เมื่อวานนี้ (6 ส.ค. 66) เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนนครบาล และสืบ 110 ร่วมกันจับกุมตัวนายวีรยุทธ หรือ “เอส คอลาย” อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ในข้อหา “ความผิดเกี่ยวกับเพศ” โดยจับกุมตัวได้ที่ ภายในซอยตลาดวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย จ.กรุงเทพฯ และสามารถช่วยเหลือ ด.ญ.วัย 12 ปีได้สำเร็จ ก่อนที่จะถูกคนร้ายพาหนีลงไปทางภาคใต้
ซึ่ง เอส คอลาย นั้น ไม่เพียงแต่ติดยาเสพติดอย่างงอมแงม แต่ยังก่อเรื่องราวสุดหดหู่ เอาไว้กับเด็กหญิงอายุ 12 ปีและครอบครัว โดยจุดเริ่มต้นของเรื่องราว เริ่มตั้งแต่ ปี 2562 ที่ เอส เริ่มรูกจักและคบหากับ น.ส.เอ๋ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ที่มี ด.ญ. ส้ม อายุ 8 ขวบ เป็นลูกติดมาด้วย เมื่อ เอส คอลาย เริ่มเข้ามามีบทบาทกับครอบครัว น.ส.เอ๋ ช่วงแรกก็ดูเป็นปกติ จนเมื่อ ด.ญ.ส้ม อายุ 11 ปี ชาวบ้านเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ โดยเฉพาะการที่นาย เอส ดูสนิทสนมกับ ด.ญ.ส้ม มากเกินกว่าพ่อเลี้ยงกับลูกเลี้ยง มีการหยอกล้อในเชิงชู้สาวกับ ด.ญ.ส้ม อยู่เป็นประจำ
กระทั่งในปี 2565 เรื่องราวของคนทั้งคู่ก็แดงขึ้น เมื่อ เอส แสดงอาการหมดรัก น.ส.เอ๋ อย่างชัดเจน รวมทั้งพา ด.ญ.ส้ม ไปกินอยู่ด้วย ฉันสามีภรรยา แบบไม่อายฟ้าดิน โดยตลอดการพาไปอยู่กินด้วย จะพูดจาหว่านล้อมให้ ด.ญ.ส้ม เกลียดแม่ตัวเอง รวมทั้งให้ลาออกจากโรงเรียน และให้ตกเป็นทาสกามอารมณ์ของตนเอง ไม่สนอนาคตของเด็ก กระทั่งในปัจจุบัน ด.ญ.ส้ม ไม่เรียนหนังสือและออกเร่ร่อนไปกับพ่อเลี้ยงอย่างสุดเวทนา โดยเธอเข้าใจว่านี่คือรักแท้ จนในปัจจุบันครอบครัว ของ น.ส.เอ๋ และ ด.ญ.ส้ม เรียกได้ว่าตายทั้งเป็น โดยล่าสุด เอส ได้พาตัว ด.ญ.ส้ม ร่อนเร่ออกไปจากบ้านอีกครั้ง
ซึ่ง น.ส.เอ๋ ผู้เป็นแม่ เมื่อทราบเรื่องก็ถึงกับใจสลาย ทั้งพยายามติดต่อ ตามหา แต่พ่อเลี้ยงคนนี้ ก็ยังนำโทรศัพท์มือถือของ ด.ญ.ส้ม ไปขาย เพื่อนำเงินไปซื้อยาเสพติดมาเสพ น.ส.เอ๋ ไร้ทางออก ได้แต่โพสต์ข้อความประกาศตามหา ด.ญ.ส้ม จนกลายเป็นไวรัล ซึ่งประชาชนต่างช่วยกันแชร์และติดตาม
เจ้าหน้าที่ พบประวัติของ เอส ว่าเคยต้องโทษคดีอาญา 13 คดี เช่น เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1, ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1, ลักทรัพย์, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ชิงทรัพย์, วิ่งราวทรัพย์, และกระทำพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารฯ
ในชั้นจับกุม นายวีรยุทธฯ หรือ “เอส คอลาย” ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยบอกว่า “ตนเองลงมือกระทำชำเราลูกเลี้ยงวัย 12 ปี จริง แต่ที่ทำไปก็เพราะความรัก ตอนแรกแค่แอบชอบ แต่พอพูดคุยกันไปมาก็เริ่มมีความรู้สึกรัก ตอนนี้ไม่ได้รักแม่ของเด็กแล้ว แต่มารักเด็กแทน โดยที่ผ่านมาตนเองเคยถูกจับกุมตั้งแต่วัยเด็ก โดยรวมทั้งหมดถึงปัจจุบันกว่า 13 ครั้ง ในข้อหา เสพยาบ้า, ครอบครองยาบ้า, ครอบครองยาไอซ์, ขับเสพฯ, ร่วมกันชิงทรัพย์ ชิงโทรศัพท์มือถือเด็กนักเรียน, ลักทรัพย์, ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์, พรากผู้เยาว์อายุ 13 ปี ไปเพื่อการอนาจารฯ และล่าสุดโดนข้อหา อนาจารเด็กและอยู่ระหว่างการประกันตัว ตนเองได้ถูกติดกำไร EM แต่ได้ถอดทิ้งไปเพื่อหลบหนี และจะไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาล เพราะไม่พร้อมที่จะติดคุก ฝากขอโทษครอบครัวของลูกเลี้ยง ทำให้เกิดเป็นปมด้อยเป็นตราบาปกับเด็ก และยอมรับว่าไม่ได้ไปทำแบบนี้กับเด็กคนอื่นอีกแน่นอน หากเจ้าหน้าที่เผยแพร่ใบหน้าตนไปแล้วมีเหยื่อมาชี้ยืนยัน ยินดีให้เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้เลย” ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะนำตัวส่งศาลอาญาธนบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ประวัติอาชญากรของ “เอส คอลาย” ถือว่าโชกโชนมากไม่ว่าจะเป็น ยาเสพติด, ชิงทรัพย์, และ อนาจาร ยาวเป็นหางว่าว เป็นภัยสังคม และจากแผนประทุษกรรมในคดีล่าสุดนี้เรียกได้ว่าไม่เหลือศีลธรรมในจิตใจ ไม่สามารถแยกแยะผิดชอบชัวดีได้ สามารถกระทำกับเด็กผู้หญิงวัยเพียง 12 ปี ที่เป็นลูกเลี้ยงของตนเองได้ และที่รับไม่ได้คือการบังคับให้เด็กเสพยาเสพติด ก่อนลงมือกระทำชำเราเด็ก เราไม่ต้องการให้คนเช่นนี้เพ่นพ่านในสังคม จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชน หากพบว่าบุตรหลานของท่านเคยตกเป็นเหยื่อ หรือมีแนวโน้มที่จะถูกคนร้ายรายนี้กระทำมิดีมิร้าย โปรดแจ้งเบาะแสมาที่เราทางเพจเฟสบุ๊ค “สืบนครบาล IDMB” เรามีเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง และแม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที
คลิปอีจันแนะนำ
สารภาพ อุบาทว์! เอสคอลาย “ผมแอบรักเขา” จับลูกเลี้ยงทำเมีย