จากกรณีเมื่อวานนี้(2 ก.ย. 64) พ.ต.ต.สหวัสส์ ดาทอง พนักงานสอบสวน สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจาก น.ส.รัตน์ (นามสมมุติ)อายุ 35 ปี ว่า นายเฉลิมชัย (หรือเต๋า) สงวนนามสกุล อายุ 36 ปี ชาว ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นอดีตสามี ข่มขืนลูกสาวตนเองอายุเพียง 13 ปี จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปจับตัวมาดำเนินคดี
โดย น.ส.รัตน์ เล่าว่า นายเฉลิมชัย หรือเต๋า อดีตสามี เคยถูกศาลตัดสินจำคุก 25 ปี ในข้อหาข่มขืนอนาจาร โดยถูกจำคุกเมื่อเดือน พ.ย. 2553 และพ้นโทษออกมา เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 2564 รวมถูกคุมขังเป็นเวลา 10 ปี 9 เดือนเศษ เมื่อพ้นโทษก็กลับไปอยู่ที่บ้านกับลูกสาววัย 13 ปี ได้เพียง 3 วัน ก็ก่อเหตุข่มขืนลูกในไส้ตัวเอง
ต่อมา พ.ต.อ..ศิวัชณัฏฐ์ คุ้มทรัพย์ ผกก.สภ.ประจันตคาม ให้พนักงานสอบสวน ขอศาลจังหวัดปราจีนบุรีออกหมายจับนายเฉลิมชัย ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเป็นผู้สืบทอดสันดาน, กระทำอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยเด็กยินยอมหรือไม่ก็ตาม และเป็นผู้สืบทอดสันดาน จากนั้น พ.ต.ต.สุทัศน์ ทองกล่อม สว.สส. ร.ต.อ.พชรพล รอดไสว รอง.สว.สส. ร.ต.ท.อนันต์ เผ่าทหาร รอง.สว.สส. พร้อมกำลังตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุม นายเฉลิมชัย ที่บ้านพักหลังก่อเหตุ
นายเฉลิมชัย ให้การรับสารภาพว่า ในคืนเกิดเหตุ ตนได้ดื่มสุราจนมีอาการมึนเมา ทำให้มีความต้องการทางเพศ และได้ข่มขืนลูกสาวตนจนสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง
ซึ่งวันนี้(3 ก.ย. 64) เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายเฉลิมชัย หรือ เต๋า ออกจากห้องขัง เพื่อนำตัวไปทำแผนประกอบคำสารภาพ ที่บ้านหลังเกิดเหตุ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบ 10 กว่านายคุ้มกัน เมื่อเดินทางไปถึงมีชาวบ้านกว่า 100 คนที่ทราบข่าวมายืนดูด้วยความสนใจ และอยากเห็นหน้าพ่อที่ทำกับลูกสาวคนนี้ ใช้เวลาการทำแผนอยู่ประมาณ 15 นาที จึงได้นำตัวกลับไปที่ สภ.ประจันตคาม โดยระหว่างควบคุมตัวกลับผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายเฉลิมชัย ว่ามีอะไรจะขอโทษลูกสาวหรือไม่ ซึ่งนายเฉลิมชัยตอบสั้นๆว่า ขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่เดินขึ้นรถไป และนำตัวไปฝากขัง
จากการสอบถาม นายอาณัติ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นน้าเขย เล่าว่า เหตุที่เกิดขึ้นทุกคนในครอบครัวต่างคาดไม่ถึง ว่าพี่ชายจะก่อเหตุแบบนี้ได้ โดยเฉพาะพ่อกับแม่ถึงขั้นจะผูกคอตาย ทั้งนี้ก่อนช่วงที่จะเกิดเหตุในเวลา 20.00 น. หลานสาวฝาแฝดทั้งสองคน ได้นั่งเล่นพูดคุยหยอกล้อกับผู้เป็นพ่อ ประสาพ่อลูกที่ไม่ได้พบหน้ากันนาน เพราะตั้งแต่ผู้ก่อเหตุก่อคดีข่มขืนก็ติดคุกไป ตั้งแต่เด็กทั้งสองมีอายุเพียงแค่ 2 ขวบเศษ เวลาผ่านมาแล้วสิบกว่าปี หลังจากนั้นผู้ก่อเหตุและเด็กที่ถูกกระทำชำเราได้เข้าไปนอนในห้องเดียวกัน ซึ่งบุคคลภายในบ้านที่อยู่นอกห้องก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรที่ส่อให้เห็นว่ามีการข่มขืนกันเกิดขึ้น จนเวลาล่วงเลยมาถึงเช้า ที่แม่ของเด็กได้ไปแจ้งความ ทุกคนในบ้านถึงได้รู้ว่ามีเหตุเกิดขึ้น ก็ไม่คิดว่าจะเป็นครอบครัวของตัวเอง เพราะก่อนที่พี่ชายของตนจะพ้นคดีความออกมา หลานสาวทั้งสองก็ยังไปซื้อของมาจัดทำเพื่อเตรียมต้อนรับพ่อ หลังจากที่เหตุนี้เกิดขึ้น ทุกคนในครอบครัวพร้อมทั้งตนเองก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะตนก็รักหลานสาวทั้งสองคนเป็นที่สุด ไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดกับครอบครัวไหน หลังจากนี้ก็คงปล่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย
ด้านหน่วยงานคุ้มครองเด็กและเยาวชนปราจีนบุรี และพมจ.ปราจีนบุรี เข้ามาดูแลพร้อมสอบสวนต่อหน้าอัยการ ขณะนี้เด็กมีอาการเครียด หวาดกลัว โดยในเบื้องต้น ในส่วนการดำเนินงานของกระทรวง พม.จ.ปราจีนบุรี นั้น ได้นำตัวเด็กส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เพื่อตรวจสภาพร่างกาย และประเมินสภาพจิตใจ และจะอยู่ในการดูแลของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมทั้งจัดหานักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาเข้าร่วมสอบปากคำเด็ก ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และอื่นๆต่อไป
คลิปอีจันแนะนำ
กอดลาแม่ทั้งน้ำตา #ด.ช.7ขวบติดโควิด
{“src”: “9c24a0fc-bdc8-44f2-9f0f-d5a3c049aa81”}