เปิดไทม์ไลน์! ตา-ยาย โดนลูกสาวคนเล็ก วางยาหวังชิงสมบัติ 500 ล้าน

เปิดไทม์ไลน์ ตานอ และ ยายแว่น หลังถูกลูกสาวคนเล็ก วางยากล่อมประสาท หวังชิงเงินและทรัพย์สิน รวม 500 ล้าน

เปิดไทม์ไลน์ชัดๆ ลูกสาววางยาพ่อแม่ หวังฮุบสมบัติ 500 ล้าน!

หลังมีการเปิดเผย ผลตรวจเส้นผมตาและยาย ของนิติวิทยาศาสตร์ ปรากฏว่า ตาและยาย มีสารเคมีบางอย่างจริง ในส่วนของคดี ตากับยาย ยืนยันชัด จะเอาเรื่องลูกสาวคนเล็กให้ถึงที่สุด พร้อมตัดขาดความเป็นพ่อแม่-ลูก

ทั้งนี้เรามาดูไทม์ไลน์กันหน่อย ก่อนเกิดเรื่องนี้ โดยหลานสาวของตานอและยายแว่น เล่าหลังเกิดเรื่องว่า ตากับยาย มีลูกสาว 2 คน คนโตเป็นแม่ของตัวเอง และอีกคนคือน้าสาว ทั้งหมดอาศัยอยู่ด้วยกันเมื่อสามปีก่อน เป็นครอบครัวใหญ่ อยู่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แต่ว่า ระยะเวลาสามปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ปี 2563 ครอบครัวเริ่มมีปัญหาเรื่องการแบ่งมรดก ตากับยาย จึงเข้าใจผิด คิดว่าลูกสาวคนโต หรือแม่ของตนเองเนี่ย จะมาเอาสมบัติไป ตากับยาย จึงเลือกที่จะย้ายมาอยู่กับลูกสาวคนเล็ก และตัดขาดกับแม่ตัวเอง

ซึ่งตลอดสามปีที่ผ่านมา แม่ของตนไม่เคยได้คุยหรือติดต่อตายายอีกเลย จนกระทั่งวันเกิดเรื่อง ที่ยายมาร้องไห้ อยู่ข้างบ้าน แม่ของตนจึงเข้าไปช่วยเหลือ และสอบถาม จนได้รู้ความจริงว่าตายาย ถูกลูกสาวคนเล็ก วางยากล่อมประสาท เพราะว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ลูกสาวคนเล็ก ให้ยายกินยากล่อมประสาทมาตลอด และพบว่า เงินในบัญชีถูกตาและยาย ถูกโอนให้ลูกสาวคนเล็กกว่า 10 ล้านบาท รวมทั้งที่ดินกว่า 100 ไร่ มูลค่ากว่า 300 ล้าน ก็ถูกโอนเป็นชื่อลูกสาวคนเล็กจนหมด

ขณะเดียวกัน สองตายายเล่าว่า ลูกสาวคนเล็กเอาที่ดินไปจำนอง โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้ และไม่มีความคิดจะให้อยู่แล้ว นอกจากนี้เงิน 10 ล้าน ลูกสาวคนเล็กก็เอาไปหมด และในระหว่างที่ตนและเมีย อยู่กับลูกสาวคนเล็ก ก็เอายามาให้กินตลอด แต่พอกินแล้วรู้สึกเบลอ คอแห้ง ปากแห้ง ตาแดง มึนๆ พอหนีออกมาได้ ก็ไปขอความช่วยเหลือ และรู้ว่ามันคือยากล่อมประสาท

จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 24 ต.ค. 66 กรมที่ดินเอาหลักฐานมาแสดง โดยระบุว่า ตากับยายเป็นคนมาโอนที่ดินให้ลูกสาวเอง ในปี 2566 ซึ่งก่อนการโอนก็จะมีการตรวจสอบ สติ และความบกพร่องทางร่างกาย กรมที่ดินยืนยันว่า ตาและยายสมบูรณ์ทุกอย่าง และพอเกิดเรื่อง ตากับยายจึงได้มาขออายัดที่ดิน ห้ามทำนิติกรรมใดๆ ซึ่งขณะนี้เรื่องอยู่ในชั้นศาล  

และล่าสุดวันนี้ 1 พ.ย. 66 สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้แถลงผลการตรวจ DNA ของตาและยาย ผ่านเส้มผม ปรากฏว่า พบสารเคมีบางอย่าง ที่คาดว่าเป็นยาแก้ปวดชนิดรุนแรง ที่ทำให้มีอาการเบลอๆ มึนๆ หากได้รับเกิดขนาด อาจถึงเสียชีวิต นั่นก็แสดงว่า ตาและยาย ถูกวางยาโดยลูกสาวคนเล็กจริงๆ ซึ่งตาและยายก็บอกว่า ต่อไปนี้ขอตัดขาดกับลูกสาวคนเล็ก พร้อมดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนลูกเขย ก็เคยติดยามาก่อน ตาและยายคาดว่า ลูกเขย อาจมีส่วนร่วมด้วย

ในส่วนของรูปคดี คงต้องรอทางตำรวจสืบสวนสอบสวน และนำตัวลูกสาวคนเล็กมาให้ปากคำต่อไป