(3 มิ.ย.64) ชาวบ้านบ้านปลัดมุม ต.สนามชัย อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชน หลังพบว่า ครอบครัวหนึ่งฐานะยากจน มีลูกสาวพิการป่วยเป็นเด็กออทิสติก ถูกข่มขืน และผู้ก่อเหตุไม่แสดงความรับผิดชอบ อยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้าไปช่วยเหลือ
ทีมข่าวอีจัน ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังดังกล่าวตั้งอยู่ริมสระน้ำ สภาพบ้านเป็นเพิงสังกะสีมีสมาชิกภายในครอบครัวจำนวนมี 5 คน คือ พ่อ อายุ 54 ปี ป่วยเป็นออทิสติก แม่อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นคนเดียวในครอบครัวที่ปกติ มีลูกสาวคนโต อายุ 26 ปี ลูกสาวคนกลาง อายุ 25 ปี และลูกสาวคนเล็กอายุ 18 ปี ทั้งหมดป่วยเป็นโรคออทิสติก ภายในบ้านไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ
นางน้อย (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ผู้เป็นแม่ เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 เม.ย.62 เธอได้พาลูกสาวคนโตไปช่วยงานบวชในหมู่บ้าน ซึ่งเป็นญาติห่าง ๆกัน ขณะที่เธอล้างจานอยู่มีชาวบ้านมาบอกว่า คนที่บวชนาค พาลูกสาวไปในท่อระบายน้ำข้างทาง จึงไปตามหาพบว่า ลูกสาวถูกญาติที่กำลังจะบวชข่มขืนกระทำชำเรา จากนั้นเธอได้พาลูกสาวไปตรวจภายในที่โรงพยาบาล แต่ไม่ได้ตรวจ เพราะทางโรงพยาบาลแจ้งว่า จะต้องเสียค่าตรวจภายใน 4,000 บาท เพราะไม่มีใบส่งตัวจากตำรวจ วันนั้นเธอมีเงินติดตัวเพียง 100 บาทเท่านั้น ได้แต่ทำใจและพาลูกกลับบ้าน
ภายหลังเกิดเหตุ เธอได้ไปเจรจากันกับครอบครัวผู้ก่อเหตุภายในงานบวช โดยฝ่ายชายยอมชดใช้เงินให้ 7,000 บาท พร้อมสัญญาหลังสึกจะมารับผิดชอบแต่งงานให้ แต่หลังจากสึกออกมา ฝ่ายชายก็ไม่ได้ทำตามสัญญาที่รับปากไว้ ทำให้คดีหมดอายุความ ครอบครัวจึงไม่รู้จะทำอย่างไร
ต่อมาเมื่อวันที่ 4 ก.ค. 63 ก็เกิดเหตุซ้ำรอย…
ลูกสาวคนกลาง อายุ 25 ปี ไปเยี่ยมญาติต่างหมู่บ้าน ก็ถูกชาย วัย 73 ปี ล่อลวงลูกสาวคนกลางไปข่มขืนกระทำชำเราในป่าอ้อยอีก พอเสร็จก็เอาเงินให้ลูกสาว 100 บาทเพื่อปิดปาก หลังจากนั้นลูกสาวมาเล่าให้ฟัง จึงได้พาไปแจ้งความที่ สภ.สตึก ตำรวจก็พาไปตรวจร่างกายแล้วแจ้งความดำเนินคดี ต่อมาตำรวจได้สรุปสำนวนส่งอัยการและได้ส่งศาล กระทั่งศาลนัดไต่สวนคดีใน วันที่ 2 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา เบื้องต้นศาลให้ไปไกล่เกลี่ยกัน แต่ผู้ก่อเหตุกลับปฏิเสธแล้วหลบหนีไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ เลย
นางน้อย เล่าอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้เธอทุกข์ใจและเสียใจมาก ไม่คิดว่าคนก่อเหตุจะทำกับลูกสาวของเธอที่ป่วยเป็นออทิสติกได้ลงคอ ตอนนี้ครอบครัวเดือดร้อนมากทั้งสภาพความเป็นอยู่ สภาพจิตใจของลูก อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้วย เพราะตอนนี้ครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย
ขณะที่นายกันวลินท์ เมืองแก้ว นายอำเภอสตึก หลังจากทราบเรื่องก็ได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมพร้อมมอบสิ่งของ และสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมรับปากว่าจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งทางตำรวจ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าว ทั้งเรื่องสภาพความเป็นอยู่ ที่อยู่อาศัย ส่วนเรื่องคดีก็จะได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด