
เกิดเหตุปริศนาขึ้น ใน จ.นครราชสีมา หญิงวัย 46 ปี หายตัวไร้ร่องรอยนานถึง 19 วัน
ก่อนจะเกิดเหตุพิศวงตามมา เพื่อนบ้านที่ย้ายไปขาดการติดต่อ แต่โทรมาหาได้ ก่อนจะพูดน้ำเสียงเหมือน อรทัย บอก โดนฆ่า ทิ้งสระแถวบ้าน
หรือนี่จะเป็นอีกหนึ่ง คดีคนหาย สู่คดี ฆาตกรรม ?

ธิดารัตน น้องสาวคนหาย เล่าให้ทีมข่าวอีจันฟังว่า
พี่อรทัย เคยมีสามีเป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์วัย 53 ปี แต่สามีเสียชีวิตลง โดยยกมรดกทั้งหมดให้ พี่อรทัย ตีเป็นเงินทั้งสิ้น 13 ล้านบาท
ต่อมา พี่อรทัย ก็มีสามีใหม่เป็นชาวสวิตเซอร์แลนด์ เช่นเดิม จดทะเบียนสมรสกัน และพากันย้ายกลับมาอยู่บ้านที่ไทย ได้ประมาณ 2 ปีกว่าแล้ว
จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ เกิดขึ้นวันที่ 8 มกราคม 2567
ช่วงหัวค่ำวันที่ 8 ม.ค.67 น้องสาวและพี่น้องนั่งดื่มสังสรรค์กันอยู่หน้าบ้านที่อยู่ติดกับบ้านพี่สาว
ได้ยินเสียงพี่สาวและสามีทะเลาะกันเป็นภาษาอังกฤษอย่างรุนแรง
ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร
ก่อนที่พี่สาวจะเปิดประตูออกมาร้องไห้ที่หน้าบ้านโดยไม่ได้บอกอะไร แล้วกลับเข้าไป
จากนั้นทุกอย่างก็เงียบเป็นปกติ
เช้าวันรุ่งขึ้นวันที่ 9 ม.ค.67
สามีของพี่สาวหอบกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ประมาณ 2 – 3 ใบ ขึ้นรถเก๋งออกจากบ้านไป โดยไม่บอกใคร
และตลอดทั้งวันนั้นก็ไม่มีใครพบพี่สาว แม้พยายามติดต่อและตามหาแต่ก็ไม่พบตัว

จึงโทรศัพท์ไปถามสามีของพี่สาว ตอบเพียงว่าพี่สาวน่าจะไปเล่นไพ่ ส่วนสามีอยู่พัทยามาเยี่ยมเพื่อน
ตอนนั้นน้องสาวและครอบครัวไม่ได้ติดใจอะไร เพราะพี่สาวชอบไปเล่นไพ่เป็นประจำอยู่แล้ว
จนวันที่ 10 ม.ค.67
สามีของพี่สาว เดินทางกลับมาบ้านช่วงค่ำๆ ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่มีใครพบพี่สาว
ที่แปลกคือ พี่สาวไปแต่ตัว เอกสารประจำตัวสำคัญต่างๆ ทั้งบัตรประจำตัวประชาชน เอทีเอ็ม สมุดธนาคาร เสื้อผ้า รองเท้า แม้กระทั่งนาฬิกาเรือนโปรดก็ยังอยู่ที่บ้านทั้งหมด
แต่แล้ว มีคนพบรถจักรยานยนต์ของพี่สาว จอดทิ้งไว้ริมทุ่งนา ห่างจากบ้านประมาณ 2 กิโลเมตร
แต่ไม่มีใครเจอพี่สาว

ครอบครัวจึงพากันไปแจ้งความที่ สถานีตำรวจภูธรครบุรี
หลังจากนั้น ครอบครัวก็ตระเวนตามหาพี่สาว สอบถามไปทุกๆ ที่ทั้งเพื่อนๆ หรือที่ที่พี่สาวเคยไป
แต่ก็ยังไร้วี่แววจนถึงตอนนี้ นับเป็นเวลา 19 วันแล้ว
กล้องวงจรปิดเห็นพิรุธ


นายธนกฤติ ลูกพี่ลูกน้องของคนหาย เปิดกล้องวงจรปิดหน้าบ้านให้ดู
ช่วงกลางดึกวันที่ 8 ต่อเนื่องถึงวันที่ 9 ม.ค.67 ที่ผ่านมา กล้องวงจรปิดหน้าบ้าน จับภาพได้ว่ามีคนใส่เสื้อแขนยาวสวมฮู๊ด และหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้าออกมาจากบ้านพี่อรทัย แล้วขับรถจักรยายนต์ของพี่ออกไป ก่อนที่จะกลับเข้ามาที่บ้าน แต่เดินกลับมา
รถจักรยานยนต์ ของอรทัย หายไปไหน ?
จึงเป็นเรื่องที่น่าผิดปกติ เพราะหลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบตัวพี่อรทัยอีกเลย
พอถามสามีพี่อรทัย ก็บอกเพียงว่านอนหลับอยู่ในบ้าน ไม่ได้ออกไปไหน และตอนนี้ก็ไม่ทราบว่าภรรยาของตัวเองหายไปไหน
นักข่าวอีจัน ได้คุยกับ สามีของ อรทัย ซึ่งเขาก็ยินดีให้ข้อมูล
ผ่านทางลูกสาวของอรทัย ว่า
ก่อนที่ อรทัย จะหายตัวไป ทะเลาะกันค่อนข้างรุนแรง เรื่องจะเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนที่ป่วยเป็นมะเร็งที่พัทยา เพราะความเห็นไม่ตรงกัน
จากนั้นเขาก็เข้าไปนอนในห้อง และไม่เห็นภรรยาอีกเลยจนเช้า
จึงเดินทางไปพัทยาเพียงลำพัง
กลับมาก็ไม่ยังไม่เจอภรรยาจนถึงทุกวันนี้
ตอนนี้คิดถึงและเป็นห่วงภรรยามาก หวังว่าภรรยาจะกลับบ้านโดยเร็ว เพราะเมื่อไม่มีภรรยาแล้วตัวเองก็ไมรู้จะทำยังไงต่อไป เพราะฝากชีวิตเอาไว้ที่นี่แล้ว

เกิดเหตุพิศวง
วันที่ 26 มกราคา 2567
ธิดารัตน์ น้องสาวของ อรทัย เล่าว่า ป้าที่เคยอยู่ใกล้บ้าน แต่ตอนนี้ย้ายไปอยู่ที่กรุงเทพนานมากแล้ว และไม่เคยติดต่อกันเลย ได้โทรศัพท์มาหา บอกว่า ลูกสาวของป้าถูกวิญญาณของ พี่อรทัย เข้าสิง แล้วบอกหมายเลขโทรศัพท์แม่ของ น.ส.อรทัย
เพื่อให้ช่วยติดต่อญาติพี่น้องให้ช่วยกันหาร่างของ พี่อรทัย
ก่อนลูกสาวป้าจะคุย โดยบอกว่าร่างอยู่ภายในสระน้ำใกล้กับจุดที่เจอรถจักรยานยนต์จอดเอาไว้ ให้งมขึ้นมาจากน้ำด้วย
ธิดารัตน์ บอกว่าน้ำเสียงลูกสาวของป้าที่โทรมา เหมือนกับเสียงของ พี่อรทัย มาก
“พี่สาวร้องให้ช่วยเอาร่างขึ้นจากสระน้ำ บอกย้ำๆ และบอกอีกว่า มันเอาพี่ใส่ถุงดำมาทิ้งเอาไว้ ช่วยพี่ด้วย พี่หนาว”
ธิดารัตน์ มั่นใจ 100 % ว่า เสียงที่โทรมาขอความช่วยเหลือนั้น เป็นพี่สาวของตนอย่างแน่นอน
จึงติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัยฮุก 31 ให้ช่วยนำกำลังนักประดาน้ำมางมหาภายในสระน้ำที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุที่พบรถจักรยานยนต์ทันที

ฮุก 31 ช่วยกันงมอยู่ 2 ชั่วโมงจนทั่วพื้นที่ ก็ไม่พบวัตถุพิรุธใดๆ ใต้น้ำตามจุดที่ครอบครัวแจ้ง
แต่ทางครอบครัวของ อรทัย ปักใจเชื่อว่า เสียงที่โทรมาบอกจุด คือ เสียงของอรทัยจริงๆ
จึงเตรียมประสานเจ้าของสระน้ำในละแวกดังกล่าว ขอสูบสระน้ำออกเพื่อตรวจสอบให้แน่ชัดในวันนี้อีกครั้ง



พ.ต.อ.นพดล ช่วยบุญ ผู้กำกับการ สภ.ครบุรี เปิดเผยว่า ตอนนี้ตำรวจได้ดำเนินการติดตามเสาะหาตัวผู้สูญหายอย่างเต็มที่
โดยเชิญตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำไปแล้ว 7 ปาก
รวมถึงสามี ของผู้ที่หายตัวไป และเพื่อนชาวต่างชาติ ที่สามีผู้หายตัวเดินทางไปหาที่พัทยา
พร้อมกับประสานไปยังตำรวจพิสูจน์หลักฐานน เข้าตรวจสอบในบ้านซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่พบตัว อรทัย
พร้อมกับเก็บภาพวงจรปิดหน้าบ้านและบริเวณใกล้เคียงไปตรวจสอบทั้งหมดแล้ว
แต่ก็ยังไม่พบว่า อรทัย ออกจากบ้านหรือหายตัวไปได้อย่างไร
และตอนนี้ก็ยังไม่สามารถที่จะกล่าวหาใครได้
ทำได้เพียงแค่ต้องติดตามหาตัวนางสาวอรทัย มาให้ได้โดยเร็วที่สุดไม่ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม
ตำรวจ บอกว่า สามีชาวต่างชาติ ของ อรทัย ก็แสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการให้ตำรวจเก็บหนังสือเดินทางเอาไว้และพร้อมให้ความร่วมมือในการสอบสวนทุกอย่างด้วย

อรทัย เธอหายไปไหน ?
ทุกคนยังหวังให้เธอยังมีชีวิตอยู่
ขอให้คดีนี้คลี่คลายโดยเร็ว และหวังว่า จะได้เจอ อรทัย แบบปลอดภัยนะคะ