จากเหตุสลด สาววัย 32 ปี “ก้อย” วูบดับขณะไปทำบุญปล่อยปลากับเพื่อนสนิท สู่ มหากาพย์ ออมไซยาไนด์ ลวงตาย 14 ศพ!
ล่าสุดวันนี้ (7 พ.ค. 66) เวลาประมาณ 17.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เผยความคืบหน้าคดีของแอม และรองออฟ อดีตสามีแอม ที่ สโมสรตำรวจ ว่า วันนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวพ่อกับแม่ของรองออฟมาสอบปากคำแล้ว ส่วนประเด็นที่ว่าสอบเรื่องอะไรนั้นยังไม่ขอเปิดเผย
ส่วนหนี้ของรองออฟหลายล้านนั้น เอาเงินจากไหนมาใช้หนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เผย รองออฟอ้าง แอมเป็นคนใช้หนี้ให้
ซึ่งวิธีการที่แอมหาเงินมาใช้หนี้ บิ๊กโจ๊ก กล่าวว่า แอมใช้วิธี “ฆ่าล้างหนี้”
และในกรณีของแอมนั้น หลังตำรวจสืบทราบถึงวิธีการสั่งซื้อ ไซยาไนด์ ของแอมแล้วพบต่อมาว่า แอมสั่งซื้อในชื่อของบุคคลอื่น ซึ่งทางตำรวจได้ทำการสอบปากคำบุคคลดังกล่าวแล้วเบื้องต้น พบว่าคำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอย่างมาก
ส่วนคนรอบตัวแอมที่เกี่ยวข้องตำรวจกำลังดำเนินการตรวจสอบเพื่อเรียกมาสอบสวน หากสอบสวนแล้วพบความเกี่ยวข้องในคดีตามพยานหลักฐาน ก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับบุคคลที่สั่งซื้อสารต้านพิษตัวยาไซยาไนด์ ทางตำรวจทราบแล้วว่าเป็นใคร แต่ยังไม่เจอตัวเเละยังไม่ได้เรียกมาสอบปากคำ ส่วนปริมาณสารต้านพิษมีปริมาณไม่มาก
บิ๊กโจ๊กเผยต่อว่า เรื่องสำนวนคดีไม่น่าห่วง เหลือเพียงการไล่ไทม์ไลน์การใช้โทรศัพท์ และเส้นทางการเงินมาประกอบสำนวน ก็ใกล้จะสมบูรณ์แล้ว
รายละเอียดอื่นๆ ที่ได้มาเพิ่มเติมตอนนี้ตนไม่ขอเปิดเผยใดๆ เนื่องจากเกรงว่าอาจทำให้เป็นผลเสียต่อรูปคดี
อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมใหญ่ที่กองปราบฯ เนื่องจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. มีคำสั่งให้โอนย้ายสำนวน 14 คดีของแอมมาที่กองปราบฯ และให้ชุดคณะทำงานที่แต่งตั้งชุดเดิมดำเนินการต่อ โดยมี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นผู้ควบคุมดูแล
บทสรุปมหากาพย์ แอมไซยาไนด์ ลวงตาย 14 ศพ จะจบลงอย่างไร ติดตามที่อีจัน!