โหดเหี้ยม! ‘ไอ้พวย น้ำผุด’ ชวนเพื่อนดักซุ่มยิง 2 สามี ภรรยา
ก่อนจุดไฟเผาร่าง ตำรวจตามจับได้ภายใน 3 ชั่วโมง ผู้ต้องยิ้มร่า เล่าเหตุ ไม่มีท่าทีสลด
เรื่องราวสุดสะเทือนใจนี้ เกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 15 มกราคม 67
ตำรวจ สภ.เมืองตรัง รับแจ้งเหตุ พบ สามี ภรรยา ถูกฆาตกรรม บนภูเขาบ้านหินงอม ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุต้องเดินเท้าขึ้นไปบนภูเขาสูงชัน ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร
พบร่างของนายนิติกร อายุ 39 ปี ร่างถูกเผาไหม้เกรียม คารถจักรยานยนต์ และ มีกระสอบยางทับบนร่าง ชันสูตรพลิกศพพบว่านายนิติกร ถูกยิงเข้าที่บริเวณไหล่ขวา ด้วยอาวุธปืนลูกซอง จำนวน 1 นัด
ถัดออกไปประมาณ 5 เมตร พบศพของภรรยา คือ น.ส.ชนัญธิตา อายุ 40 ปี สภาพนอนตะแคงซ้าย ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองที่บริเวณลำคอ จำนวน 1 นัด
ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบ หมอนรองกระสุนปืนตกอยู่ 1 ชิ้น และเศษหัวกระสุนลูกปรายตกอยู่อีกจำนวนหนึ่ง และห่างจากจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางลงจากภูเขายังพบเหล็กคันเบรกเท้ารถจักรยานยนต์หักตกอยู่ในพงหญ้า จำนวน 1 ชิ้น ซึ่งคาดว่าเป็นของรถผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ตำรวจ สามารถรวบมือฆ่าได้ภายใน 3 ชั่วโมง !
ตำรวจ รวบนายการิน หรือ เดียว น้ำผุด อายุ 24 ปี และนายสิทธิกร หรือ พวย น้ำผุด อายุ 33 ปี โดยทั้งคู่รับสารภาพว่า เป็นคนลงมือก่อเหตุสลดนี้จริงๆ
นายสิทธิกร หรือ พวย ให้การอ้างว่า รู้จักกับผู้ตาย เนื่องจากมีสวนอยู่ใกล้กัน ปมการสังหารโหด เกิดจากการที่ก่อนหน้านี้ตนได้ไปฟันต้นปาล์มในสวนของนายนิติกร จนทำให้นายนิติกร ไม่พอใจมาด่าและต่อว่า จนเกิดการทะเลาะวิวาทกัน ประกอบกับมีปัญหาระหองระแหงกันมาตลอด
โดยก่อนก่อเหตุ นายสิทธิกร กรีดยางพาราอยู่ในสวน เห็นว่านายนิติกรก็กรีดยางพาราอยู่ เมื่อรู้ว่านายนิติกรกรีดยางเสร็จแล้ว และจะขับรถกลับทางนี้ จึงขึ้นไปนั่งซุ่มบนต้นไม้ใหญ่ เมื่อนายนิติกรขับรถมาถึง นายสิทธิกร จึงใช้อาวุธปืนลูกซองยิงเข้าไปที่นายนิติกร 1 นัด จนรถล้มลง และภรรยาก็ล้มลง และได้สั่งให้ภรรยาของผู้ตายนอนลงกับพื้น และยิงซ้ำเข้าที่นายนิติกรอีก 1 นัด ก่อนจะหยิบอาวุธปืนลูกซองพกสั้นของนายนิติกรที่พกติดตัวอยู่ยื่นให้เพื่อนถือ ก่อนจะเปิดฝาถังน้ำมันรถจักรยานยนต์ของผู้ตายและใช้ไฟแช็กจุดจนไฟลุกไหม้
ต่อมา จึงใช้อาวุธปืนลูกซองยิงภรรยาของนายนิติกรจำนวน 1 นัด และได้ใช้อาวุธปืนลูกซองพกสั้น ที่เป็นของนายนิติกร ยิงใส่ภรรยาอีก 1 นัดจนเสียชีวิต โดยผู้ต้องหาอ้างว่า ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะยิงภรรยาผู้ตาย แต่ต้องฆ่าเพราะเห็นเหตุการณ์แล้ว หลังจากนั้นก็ได้ขับรถนำปืนไปซ่อนก่อนจะแยกย้ายกันหลบหนีไปอยู่ที่บ้าน
ขณะที่นางกณิการ์ อายุ 46 ปี พี่สาวนายนิติกร (ผู้ตาย) เล่า ที่ผ่านมาไม่เคยรู้ว่าน้องชายเคยมีปัญหากับผู้ก่อเหตุ ส่วนปัญหาอื่นๆน้องชายไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน และก็ไม่เคยบอกหรือเล่าอะไรให้ฟัง เป็นคนชอบทำงาน ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร โดยปกติน้องชายก็มากรีดยางพาราทุกวันในช่วงค่ำ และกรีดเสร็จช่วงเช้าก็กลับบ้าน ส่วนภรรยาของเขาจะไม่ค่อยมาด้วย ส่วนใหญ่น้องชายจะมาเพียงคนเดียว แต่ครั้งนี้ได้นำภรรยามาด้วย สำหรับผู้ต้องหาทั้งสองทางญาติขอคัดค้านการประกันตัว ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ในวันเดียวกันนั้น ตำรวจก็ได้ควบคุมตัว ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยนายสิทธิกรยังคงยิ้มร่า เล่าถึงเหตุการณ์สุดสะเทือนใจ แบบไม่มีท่าทีที่สลดเลย
เบื้องต้น ตำรวจ ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปสอบปากคำเพิ่มเติม และแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และแจ้งข้อหาเกี่ยวกับ พรบ.อาวุธปืน เตรียมนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อีจันขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะคะ