ครูชี้เเจง สั่งเด็กลุกนั่งแค่ 20 ครั้ง โต้ ปมกระดูกเเตก

ครูสั่งเด็ก ลุก-นั่ง จนกระดูกเเตก ชี้เเจง ไม่ได้ลงโทษตามที่เป็นข่าว ยันรับผิดชอบมาตลอด ล่าสุด รอง ผอ.สพป.ลำพูนเขต 2 สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเเล้ว

ครูสั่งทำโทษนักเรียน ลุก-นั่ง จนกระดูกเเตก ?

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.พ.66 ที่โรงเรียนเเห่งหนึ่งใน จ.ลำพูน

น้องตุ้ย (นามสมมุติ) เด็กนักเรียนชั้น ป.6 ถูกครูสั่งทำโทษ ให้ลุกนั่ง 50 ครั้ง เหตุผลเพราะ ไม่ใส่เเมสก์มาโรงเรียน และช่วงบ่าย สั่งทำโทษอีก 100 ครั้ง เนื่องจากเข้าห้องเรียนสาย ไปเตะบอลกับเพื่อนมา

หลังจากที่ถูกทำโทษ น้องตุ้ย มีอาการบาดเจ็บที่ขา อาจจะเพราะน้ำหนักตัว 80 กิโลกรัม แต่ยังไม่กล้าบอกพ่อ จนวันรุ่งขึ้น น้องตุ้ยขยับขาได้ จึงยอมบอกให้พ่อพาไปหาหมอ

น้องตุ้ยรับการรักษาที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ.66 ตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้ไปเรียนจนถึงปัจจุบัน

นายพงษ์ พ่อของน้อยตุ้ย เล่าว่า ค่ารักษาตั้งแต่วันเกิดเหตุ จนถึงปัจจุบัน ปาเข้าไป 50,000 บาทแล้ว ตนขาดรายได้ เพราะ ต้องคอยอยู่ดูแลลูก เเละครอบครัวมีความยากจน ทางโรงเรียนได้มอบเงินค่าเยียวยาเบื้องต้น 10,000 บาท และ เขตการศึกษาฯ มอบเงินช่วยเหลืออีก 3,000 บาท ทำให้ตนเดือดร้อนมากๆ วอนผู้เกี่ยวข้องเข้าช่วยเหลือ

ด้านโรงเรียนที่น้องตุ้ยเรียน ออกมาชี้เเจงว่า ไม่ได้สั่งให้เด็ก ลุกนั่ง 150 ครั้ง ตามที่เป็นข่าว เพียงแต่ลงโทษเด็กตอนเช้าแค่ 20-30 ครั้ง และตอนบ่ายอีก 20 ครั้ง และให้ไปเก็บขยะเท่านั้น ที่ผ่านมาครู และทางโรงเรียนก็ไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ คอยช่วยเหลือครอบครัวน้องตุ้ย ทั้งเรื่องเงินค่ารักษา ทั้งพาน้องตุ้ยไปโรงพยาบาล ทั้งนำข้อสอบไปให้น้องตุ้ยทำถึงบ้าน เพื่อที่จะได้จบการศึกษา

เเละล่าสุดครูก็พาน้องตุ้ย ไปหาหมอที่ รพ.ลำพูน และไปทำเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์ ที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อไม่กี่วันมานี้ ตนนั้นไม่ได้ละเลย หรือปัดความรับผิดชอบแต่อย่างใด

นายลิขสิทธิ์ ผลจันทร์งาม รอง ผอ.สพป.ลำพูนเขต 2 เผยว่า ตอนนี้ทางเขตได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวน ข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าวแล้ว เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าครูคนดังกล่าว ได้กระทำผิดจริงไหม หากจริงจะมีการสอบสวนทางวินัยต่อไป และเมื่อวานนี้ ทางผอ.เขต ก็ได้ไปเยี่ยมอาการของน้องตุ้ย ที่รพ.และทราบว่าน้องจะเข้าผ่าตัด ในช่วงสายของวันนี้ส่วนการช่วยเหลือในส่วนแรก ทางเขตจะระดมทุนเงินจากกองทุน ที่เขตร่วมกันตั้งขึ้นมา และ อีกส่วนมาจากการระดมทุนของโรงเรียนเอง ย้ำว่า จะมีหลายภาคส่วนในเขตพื้นที่ เข้าช่วยเหลือแน่นอน