“อาก๋ง” ยอมรับ เปิดเต้าสาว 17 ปี แก้กาลกิณี แต่ไม่ได้อนาจาร

“อาก๋ง” เจ้าสำนักดัง ยอมรับ! เปิดเต้าสาว 17 ปี แต่ไม่ได้อนาจาร ส่วนอีกคนที่กล่าวหาว่าข่มขืนนั้นไม่จริง ชี้ “ตรวจดูได้ เป็นเพียงพิธีแก้กาลกิณีเท่านั้น เพราะทั้ง 2 เป็นตัวกาลกิณีและเสียสาวตั้งแต่อายุ 13 ปี”

ล่าสุด อาก๋ง เจ้าสำนัก “อาก๋งแม่ระเบียงทอง” ออกมาให้สัมภาษณ์แล้วค่ะ หลังถูกสาว 17 ปี แจ้งข้อหาอนาจาร โดยอาก๋งยอมรับว่าเปิดเต้าสาววัย 17 ปีจริง แต่ไม่ได้อนาจาร เป็นเพียงการทำพิธีแก้กาลกิณีเท่านั้น ซึ่งจะต้องเปลือยกายและทำกลางแจ้ง จึงทำในรถป้องกันคนเห็น ส่วนอีกคนที่บอกว่าโดนอาก๋งข่มขืนนั้น อาก๋ง ยืนยันว่าไม่ได้ข่มขืน สามารถไปตรวจดีเอ็นเอได้ ทั้งหมดทำตามสูตร เพราะเด็กเป็นตัวกาลกิณีและเสียสาวตั้งแต่อายุ 13 ปีแล้ว 

จากกรณีเมื่อวันที่ 14 พ.ย.66 ที่ผ่านมา แม่ยุ้ย (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี ได้พาน้องเอ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ลูกสาว เข้าแจ้งความต่อรองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง เมืองบุรีรัมย์ ให้เอาผิดกับนายฉัตรพงษ์ หรืออาก๋ง อายุ60 ปี เจ้าของตำหนัก “อาก๋งแม่ระเบียงทอง” ซึ่งตั้งอยู่ที่ซอยโคกกลาง ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยบอกว่าอาก๋ง ได้กระทำอนาจาร น.ส.เอ ในรถกระบะ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.66 ที่ผ่านมา 

น้องเอ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงนั้นตนกลับจากไปโรงพยาบาล น้องบี(นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนที่เรียนอยู่ห้องเดียวกัน โทรมาหาว่า แม่ซึ่งเป็นลูกศิษย์อาก๋ง ให้มาแวะที่สำนักของอาก๋งก่อน ตนจึงแวะไปหาเพื่อน 

พออาก๋งเห็นน้องเอ ก็ได้ทักทันทีว่า “เป็นตัวกาลกิณี มีผีพลายตาม อาก๋งจะแก้ของให้ โดยให้ไปเอาเสื้อผ้าและวันเดือนปีเกิดของพ่อแม่มาด้วย” ตอนแรกคิดว่าอาก๋งน่าจะใช้แค่เสื้อผ้ามาทำพิธีแก้ จึงทำตามที่อาก๋งบอก หลังจากนั้นน้องเอก็กลับไปที่บ้านของน้องบี ไม่นานอาก๋งก็ขับรถมาจอดหน้าบ้าน บอกว่า “จะพาไปแก้ของ”ตอนนั้นยอมรับหวั่นใจ แต่เอกับบีก็ขึ้นรถไปกับอาก๋ง  

ระหว่างที่ขับรถไปอาก๋งไม่บอกว่าจะพาไปทำอะไร จนกระทั่งไปถึงตลาดนัดหนองแปบ ซึ่งวันนั้นไม่มีตลาดกลายเป็นที่เปลี่ยวลับสายตาคน อาก๋งได้ให้น้องเอนอนคว่ำอยู่เบาะด้านหลังเพราะเป็นรถ 4 ประตู อาก๋งเปิดเสื้อด้านหลังน้องเอ แล้วเอาแผ่นทองมาแปะหลัง จากนั้นให้น้องเอนอนหงาย แล้วพยายามดึงเสื้อขึ้น และพยายามกระชากกางเกงลง แต่ได้ปัดออกไป ทันใดนั้นอาก๋ง ได้กระชากเสื้อชั้นในน้องเอขึ้นทั้งหมด แล้วเอาแผ่นทองมาแปะบริเวณหน้าอกทั้งสองข้าง 

ยังไม่พอ อาก๋งยังให้น้องเอนอนตะแครง ส่วนอาก๋งถอดกางเกงออก พยายามจะให้ตนเองอมอวัยวะเพศ แต่ตนไม่ยอมดึงเสื้อผ้าใส่คืนแล้วลงรถทันที ตอนแรกคิดว่าอาก๋ง น่าจะสำนึกแต่ไม่ใช่กลับทำกับน้องบีที่นั่งอยู่หน้ารถเช่นเดียวกัน น้องเอจึงไปดึงเพื่อนลงรถ พร้อมกับชี้หน้าอาก๋ง ว่าถ้ามึงจะสาปแช่งอะไรให้สาบเลย เพราะก่อนหน้านี้อาก๋งขู่ไว้ว่าถ้าไม่ทำตามจะโดนสาปแช่ง  

อีกทั้งน้องบี เคยเล่าให้น้องเอฟังว่า ก่อนหน้านี้เคยถูกอาก๋งข่มขืนในรถมาแล้ว 3 ครั้ง พยายามบอกให้แม่ทางไลน์ แต่แม่ไม่สนใจกลับโดนด่าว่าแต่งเรื่อง และก้าวร้าว ซึ่งต่อมาได้ไลน์ไปหาพ่อที่ทำงานอยู่ จ.นครราชสีมา ส่วนสาเหตุที่แม่น้องบีไม่พาไปแจ้งความ อาจเป็นเพราะแม่นับถืออาก๋งมาก พยายามหาคนมาเข้าสำนักให้นับถืออาก๋ง  

ล่าสุดวันนี้ (15 พ.ย.66) ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง อาก๋ง ซึ่งขณะนี้ไปทำบุญอยู่ต่างจังหวัด อาก๋งได้เล่าผ่านทางโทรศัพท์ว่า ถ้าจะให้พูดตรงๆ เด็กที่ไปแจ้งความเขาเสียสาวตั้งแต่อายุ 13 ปีแล้ว เพราะดูลายมือแล้วรู้ทันที เด็กก็ยอมรับ หลังจากทักไปว่ามีกาลกิณี ก็ได้กำชับเด็กว่าห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใคร เพราะถ้าผู้ชายรู้เขาก็ไม่เอาเราไปเป็นคู่ พูดตรงๆ ถ้าตายผมก็ตายตามพระพุทธเจ้าไปเลยแต่ถ้าจะแก้ให้โทรศัพท์มาหา 

ส่วนการแก้กลกิณีเด็กทั้ง 2 คนนั้น จะต้องไปทำพิธีลงทอง ซึ่งจะต้องทำพิธีกลางโล่งแจ้ง แต่ในพิธีจะต้องเปลือย ถ้าลงกลางแจ้งแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่ดี จึงลงในรถซึ่งสะดวกกว่า ไม่มีใครเห็นแต่ไม่ได้ทำตามลำพังสองต่อสอง ตอนนั้นมีเด็กอยู่ 2 คน ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรเด็กเกินเลย 100% แต่ยอมรับว่าได้มีการเปิดเสื้อให้เห็นเต้าหน้าอกทั้งสองเต้า จึงจะสามารถลงแผ่นทองได้ ซึ่งมีความจำเป็นมากเพราะเด็กตกกาลกิณี หลังจากถูกแจ้งความได้เดินทางไปพบแม่เด็กแต่ถูกแม่เด็กไม่พอใจ จึงกลับมาก่อน แต่ถ้าผิดก็ยอมติดคุก 

ส่วนลูกสาวของลูกศิษย์ ที่อ้างว่าถูกตนล่วงละเมิดทางเพศนั้น หลังทราบเรื่องได้ให้แม่เด็กพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ผลออกมาว่าเด็กยังบริสุทธิ์ ไม่เคยถูกล่วงละเมิดแต่อย่างใด ถ้าพบหลักฐานก็พร้อมรับโทษ  

ขณะที่นางตุ้ม (นามสมมุติ) อายุ 60 ปี ยายเด็กที่กล่าวหาว่าอาก๋งข่มขืน เล่าว่า ปกติแม่เด็กจะไปสำนักของอาก๋ง ทุกวัน เพราะนับถืออาก๋ง ล่าสุดวันนี้แม่เด็กได้พาลูกสาวไปสะเดาะเคราะห์ที่ต่างจังหวัดแล้ว 

ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปค่ะว่าเรื่องนี้จะมีบทสรุปยังไง หากมีความเคลื่อนไหว ‘อีจัน’ จะมาอัปเดตอีกครั้งค่ะ แล้วลูกเพจล่ะคะมีความคิดเห็นยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้