชาญศิลป์ นาสูงชน ผกก.สภ.ชนบท พร้อมชุดสืบสวน สภ.ชนบท ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านพักของผู้เสียหาย เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจและสอบถามรายละเอียดต่างๆ ซึ่งทางผู้เสียหาย รวมถึงน้าสาว ญาติพี่น้อง ยืนยันให้ตำรวจไปเอาตัว ไอ้ปิ๊ก มาสอบสวน และพูดคุยกันที่บ้าน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ชนบทและชุดสืบสวน สภ.แวงใหญ่ ร่วมกันเดินทางไปนำตัว ไอ้ปิ๊ก หรือ นายอเนก (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี มาที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่ง ไอ้ปิ๊ก เดินทางมาพร้อมกับนางบุญแถม อายุ 77 ปี มารดา ไอ้ปิ๊ก กล่าวว่า ก่อนมารับตัวน้องไปได้โทรศัพท์หาฝ่ายหญิง ซึ่งฝ่ายหญิงยืนยันว่าไปได้ เพราะบอกยายแล้ว และยอมรับว่าได้มีเพศสัมพันธ์กับฝ่ายหญิงจริง ไม่ได้เป็นการ ข่มขืน และยินดีรับผิดชอบแต่งงานกับฝ่ายหญิงให้ถูกต้องตามประเพณีทุกอย่าง เพราะอยากได้ฝ่ายหญิงเป็นภรรยาอยู่กินด้วยกัน ถ้าหากฝ่ายหญิงและญาติไม่ยอมรับ ก็ยินดีที่จะถูกควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

ขณะที่ นางสาวบี ผู้เสียหาย ยืนยันว่า ไม่รัก และไม่ต้องการอยู่กับ ไอ้ปิ๊ก ด้าน นางสุดใจ (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี น้าสาว ก็ยืนยันว่าไม่ให้หลานสาวแต่งงานอยู่กินกับผู้ชายคนนี้เด็ดขาด ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และไม่ต้องการเงินจาก ไอ้ปิ๊ก แม้แต่บาทเดียว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว ไอ้ปิ๊ก ไปสอบสวน พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งไม่ไม่ภรรยาของตน พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารและข่มขืนกระชำเรา จากนั้นยังได้นำตัว ไอ้ปิ๊ก ไปตรวจปัสสาวะที่ รพ.แวงใหญ่ พบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้เสพยาบ้า จึงแจ้งข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย และคุมตัวส่งฟ้องฝากขังที่ศาลจังหวัดพล