สืบ บก.น.1 จับ 2 สาวแก๊งลำเลียงยาเสพติดรายใหญ่ ลักลอบจำหน่ายลูกค้า กทม.พร้อมยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด,ไอซ์ 93 กก. หลบหนีอีก 2 ราย
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 7 เม.ย. พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 พ.ต.ท.อติชาต แย้มผกา , พ.ต.ท.มนูญ กู้เมือง พ.ต.ท.ณัชฐปกรณ์ หัดคำ รอง ผกก.สส.บก.น.1 พร้อมชุดสืบสวน บก.น.1
ร่วมจับกุม น.ส.ชนิดา หรือนุ่น อายุ 24 ปี ชาว จ.นครปฐม และน.ส.เบญจรัตน์ หรือแป้ง อายุ 22 ปี ชาว จ.นครปฐม ข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน ยาไอซ์และยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่ายและเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยไม่ได้รับอนุญาต –พร้อมของกลางยาไอซ์น้ำหนัก 93 กก. ยาบ้า 1,014,000 เม็ด และรถกระบะสีขาว ทะเบียนนครปฐม โดยจับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.บางเลน จ.นครปฐม
พล.ต.ต.สำเริง กล่าวว่า ชุดจับกุมได้เบาะแสว่า นายอนาวิล หรือแบ็งค์ อายุ 24 ปี และนายนภดลหรือโชค อายุ 20 ปี มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติดรายใหญ่ เมื่อลูกค้าสั่งซื้อยาเสพติด ทั้งคู่ใช้รถกระบะคันดังกล่าว ขนยาเสพติดไปส่ง และเก็บยาเสพติดไว้ที่บ้านพัก
ชุดสืบสวนจึงแบ่งกำลังเป็น 2 ชุด ปิดล้อมบ้าน และสะกดรอยตาม กระทั่งวันที่ 7 เม.ย. นายนภดล ขับรถกระบะออกจากบ้านที่ซุกซ่อนยาเสพติด ไปวางไว้ที่ริมถนนเลียบคลองสงวนโภคัย ต.ลำพญา อ.บางเลน จ.นครปฐม จากนั้นกลับเข้าบ้าน จากการตรวจค้นพบยาบ้าและยาไอซ์บรรจุอยู่ในถุงจำนวน 2 ใบ น้ำหนักรวม 45 กก. ชุดสืบสวนจู่โจมบุกเข้าตรวจค้นบ้าน จับกุมน.ส.ชนิดา ภรรยาของนายอนาวิล และน.ส.เบญจรัตน์ภรรยาของนายนภดล ส่วนนายอนาวิลและนายนภดลไหวตัวทันหลบหนีไปได้ จากการตรวจค้นพบยาเสพติดเพิ่มเติม พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานฐานเพื่อขอศาลออกหมายจับและตามจับกุมได้
พ.ต.อ.วิชัย กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า ผู้ต้องหาร่วมกันกับแฟนในการเอายามาพักไว้ จากนั้นจะมีผู้สั่งการให้นำยาไปไว้ตามจุด ซึ่งจากแนวทางการสืบสวน ทราบว่า ยาเสพติดจำนวนนี้จะถูกนำไปจำหน่ายให้กับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล
พล.ต.ต.สำเริง ฝากเตือนผู้ที่คิดจะมาจำหน่ายยาเสพติดว่า ปัญหาดังกล่าวถือเป็นปัญหาระดับประเทศ ทางป.ป.ส. ในฐานะที่เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงได้มีการวางยุทธศาสตร์ไว้ จะมีด้วยกัน 2 มิติคือในเรื่องของการปราบปราม คือติดตามขยายผลจับกุมและตามยึดทรัพย์ตาม พรบ.ฟอกเงินทุกข้อหาสำหรับผู้ค้า ทั้งรายย่อยและรายใหญ่ และอีกมิติคือ การป้องกันเรื่องรักษาผู้เสพคือผู้ป่วย ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้เริ่ม Kick Off ไปบางพื้นที่ เรื่องชุมชนยั่งยืน นำผู้เสพผู้ติดยาไปเข้าสู่กระบวนการบำบัด ตามยุทธศาสตร์แห่งชาติ ซึ่งต้องช่วยกันรักษาผู้เสพเพื่อให้กลับมามีชีวิตในสังคม ถึงอยากฝากผู้ที่คิดจะจำหน่ายว่าหากถูกจับ จะมีการขยายผลถึงผู้ที่เกี่ยวข้องและสนับสนุนและตามยึดทรัพย์ และผู้ที่ยังกระทำผิดอยู่ขอให้เลิก เพราะเงินจากการขายยาเสพติดที่ได้มาจะถูกตามยึดทรัพย์ทั้งหมด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่ง บช.ปส.เพื่อขยายผลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป