รวบเจ้าของแฟรนไชส์ “ย่างให้” ตุ๋นเหยื่อลงทุนทิพย์ สูญเงินกว่า 5 ล้าน

รอง ผบ.ตร.แถลงจับกุมเจ้าของแฟรนไชส์ “ย่างให้” สร้างความน่าเชื่อถือธุรกิจปิ้งย่าง หลอกเหยื่อร่วมลงทุนหลายราย เสียหายรวม 5.5 ล้านบาท

จากกรณี เมื่อวันที่ (29 มี.ค. 66) มีกลุ่มผู้เสียหาย จำนวน 20 คน รวมตัวกันเข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เนื่องจากถูก นายมณฑล เจ้าของแฟรนไชส์ธุรกิจอาหารปิ้งย่าง ชื่อ “ย่างให้” มีพฤติการณ์ชักชวนให้ร่วมลงทุนในธุรกิจโดยการันตีผลตอบแทน และใช้วิธีการสร้างความน่าเชื่อถือจากออกรายการโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ต่างๆ พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าธุรกิจของตนประสบความสำเร็จ เปิดสาขากว่า 400 สาขาทั่วประเทศ

อีกทั้ง มีการนำภาพศิลปิน นักแสดง มาโพสต์ในเพจเฟซบุ๊กเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อและนำเงินมาร่วมลงทุนธุรกิจกับผู้ต้องหา ภายหลังผู้เสียหายไม่ได้รับเงินปันผลและผลกำไรตอบแทนตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 5,530,000 บาท

โดยความคืบหน้าล่าสุด พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. สั่งการให้พนักงานสอบสวน บก.ปอศ. รับคำร้องทุกข์และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับผู้ต้องหาต่อศาลอาญา ต่อมา ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาข้างต้น ตามหมายจับที่ 1122/2566 ลงวันที่ 10 เม.ย.66 ในความผิดฐาน

“ฉ้อโกงประชาชน,กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

ต่อมาวันที่ 16 เม.ย.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่า นายมณฑล ผู้ต้องหาตามหมายจับได้หลบหนีและซ่อนตัวอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ถนนพิชัยรณรงค์สงคราม ต.ปากเพรียว อ.เมืองสระบุรี จ.สระบุรี จึงได้ขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดสระบุรี ตามหมายค้นที่ ค.91/2566 ลงวันที่ 16 เม.ย.66 เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบ นายมณฑล ผู้ต้องหา พักอาศัยอยู่ภายในบ้าน จึงได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหานำส่งพนักงานสอบสวน บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังกล่าวว่า หลังจากที่กลุ่มผู้เสียหายได้รวมตัวกันมาเข้าพบที่สโมสรตำรวจแล้วนั้น ได้สั่งการให้ บก.ปอศ. ดำเนินการรับคำร้องทุกข์และสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานในคดี จนสามารถออกหมายจับผู้ต้องหาดังกล่าวได้ ซึ่งผู้ต้องหามีพฤติการณ์ในการหลอกให้กลุ่มผู้เสียหายลงทุนโดยใช้วิธีการอ้างว่าจะแบ่งผลประโยชน์ให้ในอัตราสูง และสร้างความน่าเชื่อถือโดยการออกรายการต่างๆ และใช้บุคคลมีชื่อเสียงมาทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ หลังจากจับกุมผู้ต้องหาได้ จะได้ตรวจสอบทรัพย์สินและดำเนินการยึดอายัดทรัพย์ของผู้ต้องหา เพื่อนำกลับมาช่วยเหลือเยียวยาคืนให้กับผู้เสียหายให้ได้มากที่สุดโดยเร็ว

คลิปแนะนำอีจัน
ตร.ยัน จีจี้-ลูกชายนายทหาร ถูกยิงศีรษะ