โคราช ขนุนราคาตก โดยเฉพาะขนุนพันธุ์ทองประเสริฐ ราคาหน้าสวนเหลือเพียงกิโลกรัมละ 2 บาท ทำชาวสวนเดือดร้อนหนัก ยังดีที่บางสวนปลูกขนุนพันธุ์อื่นไว้ กระจายความเสี่ยงไปได้บ้าง
วันนี้ (30 พ.ค. 65) ชาวสวน โคราช เดือดร้อนหนัก หลายสวนที่ปลูก ขนุนพันธุ์ทองประเสริฐ ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นิยมเพาะปลูกกันเป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่ของโคราช ต้องประสบกับปัญหาราคาตกต่ำ จากที่เคยราคาสูงสุดกว่า 40 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันราคาหน้าสวนเหลือเพียงกิโลกรัมละ 2 บาท!
สาเหตุมาจาก ปัญหาเรื่องของการส่งออกในสถานการณ์โควิด อีกทั้งยังเป็นช่วงฤดูกาลผลไม้ที่ออกมาอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะทุเรียนที่เป็นผลไม้แบ่งตลาดต่างประเทศจากขนุน ทำให้เกษตรกรต้องได้รับผลกระทบอย่างหนัก แต่ก็ยังพอมีขนุนบางพันธุ์ที่ยังขายได้ราคา และยังมีตลาดต้องการเป็นจำนวนมาก จนแทบไม่พอขาย อย่างขนุนพันธุ์ทวายปีเดียว ที่ยังขายได้ราคากิโลกรัมละ 12–18 บาท เนื่องจากเป็นขนุนที่มีรสชาติดี เนื้อเป็นโฟม หวานกรอบ และมียางน้อย
นายวีระ สร้อยสละ อายุ 57 ปี เกษตรกรผู้ปลูกขนุนทวายปีเดียว บ้านราษฏร์สุขสันต์ ต.สระว่าพระยา อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา เล่าว่า ตนได้ติดสินใจทดลองปลูกขนุนพันธุ์ทวายปีเดียวเป็นเจ้าแรกๆ ของอำเภอครบุรี โดยจัดสรรเนื้อที่ปลูกไว้ประมาณ 12 ไร่ ขนุนเริ่มให้ผลผลิตตั้งแต่ปีแรกที่ปลูก แต่เริ่มเก็บเกี่ยวได้จริงในปีที่สอง ในขณะที่พันธุ์อื่นจะใช้เวลาอย่างน้อย 3 ปี จึงจะให้ผลผลิต ตอนนี้ผ่านมา 4 ปี มีขนุนทั้งหมดกว่า 1 พันต้น!
นายวีระ เล่าต่อว่า ขนุนพันธุ์นี้ จะมีรสชาติหวาน กรอบ ยางน้อย ลูกไม่เล็กหรือใหญ่มากไป อยู่ที่ประมาณ 9–12 กิโลกรัมต่อลูก ซึ่งตรงตามมาตรฐานส่งออก ส่วนใหญ่จะส่งออกตลาดต่างประเทศ อย่างประเทศจีน ปีที่ผ่านมาที่สวนของตนเองส่งออกไปจีน 12 ตัน ส่วนที่เหลือก็ส่งขายให้กับแม่ค้าซึ่งจะมารับซื้อถึงสวน เพื่อนำไปแกะขายปลีก
เสียงตอบรับคือ เป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าเป็นอย่างมาก หลายคนที่เคยกิขนุนทวายปีเดียวแล้วติดใจ จนแทบจะไม่กินพันธุ์อื่นเลยทีเดียว
สำหรับการดูแลก็แทบไม่ต่างจากขนุนทั่วๆ ไป เพียงแต่ต้องระวังในเรื่องของโรคราสนิมเป็นพิเศษ อีกทั้งยังสามารถปลูกประชิดได้กว่าขนุนพันธุ์อื่น ทำให้มีจำนวนต้นต่อไร่มากขึ้น เพราะขนุนพันธุ์อื่นๆ อย่างทองประเสริฐ จะปลูกระยะห่างกันประมาณ 6 X 7 เมตร แต่พันธุ์ทวายปีเดียวใช้ระยะห่าง 4 X 5 เมตรเท่านั้น ส่วนอื่นๆก็เหมือนกันหมด และในอนาคตอันใกล้นี้ตนก็จะขยับพื้นที่ปลูกใหม่มากขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของท้องตลาด ที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วย
ในภาวะที่ไทยต้องเจอกับเศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ เกษตรกรหลายรายเดือดร้อน ราคาผลไม้หลายๆ ชนิด ตกลงฮวบ แต่ก็ต้องดิ้นกันต่อไป เพราะมันคืออาชีพที่จำต้องทำเพื่อหาเลี้ยงอีกหลายชีวิต แต่ในวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ จันเป็นกำลังใจให้ทุกคนสู้ต่อไปนะคะ
คลิปอีจันแนะนำ
60 ยังแจ๋ว ขายต้นไม้ออนไลน์ เลี้ยงชีพ