จากกรณี “ไอ้เด่นภูมิ” ข่มขืนสาวเอนเตอร์เทน นับ 30 ราย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รวบคาคอนโด! กองปราบ จับ เด่นภูมิ โมเดลลิ่งเก๊ ลวงพริตตี้ ขยี้กามล่าสุดวันนี้ (12 พ.ค. 64) พ.ต.อ.วิศิษฐ์ สังขนันท์ ผกก.สน.บางขุนเทียน เผยว่า ในส่วนของ สน.บางขุนเทียน ตอนนี้มีผู้เสียหาย 2 คดี ดำเนินการออกหมายจับแล้วทั้ง 2 คดี แต่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตามข้อกล่าวหาที่ถูกออกหมายจับ รวมถึงขอใช้สิทธิ์ไม่ขอให้พาไปทำแผนชี้จุดเกิดเหตุ และขอทนายความเพื่อสู้คดี คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ค. 64) จะนำตัวไปขออำนาจศาลอาญาธนบุรี พิจารณารับฝากขังตัวชั่วคราว ส่วนที่ผู้ต้องหาได้ไปก่อเหตุในพื้นที่อื่นๆ คาดว่าจะมีการไปขออายัดตัวอีกครั้งหลังการส่งฝากขังต่อศาลไปแล้ว
ต่อมา น.ส.ฟ้า (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี และน.ส.ผิง (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี พริตตี้ผู้เสียหาย พร้อมด้วย นายวรกร พงศ์ธนากุล ทนายความ ได้เดินทางมาที่ สน.บางขุนเทียน เพื่อให้ผู้เสียหายทั้งสองชี้ตัวยืนยันผู้ต้องหา
โดย น.ส.ฟ้า กล่าวว่า ตนจดจำผู้ต้องหาได้แม่นยำ เชื่อว่าชี้ได้ไม่ผิดตัว ขณะชี้ตัว เขา ไม่มีท่าทีสลด ส่วนที่ผู้ต้องหาอ้างว่า “ไม่ได้บังคับ แต่เกิดจากความสมัครใจของผู้เสียหาย และยาเสพติด ก็เป็นของที่ผู้เสียหายเตรียมมานั้น” ยืนยัน ว่าไม่เป็นความจริง เพราะตอนเกิดเหตุถูกข่มขู่ด้วยอาวุธมีด และตนก็ไม่เคยเสพยาเสพติดมาก่อน ยอมรับว่า ก่อนที่ผู้ต้องหาจะถูกจับกุม ตนเองก็รู้สึกกลัวมาก เกรงว่าผู้ต้องหาจะมาดักทำร้าย จนไม่กล้าออกจากที่พัก
ขณะที่ น.ส.ผิง กล่าวว่า ตนเองถูกหลอกในลักษณะเดียวกันกับนางสาวฟ้า แม้ว่าในกลุ่มไลน์พริตตี้จะมีการเตือนเรื่องของนายเด่นภูมิ แล้ว ว่าเคยก่อเหตุหลายครั้ง แต่ทราบแค่ชื่อ และจำหน้าไม่ได้ รวมถึงไม่คิดว่าจะมาเจอกับตัวไม่สามารถหลบหนีออกมาได้ เพราะนายเด่นภูมิ ข่มขู่ พร้อมกับคำพูดว่าเป็น “ไอซ์หีบเหล็ก” ยิ่งทำให้รู้สึกกลัว จึงถูกข่มขืน และบังคับให้เสพไอซ์ แต่ตนเองพยายามอ้อนวอนขอร้องว่าตนเองมีลูก จึงไม่อยากเสพยา และจะพยายามหาเงินมาให้ ขอให้ปล่อยตัวกลับบ้าน
ทั้งนี้ ตนอยากให้ผู้เสียหายอีกหลายรายที่ไม่กล้าออกมาเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้นายเด่นภูมิ ได้รับผลกรรมอย่างถึงที่สุด
ด้าน นายวรกร เผยว่า ไม่ว่าผู้ต้องหาจะให้การอย่างไร ก็สามารถเอาผิดได้แน่นอน เช่น พฤติการณ์เรื่องการบังคับยาเสพติด ก็ทราบว่าผู้ต้องหาได้ใช้หลอดไฟในห้องน้ำโรงแรม มาทำอุปกรณ์บังคับให้ผู้เสียหายเสพยาฯ ซึ่งเรื่องแบบนี้คนทั่วไปไม่มีใครทราบว่าต้องทำกันอย่างไร
อีกทั้งพฤติการณ์ที่เคยก่อเหตุกับเหยื่อกว่า 30 คน ก็เพียงพอชี้ให้ศาลเห็นได้ว่าผู้ต้องหาได้ก่อเหตุจริง นอกจากนี้ยังมีพยานหลักฐานอื่น เช่น คลิปเสียงบันทึกการสนทนา ที่สามารถนำไปประกอบสำนวนคดีเอาผิดกับผู้ต้องหาได้