‘สลากดิจิทัล’ บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง ยังฮอตไม่เลิก เพราะตอบโจทย์คอหวยด้วยราคาสลากในราคา 80 บาททุกใบ ซึ่งนับตั้งแต่งวดแรกที่เปิดให้ซื้อขายสลากดิจิทัล ปี 65 ก็สร้างสถิติที่น่าสนใจ เช่น เปิดขายงวดแรก วันที่ 16 มิ.ย.65 จำนวน 5 ล้านใบ, งวดวันที่ 16 ก.ค.65 ทำสถิติขายหมด ‘เร็วที่สุด’ โดยเปิดขายทั้งหมด 7 ล้านใบ ขายหมดเกลี้ยงในเวลา 29 ชั่วโมง
อย่างงวดวันที่ 30 ธ.ค.65 มีขายสลาก ‘มากที่สุด’ จำนวน 16.2 ล้านใบ ขณะเดียวกัน ปี 65 นั้น มีผู้โชคดีถูกรางวัลสลากดิจิทัล รวมจำนวน 8.9 แสนคน (เฉลี่ย 64,000 คน/งวด) รวมเงินรางวัล 7,500 ล้านบาท (เฉลี่ย 542 ล้านบาท/งวด) จำนวนสลากที่ถูกรางวัลทั้งหมด 2.2 ล้านใบ (เฉลี่ยถูก 157,142 ใบ/งวด) และมีผู้ถูกรางวัลที่ 1 ไปแล้ว 158 ใบ รวม 948 ล้านบาท และผู้ถูกรางวัลที่ 1 มากที่สุด 16 ใบ เป็นเงิน 96 ล้านบาท
ถึงตอนนี้ยังอยู่ในช่วงต้นปี 66 เพิ่งผ่านการออกรางวัล มาเพียง 4 งวด ก็ล้มล้างสถิติเดิมปี 65 จนหมดสิ้น ทั้งจำนวนสลากที่ขายได้มากสุด ในงวดวันที่ 17 ม.ค.66 จำนวน 17.1 ล้านใบ
และในงวดล่าสุด 1 มี.ค.66 ทำคนอิจฉาทั้งบ้านทั้งเมือง เพราะเป็นงวดแรกที่มีผู้ถูกรางวัลที่ 1 คนเดียวถึง 17 ใบ เป็นเงิน 102 ล้านบาท แม้ก่อนหน้านี้ มี 3 งวด ที่มีผู้ถูกรางวัลที่ 1 คนเดียว แต่เงินรางวัลแตกต่างกัน โดยงวด 1 ธ.ค.66 จำนวน 16 ใบ เป็นเงิน 96 ล้านบาท งวด 16 ส.ค.65 จำนวน 9 ใบ เป็นเงิน 54 ล้านบาท และ 16 ก.ค.65 จำนวน 5 ใบ เป็นเงิน 30 ล้านบาท
ทำสถิติดีไม่แผ่วแบบนี้ นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ด้วยความตั้งใจ ยิ่งสลากดิจิทัลมีปริมาณมากเท่าไร ยิ่งทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงสลากในราคา 80 บาทได้มากขึ้น และจะช่วยดึงราคาสลากของผู้ค้ารายย่ายลง ปัจจุบันเปิดให้มีการซื้อขายสลากดิจิทัล อยู่ที่ 17 ล้านใบ คาดว่า งวดหน้าจะเพิ่มเป็น 18 ล้านใบ ในระยะเวลาอันใกล้จะเพิ่มเป็น 20 ล้านใบ และภายในปี 67 จะเพิ่มเป็น 30-40 ล้านใบ
“เราไม่เชื่อว่าเป็นการมอมเมา แต่เชื่อว่าเป็นความพยายามให้คนหันมาเสี่ยงโชคอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพราะกิเลสมนุษย์มีอยู่ทุกสังคมโลก ทำให้รูปแบบการพนันมีการปรับตัวและเติบโตตาม ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ก็หันไปเล่นพนันออนไลน์ไม่ใช่น้อย เชียร์บอลแต่ละครั้งก็มีการพูดถึงอัตราต่อรองให้ได้ยินกัน อีกอย่าง เราไม่ได้เพิ่มปริมาณสลาก เพราะทั้งระบบมี 100 ล้านใบอยู่แล้ว แต่แบ่งเป็นสลากดิจิทัลเพิ่มขึ้น ส่วนที่เหลือเป็นสลากแบบใบ” นายธนวรรธน์ ระบุ
ส่วนความคืบหน้าการออกสลากแบบตัวเลข 3 หลัก (Number 3 : N3) และสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (Lottery 6 : L6) ซึ่งผ่านการรับฟังความคิดเห็นประชาชนและศึกษาผลกระทบทางสังคม ในภูมิภาคต่างๆ ได้แก่ ชลบุรี ขอนแก่น เลย นครศรีธรรมราช และกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เดือน ก.ค. ถึง ส.ค.65 ที่ผ่านมา นั้น
นายธนวรรธน์ เผยว่า สลากแบบ N3 นานาชาตินิยมทำกันมานานแล้ว เพียงแต่ประเทศไทยยังไม่เคยมี ซึ่งก็คือ การออกรางวัลแบบ 3 ตัวตรง, เลข 3 ตัวสลับ หรือ 3 ตัวโต๊ด โดยจะมีรางวัลแจ็คพอต และรางวัลเลข 2 ตัวด้วย
ตัวอย่าง: กองสลากฯขายสลากและรับเงินมา 100 บาท ตามกฎหมายให้แบ่งเงินรางวัลออกมา 60 บาท จากนั้นใน 60 บาท จะแบ่ง 30% สำหรับรางวัลแบบ 3 ตัวตรง อีก 30% สำหรับ 3 ตัวโต๊ด และ 39% สำหรับเลข 2 ตัว ส่วนรางวัลแจ็คพอต อีก 1%
“การออกสลากแบบใหม่ ทั้ง 2 ประเภท เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชน ได้ซื้อสลากในราคาตามกฎหมาย เพราะจะขายผ่านระบบดิจิทัลรูปแบบในรูปแบบหนึ่ง ผู้ซื้อไม่ต้องจ่ายเงินสดแล้วเจอโก่งราคา ขณะเดียวกัน ก็หวังว่า จะดึงเงินจากหวยใต้ดินให้เข้ามาอยู่ในระบบด้วย ไม่ได้ตั้งใจจะแข่งขันกับหวยใต้ดินแบบ 100% แต่เชื่อว่า เงินรางวัลจะช่วยเพิ่มความจูงใจไม่มากก็น้อย” นายธนวรรธน์ ระบุ
ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ จะเสนอสลากแบบใหม่เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า หากผ่าน ครม. สามารถออกสลากแบบ L6 ได้เลย เปลี่ยนรัฐบาลไม่ทำให้สะดุด
คลิปอีจันแนะนำ
สวยให้สุด! พ่อซื้อมงกุฎให้ลูกสาว