อนุทิน บุกจับผับเถื่อน Sonic Club Bangkok สั่งปิด 5 ปี

“อนุทิน” ควงอธิบดีปกครอง ทลายผับเถื่อน Sonic Club Bangkok อัพยาเกลื่อนร้าน รวบฉี่สีม่วงถึง 122 คน สั่งปิด 5 ปี

ปัญหายาเสพติดมักมีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ งานนี้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินหน้าจัดระเบียบสังคม ควงอธิบดีปกครอง นำชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ทลาย Sonic Club Bangkok สถานบันเทิงเถื่อน ไม่มีใบอนุญาต เขตลาดพร้าว พบนักเที่ยวมั่วสุมเสพยาเสพติด ทั้งยาอี ยาบ้า ยาเค และแฮปปี้วอเตอร์ เกลื่อนร้าน ตรวจฉี่นักเที่ยวรวมพนักงานร้าน ฉี่สีม่วงถึง 122 คน เตรียมชง สั่งปิด 5 ปี 

วานนี้ (10 ธ.ค.66) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นำเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ส. กทม. พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน 30 นาย และตำรวจ สน.โชคชัย บูรณาการเข้าจับกุมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมาย ไร้ใบอนุญาตสถานบริการ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลา และปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในสถานประกอบการ  

ปฏิบัติการตรวจค้นและจับกุมผับในย่านเลียบด่วน รามอินทรา ครั้งนี้ สืบเนื่องจากการสืบสวนข้อมูลสถานประกอบการและสถานบันเทิงผิดกฎหมายทั่วทั้งกรุงเทพ และต่างจังหวัด ตามนโยบายการจัดระเบียบสังคม ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งปฏิบัติการในครั้งนี้ อาศัยช่วงวันหยุดยาว แสกนเป้าหมายเพื่อจัดระเบียบสถานบันเทิง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ปลอดจากยาเสพติด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบว่า สถานประกอบการ Sonic Club Bangkok มีการปล่อยให้ใช้ยาเสพติดและมีการจำหน่ายยาเสพติดภายในร้าน เปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด 

สายลับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมปกครองเข้าสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดอีกครั้ง ในคืนวันที่ 9 ธ.ค. 66 ต่อเนื่องคืนวันที่ 10 ธ.ค. 66 เมื่อพบว่าสถานประกอบการ Sonic Club Bangkok มีการกระทำผิดจริง จึงได้แจ้งไปยังชุดจับกุม ในเวลา 02.05 น. วันที่ 10 ธ.ค. 66 จึงเปิดปฏิบัติการจู่โจมจับกุมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายทันที เมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับ  

ซึ่งพบผู้ที่คาดว่าเป็นเอเย่นต์ยาเสพติดได้วิ่งออกมาจากร้าน พยายามพุ่งชนเจ้าหน้าที่ จนเกิดการต่อสู้และจับกุมได้จำนวน 3 คน พบในตัวยาเสพติดหลายชนิด คาดว่านำไว้จำหน่าย ส่วนภายในร้านนักเที่ยวจำนวนกว่า 200 คน ซึ่งกำลังเมามันส์ต่างแตกฮือ โยนยาเสพติดทิ้งลงพื้นเกลื่อน และพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้าน แต่ชุดจับกุมได้ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ ด้านพนักงานฝ่ายปกครองได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ

จากการเข้าตรวจสอบ “Sonic Club Bangkok” พบว่าเป็นสถานประกอบการที่เปิดทำการค้าให้ลักษณะสถานบริการ มีการค้าขายอาหาร เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการแสดงดนตรี และให้นักเที่ยว ดื่มกิน เต้นรำ อย่างสนุกสนาน แต่จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีใบอนุญาตให้ตั้งสถานบริการแต่อย่างใด ที่สำคัญสถานบริการแห่งนี้มีการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในร้าน ซึ่งตรวจสอบพบยาเสพติดตกกระจายเกลื่อนพื้น หลายชนิด ทั้งยาอี ยาเค ยาบ้า และยาแฮปปี้วอเตอร์ ซึ่งเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดในสถานบันเทิง โดยพบนักเที่ยวจำนวน 214 คน พบผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 1 คน พบนักเที่ยวไม่พกบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 7 คน  

จากนั้นเจ้าพนักงาน ปปส. ได้นำตัวนักเที่ยวทั้งหมดตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นพบมีนักเที่ยวปัสสาวะสีม่วง จำนวน 122 คน แยกเป็นชาย 76 คน เป็นหญิง 46 คน ซึ่งหากผู้เสพที่สมัครใจเข้ารับการบำบัด ก็จะให้เข้าสู่กระบวนการบำบัดฟื้นฟู หากไม่ยอมเข้ารับการบำบัดก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป 

พนักงานฝ่ายปกครอง จึงได้จับกุมตัวเจ้าของร้าน ผู้ดูแล และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร้องทุกข์กล่าวโทษในฐานความผิด ดังนี้ 

1. เปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 

2. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ 

3. ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเวลาห้ามขาย 

และมีการปล่อยปละละเลยให้มีการใช้สารเสพติดภายในบริเวณสถานประกอบการ ซึ่งเป็นเหตุผลประกอบการทำคำสั่งปิดสถานประกอบการเป็นเวลา 5 ปี 

นายอนุทิน เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายในการจัดระเบียบสังคม เพื่อให้ประชาชนได้อยู่ในสังคมที่ความสงบสุขปลอดภัย การแสกนตรวจสอบสถานบริการ เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายจัดระเบียบสังคม เพื่อให้ผู้ประกอบการสถานบริการ ดำเนินกิจการอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ให้สถานบริการเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ปลอดจากยาเสพติด  

การจู่โจมตรวจค้นในวันนี้พบว่าสถานบันเทิง “Sonic Club Bangkok” กระทำการท้าทายกฎหมาย ทั้งการเปิดโดยไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ ขายเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์เกินเวลา ปล่อยปละละเลย ให้มีการนำยาเสพติดเข้ามากระจายและเสพภายในร้าน รวมทั้งเปิดถึงเกือบถึงรุ่งเช้า ถือว่าเป็นการจงใจฝ่าฝืนกฎหมายอย่างชัดแจ้ง  

จากนี้ จะให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ออกคำสั่งคำสั่งปิดสถานที่แห่งนี้ มีกำหนด 5 ปี ตามคำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 22/2558 ต่อไป และขอเน้นย้ำว่า กระทรวงมหาดไทยมีนโยบายในการจัดระเบียบสังคม การปราบปรามผู้มีอิทธิพล การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ การปราบปรามยาเสพติด การปราบปรามอาวุธปืนผิดกฎหมาย  

การปราบปรามบ่อนการพนัน และสถานบริการสถานบันเทิงผิดกฎหมาย ดังนั้นจึงขอให้พี่น้องประชาชนมีความเชื่อมั่นว่า กระทรวงมหาดไทย จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุข บ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดอบายมุข ปลอดยาเสพติด ประชาชน มีความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน