ตร. จับ อดีตกู้ภัย ขโมยเครื่อง AED ได้แล้ว สารภาพสิ้น หาเงินซ่อมรถ

รวบ 2 อดีตกู้ภัย ขโมยเครื่อง AED ขายต่อราคาถูก สารภาพสิ้น ขโมยมา 6 เครื่อง ขายตลาดมืด หาเงินซ่อมรถ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งทีมสืบสวนนครบาล ชุดตำรวจ PCT5 ,  และ สืบสวน สน.ใน นครบาล เร่งติดตามเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator, AED) ของ สภากาชาติไทย สูญหายจำนวนมาก ตามสถานที่สำคัญ ที่ติดตั้งไว้เพื่อช่วยผู้ป่วยหรือประชาชน ในกรณีฉุกเฉิน โดยสั่งการ  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ให้ บก.สส.บช.น.เป็นศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการติดตามจับกุมคนร้าย และติดตามเครื่อง AED ให้ได้โดยเร็ว เนื่องจากสร้างความเสียหายให้กับสังคมเป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันนี้ (26 มกราคม 2566) เจ้าหน้าที่ ตำรวจ PCT ชุดที่ 5, บก.สส.บช.น. และ ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว ประกอบด้วย

1.นายรุ่งโรจน์ หรือ เหน่งตาเดียว อายุ 37 ปี ชาวจ.กรุงเทพ โดยกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” จับกุมตัวได้ที่ บ้านพักไม่มีเลขที่ ภายในบริเวณวัดไก่เตี้ย แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน จ.กรุงเทพ

2.นายวีรยุทธ หรือแจ็ค อายุ 32 ปี ชาวจ.กรุงเทพ โดยกล่าวหาว่า “รับของโจร” จับกุมตัวได้ที่ริมถนนในซอยจรัญสนิทวงศ์ 28/7 เขตบางกอกน้อย และได้มีการตรวจยึดของกลาง เครื่อง AED จำนวน 5 เครื่อง และได้ส่งมอบของกลางให้ ศปก. ขยายผลต่อเนื่้อง

สืบเนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันได้มีกลุ่มคนร้าย ตระเวนลักเครื่องกระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (Automated External Defibrillator, AED) ที่ติดไว้อยู่ตามสถานที่สำคัญต่างๆในพื่นที่ กรุงเทพฯ จากข้อมูลเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 66 เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเครื่อง AED ดังกล่าว ได้ตรวจสอบพบว่า เครื่องถูกขโมยไปหลายเครื่อง เป็นที่เดือดร้อนของประชาชนเป็นอย่างมาก ต่อมาชุดสืบสวนได้สืบทราบว่า นายรุ่งโรจน์ หรือเหน่ง อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นอดีตเจ้าหน้าที่กู้ภัยย่านบางกอกน้อย ได้มีการโพสข้อความในโลกออนไลน์ ประกาศขายเครื่อง AED ในราคาที่ต่ำผิดปกติ จึงได้สืบสวนจนทราบที่พักอาศัย และเข้าจับกุมเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 66 โดยนายรุ่งโรจน์ รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ว่า ได้ตระเวนลักเครื่อง AED ตามที่ต่างๆใน จ.กรุงเทพฯ ไปแล้วกว่า 6 เครื่อง แต่ได้จำหน่ายออกไปจนหมด จึงมีการขยายผลจนทราบจุดที่ลักเครื่องทั้ง 6 แห่ง คือ

1.บริเวณป้อมตำรวจแยกวรจักร แขวงวัดเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบ จ.กรุงเทพฯ ก่อเหตุประมาณวันที่ 20 ธ.ค. 65 จำนวน 1 ตัว 

2.บริเวณป้อมตำรวจซอยเจริญกรุง 43 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก จ.กรุงเทพ ประมาณวันที่ 26 ธ.ค. 65 จำนวน 1 ตัว

3.บริเวณป้อมตำรวจ แยกเจริญสวัสดิ์ แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน จ.กรุงเทพ ประมาณวันที่ 3 ม.ค. 66 จำนวน 1 ตัว

4.บริเวณป้อมตำรวจสี่แยกแม้นศรี แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย จ.กรุงเทพ เมื่อประมาณต้นเดือน ม.ค. 66 จำนวน 1 ตัว

5.บริเวณป้อมตำรวจ ถ.พระรามที่ 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก จ.กรุงเทพฯ เมื่อประมาณต้นเดือน ม.ค. 66 จำนวน 1 ตัว

6.บริเวณป้อมตำรวจ ห้าแยกหมอมี ถ.เจริญกรุง แขวงสัมพันธ์วงศ์ เขตสัมพันธ์วงศ์ จ.กรุงเทพ เมื่อประมาณกลางเดือน ม.ค. 66 จำนวน 1 ตัว

โดยทั้ง 6 เครื่องนั้นทราบว่า ถูกนำไปขายให้กับ นายวีรยุทธ หรือแจ้ค อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยย่านบางกอกน้อยเช่นเดียวกัน โดยขายต่อเครื่องละ 12,000 บาท ต่อมา พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามเครื่อง AED จนกระทั่งสามารถติดตามรวบรวมกลับมาได้แล้ว 5 เครื่อง หลังเสร็จสิ้นการขยายผลได้นำตัว นายรุ่งโรจน์ และ นายวีรยุทธ ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก โดยนายรุ่งโรจน์ ถูกกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” ส่วน นายวีรยุทธ ถูกกล่าวหาว่า “รับของโจร” โดยหลังจากนี้จะมีการขยายผลเพื่อติดตามเครื่อง AED และขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ในชั้นจับกุม นายรุ่งโรจน์ ให้การรับสารภาพว่า ตนทำงานเป็นเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยอิสระอยู่ละแวกเขตบางกอกน้อย ซึ่งขณะทำงานกู้ภัยได้พบเห็นเครื่อง AED ติดอยู่ทั่วไป โดยเหตุจูงใจแรกเริ่ม ได้ก่อเหตุเพราะต้องการเงินเพื่อนำไปใช้ซ่อมรถที่จอดเสียอยู่ ซึ่งครั้งแรกได้แอบไปลัก 1 เครื่องย่านวัดเทพศิรินทร์ เมื่อนำไปขายพบว่าราคา 15,000 บาท และเมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งต่อๆไป จึงตระเวนลักเรื่อยมาโดยทั้งหมดยอมรับว่าลักมาแล้ว 6 เครื่อง โดยจะให้นายวีรยุทธ ซึ่งเป็นเพื่อนเจ้าหน้าที่กู้ภัยด้วยกัน ช่วยหาคนซื้อ หากหาได้จะแบ่งให้นายแจ็ค เครื่องละ 3,000 บาท

ขณะที่นายวีรยุทธ ให้การในชั้นจับกุมว่า ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยอิสระ อยู่ย่านเขตบางกอกน้อย และได้รู้จักกับนายรุ่งโรจน์ มาประมาณ 4 ปี ต่อมาประมาณกลางเดือน ธ.ค. 2565 ได้ติดต่อกับนายรุ่งโรจน์ ทางเฟซบุ๊ก โดยตกลงให้ตนขายเครื่อง AED ให้ ตนก็สอบถามนายรุ่งโรจน์ แล้วว่ายืนยันว่า ไม่ได้เป็นของที่ขโมยมา แต่ตนก็ยังสงสัยเพราะราคาที่ซื้อขายนั้นต่ำกว่าราคาจริง เมื่อตนขายได้นายรุ่งโรจน์ จะแบ่งให้ตนเครื่องละ 3,000 บาท โดยขายเครื่อง AED มาแล้ว 6 เครื่อง

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า จากคำให้การของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อว่ามีการขโมยแค่ 6 เครื่อง เนื่องจากยังพบข้อมูลว่ายังมีอีกหลายแห่งในพื้นที่ จ.กรุงเทพ ที่ถูกขโมยไป ซึ่งตอนนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ผมจัดตั้ง ศปก. เพื่อให้รวดเร็วในการจับกุมคนร้ายและติดตามเครื่องที่ถูกลักไปกลับคืนมา เนื่องจากอุปกรณ์ AED ดังกล่าวนี้เป็นเครื่องมือสำคัญที่ไว้ใช้ช่วยเหลือชีวิตของประชาชนทาง ตร.จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

คลิปอีจันแนะนำ
“อรรถพล” ลุยยกเครื่องกรมอุทยาน-กู้ภาพลักษณ์