“เจ๊นุช” คอตก! ศาลตัดสินคุก 13 ปี 5 เดือน คดีทารุณอดีตทหารหญิงรับใช้

“เจ๊นุช” คอตก! ศาลตัดสินคุก 13 ปี 5 เดือน คดี ตร.หญิง ทารุณ-กักขัง อดีตทหารหญิงรับใช้ ส่วนเพื่อนชายคนสนิท จำคุก 4 ปี 1 เดือน พร้อมชดใช้เงินอีกกว่า 3 แสนบาท

จำคดี “เจ๊นุช” ส.ต.ท.หญิงกรศศิร์ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ส.1 ร่วมกับเพื่อนชายคนสนิท ทำร้ายร่างกายทหารหญิง ที่เป็นทหารรับใช้นานกว่า 2 ปี ได้มั้ยคะ 



ล่าสุด วานนี้ (15 มี.ค.67) กัน จอมพลัง ได้พาทหารหญิงรับใช้ ที่ถูกทำร้าย พร้อมทนายโรส มาฟังคำพิพากษา ที่ ศาล จ.ราชบุรี ซึ่งใช้เวลาในการฟังคำพิพากษากว่านานกว่า 2 ชั่วโมง  

กัน จอมพลัง ให้สัมภาษณ์หลังฟังคำพิพากษาว่า หลังจากที่รอคอยมานานเกือบ 2 ปี วันนี้ศาลพิพากษามาแล้วให้จำเลยที่ 1 คือ เจ๊นุช  จำคุก 13 ปี 5 เดือน ส่วนเพื่อนชายคนสนิท จำคุก 4 ปี 1 เดือน หลังจากนี้ทางทนายโรส จะประสานกับอัยการให้ศาลพิจารณาโทษ ซึ่งศาลท่านก็คงมีดุลพินิจของท่าน แต่ทางน้องทหารที่โดนทำร้าย กับครอบครัวก็คงจะใช้สิทธิ์ของเขาต่อในเรื่องของโทษ เนื่องจากสิ่งที่น้องโดนมาเยอะและจดจำไปตลอดชีวิต ส่วนเรื่องจมูกที่หักและหายใจได้ข้างเดียวนั้น ก็ได้รับการดูแลจากคุณเซปิง และคุณหนุ่ม กรรชัย จนสามารถทำให้จมูกกลับมาหายใจได้ปกติ 

ด้านทนายโรส บอกว่า ศาลสั่งให้จำเลยที่ 1 ได้ชดใช้เป็นจำนวนเงิน 365,620 บาท ส่วนจำเลยที่ 2 ศาลสั่งให้ชดใช้ร่วมกับจำเลยที่1 จำนวน 350,616 บาท ส่วนที่ว่าจะเพียงพอกับสิ่งที่น้องเขาโดนมาหรือค่ารักษาตัวหรือไม่ ก็ขอให้ทุกคนคิดเอาเอง ซึ่งทางน้องก็จะมีการอุธรณ์ตามสิทธิ์ที่มี ส่วนข้อหาที่ถูกพิพากษาในวันนี้ คือ จำเลยที่ 1 และ 2 ร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ ร่วมกันทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส ทั้งนี้ จำเลยที่ 1 เจ๊นุช จะมีข้อหาเพิ่ม คือ กรรโชกทรัพย์ และข่มขืนใจ  ส่วนจำเลยที่ 2 มีข้อหาเพิ่มคือ พกพาอาวุธ และไม่จ่ายค่าจ้างตามกฎหมาย ส่วนข้อหาค้ามนุษย์นั้นไม่เข้าข่ายความผิด แต่ก็ต้องอุธรณ์ 

ขณะที่ ทหารหญิงรับใช้ที่ถูกทำร้าย บอกว่า ตอนแรกรู้สึกกังวลว่าคำพิพากษาจะออกมายังไง แต่เมื่อศาลมีคำพิพากษาแล้ว ก็คงจะต้องสู้ต่อไป ที่ผ่านมาโดนมาเยอะมาก ทั้งร่างกายและจิตใจ ภาพความทรงจำทุกอย่างยังอยู่ แต่เราเลือกที่จะไม่จำมันและอโหสิกรรมให้ ส่วนเรื่องคดีความจะเดินหน้าสู้ต่อไปและจะทำให้ดูเป็นตัวอย่าง ว่ามนุษย์คนหนึ่งไม่สมควรที่จะโดนอะไรแบบนี้  

ทหารหญิงรับใช้ที่ถูกทำร้าย เล่าต่อว่า ชีวิตประจำวันตอนนี้ทำกล้วยฉาบขาย เพราะอยู่ในช่วงคุ้มครองพยานของกระทรวงยุติธรรม มาถึงวันนี้ก็อยากขอบคุณผู้สื่อข่าวที่ช่วยนำเสนอข่าวและขอบคุณคุณกันที่ช่วยเหลือทุกอย่าง (พร้อมกับนำพวงมาลัยมาก้มกราบคุณกัน) จากที่เคยอยู่ในความมืดก็ไม่คิดว่าชีวิตจะมาพบกับแสงสว่าง จนตอนนี้รู้สึกว่าความเป็นมนุษย์นั้นมีคุณค่ามากกว่าที่เราจะหายไปจากโลกใบนี้ 

อย่างไรก็ตาม หากมีความเคลื่อนไหว ‘อีจัน’ จะแจ้งให้ทราบ 


คลิปอีจันแนะนำ

หม่ำ จ๊กมก แจ้งความ ถูกลูกน้องมือดี ยึดเพจ คนติดตาม 1.7 ล้าน