จากกรณีเหตุการณ์สยอง แรงงานพม่าถูกฆ่าหั่นศพแช่ตู้เย็น เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (22 ม.ค. 67) พ.ต.ท.จักรี ดิษใจ สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม เจ้าของคดีเปิดเผยว่า วันนี้ได้นัดพยานแวดล้อม เป็นพนักงานในบริษัทจัดหางานของ นายซันดาราเวล นายหน้าชาวอินเดีย ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ เพื่อมาสอบหาข้อมูลข้อเท็จจริง ถึงการนำแรงงานต่างชาติชาวเมียนมาเข้ามาทำงานในเมืองไทย รวมทั้งนำพยานที่เห็นเหตุการณ์ตอนคนร้ายมากับเพื่อนอีก 1 คน ขับรถเข้ามาช่วงเวลา 15.00 น. เมื่อวันที่ 19 ม.ค. มาให้ปากคำ
โดย น.ส.วลัยลักษณ์ 44 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์ระบุว่า พบเห็นชายชาวอินเดียนำแรงงานพม่าเข้ามาเช่าบ้านหลังดังกล่าว ต่อมาวันที่ 19 ม.ค.เวลาประมาณ 15.00 น. ชายชาวอินเดียใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ เป็นคนขับรถยนต์ยี่ห้อเอ็มจี สีแดง ทะเบียน กรุงเทพมหานคร พยายามถอยรถเข้าบ้านแต่ปรากฏว่าข้างรถฝั่งซ้ายได้ขูดกับประตูเป็นแผลยาวเสียงดังตนจึงออกไปดู เห็นว่า ชายคนดังกล่าวมีท่าทีโมโห
จากนั้นเวลาประมาณ 18.00 น. ทั้ง 2 ได้ขับรถออกไป ก่อนที่เวลา 19.00 น.ชายชาวอินเดียทั้ง 2 คน ได้ขับรถนำรถกระบะบรรทุกตู้เย็นกลับเข้ามาที่บ้านหลังดังกล่าว ก่อนที่จะขับรถออกไป เวลา 21.00 น. โดยตนได้ยินเสียงแอร์ทำงานที่ชั้นบนของบ้าน ทำให้เข้าใจว่ายังมีคนอยู่ที่ชั้นบน
อีกทั้งวันนี้ (22 ม.ค. 67) ชุดสืบสวน สน.ท่าข้าม ได้เชิญล่ามชาวพม่าซึ่งเป็นญาติของกลุ่มแรงงานชาวเมียนมา มาให้ปากคำเพิ่มเติม โดยระบุว่า กลุ่มผู้ตายเป็นชาวเมียนมา ขอมาทำงานที่ประเทศไทยเนื่องจากสถานการณ์การเมืองไม่สงบ จึงติดต่อมาพร้อมกับเพื่อนอีก 5 คน (รวมผู้ตายเป็น 6 คน)
โดยกลุ่มของผู้ตายเดินทางมาถึงชายแดนในวันที่ 11 ม.ค. จากนั้น นายหน้าชาวอินเดีย รายนี้ ก็เดินทางเข้าไปรับในวันที่ 12 ม.ค. ก่อนจะพาเดินทางมาถึงที่พักภายในซอยสะแกงาม ในวันที่ 14 ม.ค.
ซึ่งนายหน้าชาวอินเดียรายนี้ ได้คิดค่าหัวในการหางานให้กับกลุ่มของผู้ตายตกหัวละ 7,000 บาท โดยยังไม่รู้ว่าจะไปทำงานอะไร และขังทั้ง 6 คน อยู่ห้องภายในห้องที่เป็นจุดพบศพ
ด้าน พ.ต.อ.เลิศศักดิ์ เขียมทรัพย์ ผกก.สน.ท่าข้าม เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่แน่ใจเรื่องแรงจูงใจการก่อเหตุ ไม่ทราบมีปากเสียงกันมาก่อนหน้าหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเรื่องชู้สาว เบื้องต้นทราบว่า ตัวของนายซันดาราเวล นายหน้าชาวอินเดีย ขออนุญาตเข้ามาแบบถูกต้อง เข้ามาอยู่ในไทยหลายปีแล้ว เบื้องต้นมีการจดทะเบียนในรูปแบบบริษัท กับกรมธุรกิจการค้า เป็นเรื่องของการค้า แต่ประเด็นอื่นต้องรอสืบสวนว่าทำธุรกิจอะไรบ้าง เพราะนายหน้าคนดังกล่าวมาอยู่ในไทยหลายปีแล้ว ส่วนตัวของแรงงานอาจเข้ามาแบบผิดกฎหมาย
โดยวันนี้ได้ประสานกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในการประสานกับทางสถานทูตเมียนมา เพื่อนำศพนายอา เซ ไค ผู้เสียชีวิต กลับไปยังประเทศเมียนมา ทั้งนี้ นายอา เซ ไค ยังไม่ได้จดทะเบียนแรงงานต่างด้าวตามกฎหมายแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ส่วนพยานจากการสอบปากคำให้การเป็นประโยชน์ น่าจะเพียงพอในการออกหมายจับได้ ซึ่งขอดูรายละเอียดของพยานหลักฐานต่างๆ ให้ครบถ้วนก่อน หากพร้อมจะออกหมายจับต่อไป