ยธ.แถลงผลการสืบสวน หาฆาตกร ฆ่าปาดคอ โทโมโกะ นทท.ชาวญี่ปุ่น

ยธ. หารือ ตำรวจญี่ปุ่น พบเบาะแส คดีโทโมโกะ ฆาตกรไม่ใช่คนไทย

ย้อนไปเกือบ 13 ปีก่อน เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2550 มีนักท่องเที่ยวสาวชาวญี่ปุ่น ชื่อโทโมโกะ คาวาชิตะ ถูกฆ่าปาดคอ และแทงซ้ำตามร่างกาย ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
เหตุการณ์ฆาตกรรมในครั้งนั้น สุดโชคร้าย ไม่มีผู้เห็นเหตุการณ์แม้แต่คนเดียว
แต่ยังแอบโชคดี ที่ โทโมโกะ เอง สามารถเก็บหลักฐานเนื้อเยื้อของใครบางคนไว้ได้ ซึ่งหลักฐานนั้นอยู่ในซอกเล็บของเธอ

ภาพจากอีจัน

แต่จากการปูพรมหาตัวผู้ต้องสงสัยของตำรวจ ก็ยังไม่เป็นผล ไม่พบพิรุธของคนร้าย
6 ปีต่อมา กรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 188/2556 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม แต่ได้ยุติการสอบสวนลง เนื่องจากไม่ปรากฏตัวผู้ก่อเหตุ
แม้จะยุติการสอบสวน แต่กรมสอบสวนคดีพิเศษยังดำเนินการสืบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง
เวลาผ่านไป 12 ปี พ.ศ. 2562 มีพยานเข้ามาให้ข้อมูล เคยมีชายไทยคนหนึ่ง อายุ 32 ปี มีอาการคลุ้มคลั่ง ถือมีด บอกว่า มีดเล่มนี้เคยทำร้ายโทโมโกะมาแล้ว ซึ่งข้อมูลตรงนี้ ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อได้ว่า อาจจะเข้าข่ายการทำร้าย น.ส.โทโมโกะ แต่ชายต้องสงสัยคนนี้ เสียเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2553 แต่เมื่อตรวจสอบพบว่าดีเอ็นเอ ไม่ตรงกับดีเอ็นเอที่พบบนศพของ โทโมโกะ

ภาพจากอีจัน
ภาพจากอีจัน


ล่าสุด 213 ก.ค.63 นายโทโมยูกิ ฟูจิยามะ หัวหน้านายตำรวจญี่ปุ่น/เลขานุการเอก และนายฮิโรยูกิ มูระมัตสึ เลขานุการโทและกงสุล ได้เดินทางาหารือกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์
เนื่องจาก กรมสอบสวนได้ส่งวัตถุพยานของ โทโมโกะ ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ทำการตรวจพิสูจน์ซ้ำอีกครั้ง โดยใช้วิธีการตรวจหารูปแบบสารพันธุกรรมด้วยน้ำยาใหม่
ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์จากเครือข่ายนิติพันธุศาสตร์แห่งประเทศไทย ร่วมให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวว่า มีความเกี่ยวข้องกับคนเชื้อชาติญี่ปุ่นหรือเกาหลี และเห็นพ้องกันว่าควรแจ้งข้อมูลให้ทางประเทศญี่ปุ่นรับทราบและจะใช้เป็นแนวทางในการสืบสวนต่อไป

ภาพจากอีจัน
จากการเข้าหารือ หัวหน้าตำรวจประจำสถานทูตญี่ปุ่น ได้ขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ นําพยานหลักฐานที่เป็น DNA ซึ่งตรวจพบจากเสื้อผ้าของผู้เสียชีวิต โดยขอให้นําข้อมูลนี้ไปประสานกับทาง INTERPOL เพื่อเปรียบเทียบกับข้อมูลอาชญากร และคณะพนักงานสืบสวนได้ประสานกับหัวหน้านายตำรวจประจำสถานทูตญี่ปุ่น เพื่อดำเนินการตามช่องทางกฎหมายความร่วมมือระหว่างประเทศ ให้ทางการญี่ปุ่นดำเนินการร้องขอต่อศาลในการเชิญตัวผู้ต้องสงสัยชาวญี่ปุ่น ที่พำนักอยู่ในประเทศญี่ปุ่น มาตรวจสารพันธุกรรม

เพื่อนำมาตรวจเปรียบเทียบกับสารพันธุกรรมที่พบที่ขอบกางเกงของนางสาวโทโมโกะ
ทางด้านคณะพนักงานสืบสวน จะทำการสืบสวนเพิ่มเติมว่า ในช่วงเกิดเหตุ นอกจากผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวแล้ว ยังมีชาวเกาหลีหรือชาวญี่ปุ่น เข้ามาเที่ยวในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยอีกหรือไม่

13 ปี คดีโทโมโกะ จะปิดลงเร็วๆนี้หรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไป