วันที่ 24 พฤษภาคม 2565 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.,พล.ต.ต.อนันต์ นานาสมบัติ ผบก.ปคบ., กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ โดย นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมการปฏิบัติงาน กรณีจับกุมผู้ต้องหาสวมรอยเป็นหมอรับจ้างทำงานในคลินิก
โดยจับกุมตัว น.ส.ณัฐชานันท์ อายุ 30 ปี โดยกล่าวหาว่า “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต, ใช้คำแสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรมสาขาต่างๆ ,ฉ้อโกง โดยการแสดงตนเป็นบุคคลอื่น
สืบเนื่องจากเมื่อก่อนหน้านี้ น.ส.ณัฐชานันท์ มีพฤติกรรมหลอกลวง โดยเปิดคลินิก ย่านบางนา และประกาศรับสมัครแพทย์เพื่อมาทำงานที่คลินิก โดยแพทย์หญิงเอ (นามสมมุติ) ได้ยื่นเอกสารสำคัญทางออนไลน์เพื่อสมัครงาน ภายหลังผู้ต้องหานำเอกสารใบประกอบวิชาชีพแพทย์ ของแพทย์หญิงเอ มาสวมรอยเข้าไปทำงานในคลินิกจำนวนหลายแห่ง โดยแพทย์หญิงเอ ภายหลังได้ทราบเรื่องจากคลินิกต่างๆ ที่น.ส.ณัฐชานันท์ ไปทำงาน ทำให้ได้รับความเสียหาย ผู้เสียหายจึงได้มาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดี กับ น.ส.ณัฐชานันท์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยจากการตรวจสอบประวัติคดี ของ น.ส.ณัฐชานันท์ พบว่า ตั้งแต่ปี 2556 ถึง ปัจจุบัน ถูกดำเนินดคี 13 คดี ต่างท้องที่กัน โดยส่วนใหญ่เป็นคดี ในการหลอกลวงเอกเอกสารของผู้อื่นไปสวมรอยทำธุรกรรม หรือนำเอกสารของแพทย์ที่หลอกลวงมาได้ไปสวมรอยเป็นแพทย์เข้าทำงานในคลินิกต่างๆ โดยนางสาวณัฐชานันท์ ต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาศาล ตั้งแต่ ธันวาคม 2559 ถึง เดือน สิงหาคม 2564 เมื่อผู้ต้องหาได้รับการปล่อยตัว ก็ได้ก่อเหตุในลักษณะเดิมอีก จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดี
โดยนางสาวณัฐชานันท์ ได้ยื่นประกันตัวต่อศาล ในระหว่างปล่อยตัวชั่วคราวนั้น นางสาวณัฐชานันท์ ยังไม่สำนึกในการกระทำ ยังหวนกลับมากระทำความผิดซ้ำซากเช่มเดิมอีก โดยต่อมาประมาณ เดือน มกราคม 2565 ได้ไปสวมรอยเป็นแพทย์ท่านหนึ่งไปทำงานที่คลินิกแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
ภายหลังทราบว่าเป็นหมอปลอม จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน โดยพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานขอออกหมายจับผู้ต้องหา ตามหมายจับดังกล่าวข้างต้น ต่อมาเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ.ได้ออกสืบสวนติดตามจับกุม โดยสืบทราบว่าได้หลบหนีไปพักอาศัยย่านจรัญสนิทวงศ์ จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบบริเวณพื้นที่ดังกล่าว พบ น.ส.ณัฐชานันท์ อยู่ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางกอกน้อย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าได้กระทำความผิดจริง และกระทำความผิดในลักษณะเดิม ด้วยการเปิดและประกาศหาแพทย์ทำงานในคลินิกเสริมความงามทางออนไลน์ เพื่อหลอกลวงเอาเอกสารสมัครงาน
จากนั้นจะนำเอกสารสวมรอยเป็นแพทย์ ปลอมเอกสารโดยใช้วิธีการตัดต่อตกแต่งภาพ มาอ้าง และจะใช้บัญชีญาติมาเพื่อรับโอนเงิน โดยอ้างว่าไม่สะดวกใช้บัญชีของตนเองในการรับโอนเงิน โดยเมื่อทำงานไปสักพักจะย้ายคลินิกทำงานไปเรื่อยๆ เพื่อไม่ให้ถูกจับพิรุธได้ โดย น.ส.ณัฐชานันท์ อ้างว่าต้องใช้เงินเพื่อจะนำไปประกอบธุรกิจคลินิกเสริมความงาม จึงต้องมากระทำความผิดในลักษณะนี้อีก
พลตำรวจตรีอนันต์ นานาสมบัติ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชน ควรศึกษาข้อมูลคลินิก แพทย์และขั้นตอนการรักษาให้ดี ก่อนที่จะเข้ารับบริการเสริมความงาม และแจ้งเตือนไปยังผู้ที่ลักลอบกระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่สวมรอยเป็นหมอ, หมอเถื่อน หรือคลินิกเถื่อน ให้หยุดพฤติการณ์ดังกล่าวทันที หากตรวจพบจะดำเนินคดีโดยเด็ดขาด ประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ สายด่วน บก.ปคบ.1 135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค