ทลายเครือข่ายแก๊ง “มังกรเจียงซี” ตระเวนตุ๋นหลอกขาย “ทองเก๊”

สืบนครบาลทลายเครือข่ายแก๊ง “มังกรเจียงซี” ศิษย์เก่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตระเวนตุ๋นหลอกขายทองเก๊ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท

วานนี้ (24  เม.ย. 66) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. สืบสวนติดตามเครือข่ายแก๊ง “มังกรเจียงซี” เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพชาวจีนได้เข้ามาสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยสามารถจับกุมผู้

ต้องหาชาวจีนได้ 6 ราย ดังนี้

1. Mr.Zhong อายุ 44 ปี ชาวจีน ผู้ต้องหาที่ 1

2. Mr.Li อายุ 45 ปี ชาวจีน  ผู้ต้องหาที่ 2

3. Mr.Zeng อายุ 54 ปี ชาวจีน  ผู้ต้องหาที่ 3

4. Mr.Yang อายุ 51 ปี ชาวจีน  ผู้ต้องหาที่ 4

5. Mr.Zhu อายุ 48 ปี ชาวจีน  ผู้ต้องหาที่ 5

6. Mr.Guo อายุ 49 ปี ชาวจีน  ผู้ต้องหาที่ 6

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันพยายามลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย และซ่องโจร” ซึ่งจับกุมตัวได้ที่ หน้าสถานีรถไฟหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พร้อมกับตรวจยึดของกลางได้ 7 รายการ ดังนี้

1. ทองคำ (ปลอม) ลักษณะเป็นก้อน จำนวน 179 ชิ้น

2. ทองคำ (ปลอม) ลักษณะเป็นรูปปั้นเทวรูป จำนวน 10 ชิ้น

3. ทองคำ (แท้) ลักษณะเป็นแผ่นบาง 2×1 ซม. จำนวน 8 ชิ้น

4. สมุดสมาคมคนจีนในประเทศไทย 46 เล่ม

5. บัตร ATM จำนวน 24 ใบ

6. โทรศัพท์มือถือ จำนวน 12 เครื่อง

7. อุปกรณ์เลื่อยตัดทอง จำนวน 1 ชุด

สืบเนื่องมากจาก ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของ บก.สส.บช.น. ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายชาวจีน สัญชาติไทย รายหนึ่ง ซึ่งได้ถูกกลุ่มมิจฉาชีพซึ่งเป็นชาวจีน “นักต้มตุ๋น” หลอกขายทองคำ ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพทำทีว่ามีทองคำแท้จำนวนมาก ขุดเจอที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นำมาขายให้กับผู้เสียหายในราคาถูก ซึ่งผู้เสียหายรายนี้หลงเชื่อและเสียเงินให้กับกลุ่มมิจฉาชีพรายนี้ไปกว่า 500,000 บาท หลังจากให้เงินแล้วกลุ่มมิจฉาชีพก็ได้หายเข้ากลีบเมฆ ไม่สามารถติดต่อได้อีก
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เผยว่า ได้ตระเวน “เปิดแฟ้มคดี” ที่กลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้เคยตระเวนหลอกลวงเหล่าผู้เสียหาย พบว่าลักษณะการก่อเหตุมีความแยบยลอย่างมืออาชีพ และมีลักษณะการทำงานเรียกได้ว่าเป็นระดับ “องค์กร”

ซึ่งเริ่มต้นจากกลุ่มคนร้ายจะหาลายแทงของเหยื่อโดยการ “กางโพย” ซึ่งคือสมุดรายชื่อตระกูลคนจีนในประเทศไทย ตั้งแต่เจ้าสัวตระกูลดัง จากนั้นจะไล่สืบประวัติและติดตามบุคคลเหล่านั้นกระทั่งได้ข้อมูลเบื้องต้น จากนั้นจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการต้มตุ๋นด้วยการโทรศัพท์ไปพูดคุย โดยอ้างข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากการไล่สืบประวัติมาจึงทำให้เหยื่อ “ติดกับดัก” หลงเชื่อใจกลุ่มมิจฉาชีพ
ต่อมาก็จะเข้าสู่กระบวนการ “นัดพบ” ซึ่งเมื่อสามารถนัดพบกับเหยื่อได้แล้วจะมีการใช้จิตวิทยาด้วย “การแสดง” โดยกลุ่มมิจฉาชีพจะนำทองคำ (ปลอม) ซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนจำนวนมากมาโชว์ให้เหยื่อดูและแสร้งนำเลื่อยมาหั่นให้เป็นชิ้นเล็กเพื่อนำให้เหยื่อเอาไปตรวจสอบ ซึ่งแท้จริงมีเพียงชิ้นเล็กเท่านั้นที่เป็นทองแท้ ซึ่งเมื่อเหยื่อนำทองชิ้นเล็กเหล่านั้นไปตรวจสอบกับร้านทอง ก็จะพบว่าเป็นทองคำแท้ ทำให้หลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพอย่างสนิทใจ ซึ่งเมื่อเหยื่อยอมนำเงินมอบให้กับกลุ่มมิจฉาชีพแล้วก็จะหายเข้ากลีบเมฆทันที

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น. ลงพื้นที่สืบสวนด้วยวิธีการ “ดักหน้า” โดยได้พบกับเหยื่ออีกรายหนึ่งซึ่งกำลังจะถูกกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้หลอกลวง ได้นำกำลังเข้าไปวางแผนและเปิดปฏิบัติการซ้อนแผน “ขอดเกล็ด” โดยจัดฉากทำทีให้เหยื่อหลงเชื่อและนัดพบกับกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย ตรวจยึดของกลาง “ทองเก๊” ได้เกือบ 200 ก้อน น้ำหนักรวมประมาณ 30 กิโลกรัม หลังตระเวนเดินสายหลอกขายคนไทยเชื้อสายจีนย่านเยาวราช มีผู้เสียหายหลายรายรวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท โดยตั้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันพยายามลักทรัพย์โดยใช้กลอุบาย และซ่องโจร”

ซึ่งในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 6 รายให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “กลุ่มตนนั้นมาจากเมือง Jiangxi ประเทศจีน เคยทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ประเทศอินโดนิเซีย ก่อนที่จะมาตระเวนหลอกลวงในประเทศไทย โดยยอมรับอีกว่าการสั่งซื้อทองปลอมนั้นนำเข้ามาจากเมือง Jiangxi ประเทศจีน โดยสั่งมาทางพัสดุเข้ามาในประเทศไทย โดยยอมรับว่ากลุ่มของตนชื่นชอบการต้มตุ๋นซึ่งได้แรงบรรดาลใจจากซีรีย์ดังในต่างประเทศส่วนเรื่องทางคดีนั้นขอต่อสู้คดีในชั้นศาล”

ทั้งนี้ หลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 6 คนพร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน ส.รฟ.นพวงศ์ ดำเนินคดีตามกฏหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ยังกล่าวอีกว่า “คนร้ายกลุ่มนี้ถือเป็นแก๊งต้มตุ๋นมืออาชีพซึ่งมีแรงบรรดาลใจที่จะเป็นนักต้มตุ๋นเป็นทุนเดิม และยังมีพื้นฐานการหลอกลวงมาจากประสบการณ์ที่เคยทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้กรรมวิธีในการหลอกลวงนั้นแยบยลและยังมีการวางแผนที่จะหลอกลวงอย่างเป็นระบบ ถือเป็นภัยสังคมที่น่ากลัวอย่างยิ่ง ซึ่งจากการขยายผลเชื่อว่ายังมีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆที่ยังอยู่ในประเทศไทยซึ่งเราจะมีการขยายผลจนถึงที่สุด และขอแจ้งเตือนไปยังประชาชนที่มีชื่ออยู่ในสมาคมคนจีนในประเทศไทย ให้ระวังกลุ่มมิจฉาชีพประเภทนี้ ซึ่งจากข้อมูลทางการสืบสวนมิจฉาชีพกลุ่มนี้มักให้เหยื่อผู้เสียหายเดินทางไปพบเพียงคนเดียว หากเหยื่อรายใดไหวตัวทันก่อนอาจร้ายแรงถึงขั้นถูกจับตัวไปเรียกค่าไถ่ และขอฝากถึงห้างร้านทองต่างๆ กรณีที่มีคนนำแผ่นเศษทองมาให้ทางร้านตรวจสอบนั้นผู้ที่นำมาตรวจสอบอาจเป็นผู้เสียหายที่กำลังตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ฉะนั้นแล้วหากพบให้รีบแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ หรือสามารถแจ้งมาทางช่องทางเฟสบุ๊คเพจ สืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ  พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”

คลิปอีจันแนะนำ
ฟังชัดๆ ธรณีกรรแสง ดังกลางดึก