รวบโค้ชพร้อมผู้สนับสนุนทีม ลงเด็กขืนใจ ถ่ายคลิปเเบล็กเมล์

ทำได้ลง! โค้ชฟุตบอล จ.อุดรธานี ข่มขืน ด.ช. พร้อมถ่ายคลิปแบล็กเมล์ ขู่ฟ้องผู้ใหญ่จะไล่ออก

โค้ชฟุตบอล จ.อุดรธานี ข่มขู่ ข่มขืนเด็กชาย ถ่ายคลิปเเบล็กเมล์หากขัดขืนจะถูกไล่ออกจากทีม ! พลเมืองดีร้อง “ปวีณา” ประสาน ผู้การ ปคม. จับแล้ว

เคสนี้ทางพลเมืองดี เข้ามาขอความช่วยเหลือกับทางอีจัน ทีมเราเลยเร่งประสานมูลนิธิปวีณา ฯ เพื่อให้การช่วยเหลือเด็กๆ และประสานต่อพลเมืองดีขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กเเละสตรี หลังทราบเรื่องราวสะเทือนใจ เด็กชาย 2 คน อายุ 10 ขวบเท่ากัน เรียนอยู่ชั้นป.4 โรงเรียนเเห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ทั้งคู่ถูกโค้ชสอนฟุตบอลชายและผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลล่วงละเมิดเพศทางและถ่ายคลิปหลายครั้ง จนเด็กมีอาการซึมเศร้าและไม่อยากมาโรงเรียน จึงขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย

โดยพลเมืองดี เล่าว่า ที่ผ่านมามีโค้ชสอนฟุตบอลชายและผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลคนหนึ่ง จัดตั้งทีมฟุตบอลเยาวชนชายขึ้นมา เเละได้มาขอใช้สนามฟุตบอลโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี เพื่อให้เด็กๆ ได้ฝึกซ้อมเป็นประจำ ซึ่งจะมีเด็กนักเรียนชายอายุ 10-13 ปี สนใจและรักกีฬาฟุตบอลก็ไปขอสมัครร่วมทีมด้วย

จนกระทั่งวันที่ 6 พ.ย.2566 ด.ช.เอ (นามสมมุติ) นักเรียนชั้นป.4 ได้เอาเสื้อฟุตบอลไปคืนและบอกว่าจะไม่กลับมาเล่นฟุตบอลอีกแล้ว

ตนจึงแปลกใจเพราะที่ผ่านมาสังเกตเห็นว่า เด็กคนนี้รักในการเตะฟุตบอลมาก จึงได้สอบถาม จน ด.ช.เอ เล่าให้ฟังว่า ถูก(โค้ช)นายหนึ่ง (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นมีข้าราชการเกษตรกรอำเภอแห่งหนึ่ง และเป็นโค้ชสอนฟุตบอล อายุ 43 ปี และนายสอง (นามสมมุติ) อดีตทหารยศ นายพัน ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอล อายุ 60 กว่าปี ข่มขืนกระทำชำเรา และถ่ายคลิปหลายครั้งที่บ้านพัก ในระหว่างที่เก็บตัวฝึกซ้อม หรือเดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ

ด.ช.เอ ยังเล่าอีกว่า เด็กๆ ที่อยู่ในทีมส่วนใหญ่จะมาซ้อมเเล้วกลับบ้าน แต่จะมีเด็ก 4-5 คน ที่โค้ชและผู้สนับสนุนจะคุยกับผู้ปกครองขออุปถัมป์และให้กินนอนที่บ้านโค้ช

ย้อนไปช่วงวันที่ 30 ก.ค.-ต้นเดือน ส.ค.66 โค้ชกับผู้สนับสนุนได้พาเด็กๆ ไปแข่งขันที่ จ.บึงกาฬ โดยเปิดห้องพักที่รีสอร์ท หลังแข่งเสร็จ โค้ชกับผู้สนันสนุนก็ได้เรียกเด็กไปกระทำชำเราที่ห้องพัก ห้องละ 2-3 คน โดยผลัดเปลี่ยนกันกระทำและถ่ายคลิป ซึ่งในจำนวนนั้นก็มี ด.ช.เอ และ ด.ช.บี ถูกกระทำด้วย

ซึ่งก่อนหน้านี้เด็กๆ ก็ถูกกระทำระหว่างไปแข่งขันที่ จ.ขอนแก่น เช่นกัน และเด็กอีก 3 คนที่อยู่บ้านโค้ชก็จะถูกผลัดเปลี่ยนกันมาให้โค้ชและผู้สนับสนุนกระทำ บางครั้งเด็ก 4-5 คนก็ถูกสั่งให้มาร่วมวงพร้อมกันอีกด้วย

“ตลอดเวลาเด็กๆ ทุกคนไม่กล้าขัดขืนเพราะโค้ชและผู้สนันสนุนเคยข่มขู่ไว้ว่า จะไล่ออกจากทีมและไม่ให้เล่นฟุตบอลอีก เด็กทุกคนจึงต้องยอมทน เพราะอยากจะเตะฟุตบอลและอยากเป็นนักกีฬาฟุตบอล หากใครกลับบ้านหรือหายไปไม่มาฝึกซ้อมโค้ชกับผู้สนันสนุนก็จะไปตามถึงบ้านและรับตัวกลับมาซ้อม” พลเมืองดีบอก

หลังกลับจาก จ.บึงกาฬ ด.ช.เอ ก็ไม่ไปฝึกซ้อมและพยายามตีตัวออกห่าง กระทั่งวันที่ 25 ส.ค.66 โค้ชกับผู้สนับสนุนก็มาตามที่บ้าน ด.ช.เอ ที่บ้าน ยายซึ่งไม่รู้เรื่องก็ยอมให้หลานไปอยู่บ้านโค้ชอีกและด.ช.เอ ก็ถูกกระทำเรื่อยมาจนวันที่ 6 พ.ย. ด.ช.เอ ทนไม่ไหวจึงได้ออกจากทีมและเอาเสื้อมาคืน

ขณะที่ ด.ช.บี ซึ่งถูกโค้ชและผู้สนันสนุนกระทำชำเราด้วย เมื่อรู้ว่าด.ช.เอ ไม่ยอมทนแล้วจึงได้ออกจากทีมด้วย เมื่อแม่และยายของเด็กชายทั้งสองรู้เรื่องก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี เพราะทั้งโค้ชและผู้สนับสนุนเป็นคนกว้างขวางและรู้จักคนที่มีตำแหน่งใหญ่โต จึงได้ร้องขอความช่วยเหลือมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเอาผิดโค้ชกับผู้สนันสนุน 2 คนนี้ให้ถึงที่สุด

หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ขับรถไปรับ 2 ครอบครัวนี้ที่จ.อุดรธานี เพื่อนำมาอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ และดูแลสภาพจิตใจ 2 เด็กชาย ก่อนจะประสาน พล ต.ต. ศารุติ แขวงโสภา ผบก ปคม. และพาแม่ ยาย และเด็กชายทั้ง 2 คน เข้าแจ้งความ ตรวจร่างกาย และสอบสหวิชาชีพเพื่อดำเนินคดีกับโค้ชและผู้สนับสนุน 2 รายนี้

ล่าสุด วันนี้ (14 ธ.ค.66) ตำรวจ ปคม. ออกหมายจับ ผู้ต้องหาที่1 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 4621/2566 ลงวันที่ 13 ธ.ค.66

สถานที่จับกุม หน้าบ้านแห่งหนึ่ง จ.อุดรธานี

ผู้ต้องหาที่2 ตามหมายจับศาลอาญาที่ 4622/2566 ลงวันที่ 13 ธ.ค.66 สถานที่จับกุม หน้าบ้านแห่งหนึ่ง จ.พิษณุโลก

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน 6 ข้อกล่าวหา

1.ร่วมกันกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปีฯ

2.กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปีฯ

3.ร่วมกันพาเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเพื่อการอนาจาร

4.ร่วมกันพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญฯ

5.ร่วมกันพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีเพื่อการอนาจาร

6.ร่วมกันกระทำการอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจให้เด็กกระทำอันมีลักษณะลามกอนาจาร

และอีกหนึ่งข้อหาอยู่ในช่วงสอบสวน

และลงบุกจับโค้ช เเละ ผู้สนับสนุนทีมฟุตบอลเเล้ว โดยทั้งคู่ รับสารภาพ เพราะยอมจำนนด้วยหลักฐาน

ฝากทางผู้ปกครองและครอบครัวต้องดูแลเด็กๆ อย่างใกล้ชิดนะคะ เรื่องนี้ใกล้ตัวมากๆ ดูพฤติกรรมของเด็กค่ะว่าน้องเปลี่ยนไปหรือเปล่า

หรือใครที่มีเบาะแสเพิ่มเติม ลองเข้ามามาที่เพจอีจันได้เลยนะคะ