สตม.บุกจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ญี่ปุ่น ตั้งฐานในไทย โทรไปหลอกคนญี่ปุ่น

คนบ้านเดียวกัน ยังทำได้ลงคอ! สตม.บุกจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ญี่ปุ่น ตั้งฐานในไทย โทรไปหลอกคนญี่ปุ่น เสียหาย 5 ล้านต่อวัน

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยากูซ่าญี่ปุ่น เหิมเกริม ฝังฐานทัพที่ไทย โทรไปหลอกผู้สูงอายุ ในญี่ปุ่น คนบ้านเดียวกัน แต่ไม่รอด เจอตำรวจไทย บุกจับคารัง จ.ชลบุรี

คดีนี้ สืบเนื่องจาก ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้รับการประสานงานจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย มีกลุ่มคนร้ายลักลอบตั้งสำนักงานคอลเซ็นเตอร์ ในประเทศไทย เพื่อหลอกลวงชาวญี่ปุ่น มีเป้าหมายเป็นผู้สูงอายุ ในญี่ปุ่น

พฤติกรรม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ญี่ปุ่น จะทำงานตั้งแต่วันจันทร์ – วันเสาร์ โทรไปหลอกผู้สูงอายุในญี่ปุ่น

โดยสายแรกที่โทรไป จะปลอมเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ โทรไปหลอกเหยื่อว่า จะมีการคืนค่ารักษาพยาบาลสะสมหลายล้านเยน และจะให้เหยื่อเตรียมเงินไว้ในบัญชี ตั้งแต่จำนวน 500,000 เยนขึ้นไป

จากนั้นจะหลอกให้เหยื่อ ไปโอนเงินที่หน้าตู้เอทีเอ็ม เข้าบัญชีของคนร้าย เมื่อเหยื่อโอนเงินให้แล้ว หัวหน้าแก๊ง ก็จะสั่งการให้ลูกน้อง ไปถอนเงินออกจากบัญชี พบความเสียหายวันละหลายสิบล้านเยน

หลังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สืบหาตัวแก๊งคอลเซ็นเตอร์ญี่ปุ่น จนพบว่าผู้ก่อเหตุอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี 2 แห่ง

จุดที่ 1 บ้านพูลวิล่าหรู จับกุม นายทากายูกิ (สงวนนามสกุล) และนายฮาจิเมะ (สงวนนามสกุล) ที่มีหน้าที่ควบคุมและสั่งการพนักงานคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจตรวจยึด โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมจำนวน 42 รายการ และพยานหลักฐานที่ยืนยันว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริง คือ ภาพการสนทนากับสมาชิกคอลเซ็นเตอร์ สคริปและข้อมูลของเหยื่อที่ถูกหลอกลวง

จุดที่ 2 บ้านพูลวิลล่า พบคนต่างด้าวสัญชาติญี่ปุ่น 3 ราย คือ นายเคนจิโระ , นายทากาฮิโระ และ นายคัตสึฮิโตะ พักอาศัยอยู่ในบ้าน มีพฤติการณ์เป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์

ตำรวจตรวจยึด โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต กระดานรายชื่อ ข้อมูลของผู้เสียหาย รวมจำนวน 37 รายการ และพบพยานหลักฐานที่ยืนยันว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ คือ ภาพสคริป การสนทนากับเหยื่อ ข้อมูลของเหยื่อที่ถูกหลอกลวง เหมือนกับพักบ้านหลังแรกที่ตำรวจเจอ

จากการสืบสวนพบว่า หัวหน้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เคยเป็นสมาชิกยากูซ่า ในประเทศญี่ปุ่น เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายถูกหลอกลวง รวมมูลค่า 24 ล้านเยนต่อวัน หรือประมาณ 5 ล้านบาทต่อวัน

โดยกลุ่มผู้ต้องหา นำเงินไปฟอกโดยการเปิดธุรกิจ ใช้คนไทยเป็นนอมินีบังหน้า ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขยายผลต่อไป

ส่วนการดำเนินคดี จากพยานหลักฐาน ทำให้ตำรวจเชื่อว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์ญี่ปุ่น 5 ราย เป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม จึงได้เพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทย

และได้นำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อกักตัวไว้รอการดำเนินคดีตามกฎหมาย