
นายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังมีผู้ประกอบการอีกจำนวนมากที่ยังไม่สามารถขายห้องพักให้กับประชาชนผ่านโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่งได้ เนื่องจากต้องรอการตรวจสอบคุณสมบัติถึง 2 ขั้นขั้นตอนคาดว่าใช้ระยะเวลาอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 1-2 สัปดาห์ เกิดจากความซับซ้อนของระบบลงทะเบียนของผู้ประกอบการร

ขณะเดียวกันก่อนเปิดให้ประชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ไม่ได้ชิญผู้ประกอบการมาชี้แจงรายละเอียดการเข้าร่วมเข้าโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ว่าคุณสมบัติของผู้ประกอบการต้องมีอะไรบ้าง ราคาห้องพักกำหนดราคาใด ซึ่งเพิ่งรู้รายละเอียดโครงการฯ ผ่านการนำเสนอของข่าวเหมือนกับทุกคนว่า ททท. จะเปิดให้ผู้ประกอบการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง เมื่อช่วงกลางเดือนมิ.ย. 2568 และเข้าใจว่าเป็นการลงทะเบียนพร้อมเข้าร่วมโครงการเรียบร้อยแล้ว แต่ทาง ททท. แจ้งว่าเป็นเพียงการซาวด์เสียงผู้ประกอบการเท่านั้น
“ส่วน”ผู้ประกอบการที่ประสงค์เข้าร่วมโครการเที่ยวไทยคนละครึ่ง รัฐบาลจะเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 25 มิ.ย. 2568 เวลา 01.00 น. ผ่านเว็บไซต์ เที่ยวไทยคนละครึ่ง.com หลังจากนั้นจะต้องรอผลการตรวจสอบถึง 2 ครั้ง คือ รอบแรกการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะส่งประวัติผู้ประกอบการให้ธนาคารกรุงไทยตรวจสอบคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 3-5 วัน ส่งกลับมาให้ ททท. เพื่อตรวจสอบราคาห้องพักว่าเหมาะสมหรือไม่ก่อนจะพิจารณาอนุมัติการเข้าร่วมโครงการ” นายเทียนประสิทธิ์ กล่าว

ขณะที่ปัญหาที่ผู้ประกอบการหลายรายสะท้อนออกมาเป็นเสียงเดียวกันคือ ในระบบการลงทะเบียนโครงการฯ ให้ผู้ประกอบการระบุราคาห้องพักแค่ 1 ราคา เท่านั้น โดยไม่มีอธิบายรายละเอียดอะไรเพิ่มเติม ทำให้บางรายส่งราคาวันธรรมดาราคาเริ่มต้น บางรายส่งราคาสูงสุด (rack rate) ซึ่งเป็นราคาเผื่อต่อรอง เพราะคิดว่า ททท. จะมีการปรับอีกที และเรียกผู้ประกอบการมาทดลองระบบก่อนเริ่มโครงการ แต่ไม่ใช่ ไม่มีการเรียกคุยและเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนโดยไม่มีการทดลองระบบกับผู้ประกอบการ และข้อมูลที่ผู้ประกอบสมัคร ผ่านการอนุมติเข้าร่วมโครงการฯ แล้วจะไม่สามารถแก้ไขได้ ส่วนผู้ประกอบการยังไม่ผ่านการอนุมัติทาง ททท. แจ้งว่าจะสามารถแก้ไขข้อมูลได้ แต่โรงแรมของผมอีกแห่งที่สมัครไปแล้วรอการอนุมัติก็ไม่สามารถเข้าไปแก้ไขได้เช่นกัน ก็ไม่รู้เหมือนกัน
นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวต่อไปว่า แม้ระบบจะมีปัญหาบางแต่ในส่วนในส่วนของอานิสงส์ด้านเศรษฐกิจจากงบประมาณ 1.700 พันล้านบาท คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจกระจายรายได้ได้บ้าง ดีกว่าไม่อะไรมากระตุ้นเลยในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น) แบบนี้