คุกคามทางเพศ อนาจารในค่ายทหาร?
ทหารพรานหญิง ร้องขอความเป็นธรรม! อ้าง ถูกรุ่นพี่ ยศสิบเอก พยายามข่มขืนในค่าย ซ้ำยังถูกบังคับให้ลาออกจากงาน
เรื่องราวนี้มาจาก กันจอมพลัง หรือ นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ที่เมื่อวานนี้(22 ธ.ค. 66) ได้พา น.ส.ชลลดา (สงวนนามสกุล) ทหารพรานหญิงอายุ 28 ปี เดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมต่อรองปลัดกระทรวงกลาโหม เจ้ากรมจเร และโฆษกกองทัพบก ที่ กองบัญชาการกองทัพบก
โดย กันจอมพลัง กล่าวว่า น้องทหารพรานหญิงอยู่ชายแดนใต้มานานกว่า 7-8 ปี น้องมารักษาตัวที่พิษณุโลก อยู่ในบ้านพักของค่ายทหาร มีรุ่นพี่ทหารของแฟนน้องบุกเข้ามาที่บ้านตอนกลางคืน ช่วงที่แฟนไม่อยู่ออกไปปฏิบัติภารกิจ พยายามกระทำชำเรา น้องต่อสู้จนหนีรอดออกมาได้ หลังเกิดเหตุไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่หน่วย แต่กลับได้รับคำตอบว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับทางหน่วยงาน หลังจากนั้นเรื่องเงียบไป น้องจึงไปร้องที่หน่วยของคู่กรณีก็เงียบไปเช่นกัน ไม่ได้รับความคืบหน้า น้องจึงมาร้องต่อที่แอปพลิเคชันของทหารบก ผ่านไป 3 วัน มีคนนำเอกสารมาให้น้องเซ็นใบลาออก ซึ่งตัวน้องรู้สึกว่าถูกกระทำ ได้รับผลกระทบ ส่วนผู้ก่อเหตุกลับได้เลื่อนยศตำแหน่ง หลังเกิดเรื่องไม่มีใครออกมาปกป้อง ทั้งที่น้องออกไปทำงานแถวชายแดนใต้ปกป้องพี่น้องประชาชน ทำงานตามคำสั่งนาย แต่กลับไม่มีใครเห็นคุณงามความดี กลับกลัวเสียภาพลักษณ์องค์กร วันนี้ตนจึงประสานมาที่ ทบ. โดยทุกคนยินดีให้ความช่วยเหลือและจะรับข้อมูลและจะช่วยเหลือน้องผู้เสียหายอย่างเต็มที่
ด้าน น.ส.ชลลดา ทหารพรานหญิง ผู้เสียหาย เล่าถึงเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุว่า รุ่นพี่ของแฟนเข้ามาหาตนที่บ้านพัก แฟนของตนไปปฏิบัติราชการไม่อยู่ที่ห้อง ในวันเกิดเหตุเหมือนมีคนมาขยับประตูห้อง ตนก็ตั้งสติและตัดสินใจเปิดประตูออกไป เข้าไปที่ห้องครัวหยิบมีดมา ตอนนั้นเกิดความกลัว มือหนึ่งแหวกผ้าม่านออกมา อีกมือถือมีด จนพบว่าเป็นรุ่นพี่ของแฟนจึงไม่ได้คิดอะไร เราก็รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะเห็นว่าเป็นคนรู้จัก พอเปิดประตูเข้ามาก็กลับพูดว่าขอกอด และพยายามดึงแขนเพื่อที่จะข่มขืน ตนรู้สึกสะอิดสะเอียนมาก พยายามผลักและต่อสู้ ส่วนผู้ก่อเหตุยังเปิดเสื้อท้าทายให้ตนใช้มีดแทง เมื่อสบโอกาสตนจึงวิ่งไปในครัวแล้ววิ่งไปที่หน้าบ้าน เพื่อตะโกนเรียกให้คนช่วย ระหว่างนั้นก็สื่อสารกับแฟนให้หาคนมาช่วย และตนก็เข้ามาซ่อนตัวหลบอยู่ในห้องนอน ตอนนั้นรู้สึกกลัวและสติแตก ร้องไห้กระวนกระวาย กระทั่งมีรุ่นพี่อีกคนเข้ามาช่วยอย่างปลอดภัย
น.ส.ชลลดา ยังบอกอีกว่า ตนได้ไปร้องเรียนแต่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ถูกบีบบังคับให้เซ็นใบลาออก และหน่วยของต้นสังกัดของผู้กระทำส่งคนกลางมาไกล่เกลี่ย ซึ่งตนรู้สึกว่าตนเป็นผู้ถูกกระทำจึงอยากเป็นกระบอกเสียง เรียกร้องความเป็นธรรมจากเรื่องนี้ จึงมาขอความช่วยเหลือกับกันจอมพลัง
ทั้งนี้ หลัง กันจอมพลัง และทหารพรานหญิง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเสร็จ ก็มีเจ้าหน้าที่ทหารจากศูนย์บริการข้อมูลข่าวสาร ลงมารับเอกสารร้องเรียน และซักถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งจะได้รวบรวมเอกสารร้องเรียนนำเรียนผู้บังคับบัญชากองบัญชาการกองทัพบกต่อไป